กรมบัญชีกลาง เดินสายยืนยันสิทธิประโยชน์ของข้าราชการพลเรือน จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ค่าตอบแทน รวมทั้งเงินช่วยเหลือและสวัสดิการ ยังคงเดิม ส่วนภาระต่องบประมาณล่าสุดลดลงมาเหลือ 70 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 120 ล้านบาท
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2551 และบทเฉพาะกาลกำหนดให้แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยกรมบัญชีกลางมีหน้าที่หลักคือปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายของข้าราชการพลเรือน จำนวน 38 ฉบับ ประมาณการภาระต่องบประมาณเพื่อขอตั้งงบประมาณรายจ่ายงบกลางและเป็นกรอบการตั้งงบประมาณให้เหมาะสม ตลอดจนปรับระบบการเบิกจ่ายเงินเดือน (Direct Payment) ล่าสุดในส่วนของการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายของข้าราชการพลเรือน มีความคืบหน้าไปมาก โดยกฎหมายจำนวน 35 ฉบับ ซึ่งต้องปรับปรุงแก้ไขในปีงบประมาณ 2551 นี้ ขณะนี้มีผลใช้บังคับแล้ว 2 ฉบับ เสนอเรื่องไปสำนักงานเลขาธิการ ครม. แล้ว 3 ฉบับ ยกร่างแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอตามสายงาน 11 ฉบับ อยู่ระหว่างรอคำตอบจากสำนักงาน ก.พ. 4 ฉบับ และเสนอหลักการแก้ไขแล้ว ยังไม่ได้ยกร่าง 15 ฉบับ
รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ยืนยันว่า จากการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายของข้าราชการพลเรือน จะไม่กระทบกับสิทธิที่ข้าราชการพลเรือนเคยได้รับอยู่เดิม ทั้งค่าเช่าที่พักในและต่างประเทศ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ และสวัสดิการต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น จากการยกเลิกระบบซี เป็นการจำแนกกลุ่มใหม่ ส่งผลให้ข้าราชการบางส่วนได้รับสิทธิเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ซี 1-2 ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงเพิ่ม 30 บาท เมื่ออยู่ในตำแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงาน (ซี 1-4) ซี 5 ซึ่งอยู่ในตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญงานจะมีสิทธิรับค่าพาหนะรับจ้าง ค่าพาหนะประจำทางรถไฟ และค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศเพิ่มขึ้น
“ในการทำงานของกรมบัญชีกลางนั้น ยึดหลักการคือจะไม่รอนสิทธิของข้าราชการจาก ที่เคยได้รับอยู่เดิม และไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือเพิ่มขึ้นไม่มาก ซึ่งจากการเตรียมการเพื่อรองรับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ในส่วนของกรมบัญชีกลางนี้ ล่าสุดพบว่าจะทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในปีแรกเพิ่มขึ้นเพียง 70 ล้านบาท จากการที่ฐานเงินเดือนขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนปีต่อไปจะเพิ่มขึ้นตามฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ถือว่าลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท” รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้เดินสายชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนแก่หน่วยงานราชการ โดยเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. จัดการประชุมสัมมนา เรื่อง สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน ณ ห้องประชุมจินดา ณ สงขลา เพื่อชี้แจงให้ข้าราชการสำนักงาน ก.พ. ได้เข้าใจในเรื่องดังกล่าว ก่อนที่กรมบัญชีกลางจะเดินสายชี้แจงในส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2551 ไปจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2551
ขณะที่ นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงาน ก.พ. กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ได้ประชุมร่วมกันเพื่อดำเนินการในเรื่องสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนของข้าราชการที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้การดำเนินงานมีความคืบหน้าอย่างมาก รวมทั้งคาดหวังว่าการชี้แจงของกรมบัญชีกลาง จะเป็นประโยชน์กับบรรดาข้าราชการอย่างยิ่ง เพราะจะได้มีการทำความเข้าใจ รวมทั้งเตรียมนำไปปรับใช้ ภายหลังการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้