สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จัดโครงการกองทุนน้ำใจจากพี่สู่น้อง ช่วยเหลือเด็กผู้ป่วยธาลัสซีเมีย

สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จัดโครงการกองทุนน้ำใจจากพี่สู่น้อง เปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค และช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยเด็กโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งแต่ละปีพบเด็กไทยกว่าหมื่นราย ทั่วประเทศ เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย พญ. วันดี นิงสานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีได้จัด “โครงการกองทุนน้ำใจจากพี่สู่น้อง” เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยเด็กโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ให้ผู้ป่วยเด็กเหล่านั้นได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่ดีและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคที่มีความผิดปกติในระบบเม็ดเลือดจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งพบว่าในแต่ละปีนั้น มีเด็กไทยที่เกิดใหม่ กว่า 1 หมื่นรายที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และมีคนไทยที่ต้องอยู่กับโรคนี้กว่า 5 แสนคน โดยเฉพาะคนไทยที่อยู่ในชนบท ทั้งในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นกลุ่มที่ต้องเผชิญกับโรคนี้มากที่สุด โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียนั้น เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดโดยยีนด้อยและพบมากในประเทศไทย โดยประมาณ 30-40% ของประชากรไทยมีพันธุกรรมของโรคนี้แฝงอยู่โดยไม่มีอาการ แต่จะเป็นพาหะถ่ายทอดทางพันธุกรรมธาลัสซีเมียต่อไปให้ลูกหลาน หากบุคคลเหล่านี้มาแต่งงานกันและเผอิญมีพันธุกรรมธาลัสซีเมียที่สอดคล้องกัน ก็อาจมีบุตรเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียได้ ทำให้ประเทศไทยมีผู้เป็นโรคประมาณ 6 แสนคน และเป็นพาหะประมาณ 24 ล้านคน ในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยเด็กโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียนั้น เนื่องจากผู้ป่วยมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลให้การสร้างเม็ดเลือดแดงในไขกระดูกไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่และเม็ดเลือดแดง มีการแตกทำลายง่ายหรืออายุสั้นกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องได้รับเลือดหรือถ่ายเลือดจากผู้บริจาคเพื่อไปทดแทนเม็ดเลือดแดงของตนเอง โดยการดูแลอาการดังกล่าวจะต้องระมัดระวังภาวะเหล็กเกิน ซึ่งในปัจจุบันแพทย์สามารถประเมินภาวะดังกล่าวได้ ด้วยการวัดระดับค่า ซีรั่มเฟอไรติน (Serum Ferritin) ซึ่งจะช่วยบ่งบอก ถึงปริมาณของธาตุเหล็กในร่างกาย ในคนปกติจะมีระดับเฟอไรตินน้อยกว่า 250 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร และแพทย์จะถือว่ามีภาวะเหล็กเกินเกิดขึ้นเมื่อระดับเฟอไรตินสูงกว่า 1,000 นาโนกรัม ต่อ มิลลิลิตร ถ้าไม่ได้รับการรักษาภาวะเหล็กเกิน จะส่งผลเสียต่ออวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ตับ หัวใจ ตับอ่อนและต่อมไร้ท่ออื่น ๆ พญ. วันดี กล่าวต่อว่า “การดูแลอาการดังกล่าวต้องใช้ยาขับเหล็กที่ถูกต้อง สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมียารับประทานที่มีประสิทธิภาพสูง แต่กลุ่มผู้ป่วยเด็กโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ที่มีปัญหาขาดแคลนทางด้านทุนทรัพย์ไม่สามารถซื้อยาดังกล่าวได้” สำหรับ การจัด “โครงการกองทุนน้ำใจจากพี่สู่น้อง” ของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ต้องการที่จะช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยเด็กดังกล่าว โดยหาเงินบริจาคเข้าสมทบทุนเพื่อดำเนินการโครงการ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายพิเศษให้ความรู้แก่ผู้ปกครองที่มีบุตรและการพบปะของกลุ่มผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย ฯลฯ โดยผู้ดำเนินการโครงการกำลังรอผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือน้อง ๆ ที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไปและเพื่อให้เขาได้มีโอกาสมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ดังนั้นจึงใคร่ขอเชิญชวนผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการรักษาโดยโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ “กองทุนน้ำใจจากพี่สู่น้อง” ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขา ร.พ. ราชวิถี เลขที่บัญชี 051 – 2 – 09873-5 และหากต้องการนำไปหักภาษีให้นำสำเนาใบฝากเงิน (Pay in) พร้อมชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของผู้มีจิตศรัทธาบริจาค แล้วส่งแฟกซ์ไปยังมูลนิธิฯ ที่หมายเลข 0- 2354-8321 เพื่อออกใบเสร็จและจัดส่ง นอกจากนี้ท่านสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0- 2354-8321 (มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก) สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณธนศักย์ อุทิศชลานนท์ (โป้ง) ,คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด โทร.0-2439-4600 ต่อ 8202 , 8300 มือถือ 081-421-5249 อีเมล์: [email protected]

• ข่าวสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
• ข่าวสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ
• ข่าวสุขภาพเด็กแห่งชาติ
• ข่าวสถาบันสุขภาพเด็ก
• ข่าววันดี นิงสานนท์