สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย เปิดตัวองค์กรใหม่ เน้นการเป็นศูนย์กลางประสานงานและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีไทย

02 May 2008

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย

สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย เปิดตัวองค์กรใหม่ เน้นการเป็นศูนย์กลางประสานงานและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีไทย พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาครัฐและเอกชน มุ่งพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน

สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) หรือ TWoSA (ทูซ่า) ได้เริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2550 ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น และความรู้ทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังมุ่งส่งเสริมและยกระดับศักยภาพบทบาทในการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สตรีในภาคเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทย ตลอดจนรวมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาและเสริมสร้าง SMEs ไทยให้เติบโตและเข้มแข็ง มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดไทยและในตลาดต่างประเทศ

นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า “ขณะนี้ธุรกิจ SMEs ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ และเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ของการประกอบธุรกิจของไทย ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการสำรวจพบผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศกว่า 50,000 ราย พบว่าประมาณร้อยละ 50 เป็นผู้ประกอบการสตรี ซึ่งมีทั้งในระดับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาบทบาทและเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทยเพื่อรองรับผู้ประกอบการโดยตรงเป็นครั้งแรกของประเทศขึ้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตประเทศไทยจะสามารถพัฒนาและมีความทัดเทียมในระดับนานาชาติได้ ดังเช่นในประเทศเกาหลี, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วอย่างจริงจังได้อย่างแน่นอน”

ทางด้าน นางนิรมล ทิรานนท์ นายกสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) กล่าวว่า “สวสท. หรือ TWoSA เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งหวังจะเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็นและความรู้ทางธุรกิจ เน้นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหวางภาครัฐและเอกชน โดยมีการประสานงานระหว่างสมาชิก SMEs ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs สตรีไทยก้าวสู่ระดับมาตรฐานสากลให้ได้นั้น ทางสมาคมจะเน้นการเสริมศักยภาพเพื่อประโยชน์แก่สมาชิกใน 3 หัวข้อหลักๆ (รหัส C-N-B) คือ หนึ่ง การให้คำปรึกษาและฝึกอบรมอย่างใกล้ชิด (Coaching) โดยผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจจากแวดวงต่างๆมากกว่า 10 ปี มาเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำและชี้แนะให้กับสมาชิก รวมถึงติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ สอง การสร้างเครือข่ายพันธมิตร (Networking) โดยสมาคมจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงผู้ประกอบธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชนให้เกิดเครือข่ายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นในทุกๆคลัสเตอร์ และสุดท้าย การเฝ้าระวังเพื่อป้องกันความผิดพลาด (Business Alert) โดยผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดผลกระทบต่อธุรกิจขึ้นได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความผิดพลาดและความเสี่ยงต่างๆให้กับสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ สมาคมมีกำหนดจัดโครงการกิจกรรมสัมมนาและหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ภายใต้การสนับสนุนหลักจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยเริ่มจากสัมมนา “I-Inspire” ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังความรู้ จุดประกายความคิด สร้างธุรกิจ SMEs” โดยมุ่งหวังที่จะส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสร้างแรงจูงใจในการประกอบธุรกิจ SMEs ตลอดจนช่วยเติมพลังความรู้ จุดประกายความคิด เสริมสร้างธุรกิจให้อยู่รอดและประสบความสำเร็จในกระแสเศรษฐกิจขณะนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งจะมีทั้งการเสวนาพิเศษในหัวข้อ “จุดประกายความคิด สร้างธุรกิจ SMEs ผ่านประสบการณ์จริง” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและประธานคณะกรรมการบริหาร สสว. เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งมีนักธุรกิจชื่อดัง คุณวิกรม กรมดิษฐ์, คุณอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล “เจ๊เล้ง” มาให้แนวคิดดีๆในการประกอบธุรกิจ และมีสัมมนากลุ่มย่อยในภาคบ่ายให้ความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวกับหัวข้อโครงการกิจกรรมย่อย พร้อมประชาสัมพันธ์หลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ ที่ตามมา

สำหรับช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม – กันยายนนี้ ทางสมาคมมีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการฝึกอบรมด้านต่างๆ ซึ่งจะเน้นการปฏิบัติจริงและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละโครงการ ทางสมาคมจะทำการคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs ที่มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดของหลักสูตรฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตร เข้าร่วมโครงการเพียงหลักสูตรละประมาณ 20 - 30 ท่านท่านั้น ได้แก่

  • โครงการฝึกอบรมและให้คำปรึกษา หลักสูตรการบัญชี ดำเนินการโดย TWoSA ร่วมกับศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านธุรกิจ สมาคมนักศึกษาเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 22 - 23 พฤษภาคม 2551 พร้อมติดตามประเมินผล มิถุนายน – กันยายน 2551
  • โครงการฝึกอบรมและให้คำปรึกษา หลักสูตรการตลาด ดำเนินการโดย TWoSA ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจ (Ice Center) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) 27 - 29 พฤษภาคม 2551 พร้อมติดตามประเมินผล มิถุนายน – กันยายน 2551
  • โครงการฝึกอบรม (พร้อมเยี่ยมชมสถานประกอบการ) หลักสูตร Productivity & IT โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จาก TWoSA อบรม 5 กรกฎาคม, ดูงาน 9 กรกฎาคม 2551
  • โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร Modern Recourses Management (Modern HRM) ดำเนินการโดย TWoSA ร่วมกับทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน HRM จากบริษัท เอ็กซเซลเล้นท์ บินเนส คอร์ปอร์เรชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (อีบีซีไอ) 7 สิงหาคม 2551

นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งและดำเนินการโครงการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (Thai Women SMEs Incubation Center: TWoSI (ทูไซ) แห่งแรกของไทยขึ้น เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการเร่งเสริมสร้างหรือพัฒนาความรู้ความเข้าใจในหลักการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร เสริมพัฒนาการด้านการผลิตและดีไซน์ และเตรียมพร้อมเพื่อการส่งออก โดยตั้งเป้าการ บ่มเพาะผู้ประกอบการจำนวน 10 รายใน 2 สาขาหลักคือ 1.เทคโนโลยีการผลิต สำหรับผลิตภัณฑ์สปา และ 2.เทคนิคการดีไซน์ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครสมาชิกได้ที่สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (TWoSA) โทร.02-6294668-9 หรือ www.sme.go.th

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:

สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (TWoSA) โทร.02-6294668-9

ผู้จัดการสมาคม : นายนราธิป จันทร์ผ่อง 089-488-2633