บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ทำกำไร 28,455 ล้านบาทในปี 2550 ตั้งเป้าหมายการขายปิโตรเลียมในปี 2551 สูงขึ้นอีก 24% พร้อมลงทุนสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม 38 โครงการทั่วโลกด้วยงบประมาณกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ผลการดำเนินงาน ปตท.สผ. ปี 2550 กำไรสุทธิ 28,455 ล้านบาท
นายมารุต มฤคทัต (Maroot Mrigadat) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่าผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบ (Unaudited) ของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อยในปี 2550 มีกำไรสุทธิรวม 28,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 408 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนจำนวน 28,047 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมของ ปตท.สผ.และบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นเป็น 96,773 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนจำนวน 91,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,050 ล้านบาทหรือ 6% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้การขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 39.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น เปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของปีก่อนที่ 36.52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประกอบกับปริมาณการขายผลิตภัณฑ์สำหรับปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 179,767 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่ 169,348 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของโครงการโอมาน 44 โครงการสินภูฮ่อม โครงการเอส1 โครงการไพลิน และโครงการยาดานา
โครงการอาทิตย์เตรียมพร้อมเดินเครื่องเดือนกุมภาพันธ์นี้
โครงการอาทิตย์ ได้เสร็จสิ้นการติดตั้งแท่นผลิต แท่นที่พักอาศัย แท่นหลุมผลิต รวมทั้งอุปกรณ์การผลิตหลัก ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ในอัตราเริ่มแรก 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 10%
โครงการอาทิตย์มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญหนึ่งในสามแห่งที่ ปตท.สผ. ได้ดำเนินการพัฒนาปิโตรเลียมในพื้นที่ทางตอนใต้ของอ่าวไทย นอกเหนือจากโครงการบงกช ซึ่งสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติในอัตราประมาณ 630 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย บี-17 ซึ่งจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2552 ในอัตรา 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากรวมจำนวนก๊าซธรรมชาติของทั้ง 3 แหล่ง คาดว่าการผลิตก๊าซธรรมชาติจะสูงถึง 1.5 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2555
โครงการอาทิตย์ มีขนาดพื้นที่ 3,682 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ปิโตรเลียมนวมินทร์ ในอ่าวไทย นอกชายฝั่งจังหวัดสงขลา ประมาณ 230 กิโลเมตร ผู้ร่วมทุนประกอบด้วย ปตท.สผ. 80% (ผู้ดำเนินการ) บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด 16% และบริษัท โมเอโกะ ไทยแลนด์ จำกัด 4%
ปตท.สผ. ลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาทตามแผนงานปี 2551 พร้อมตั้งเป้าหมายการขายเพิ่มขึ้นอีก 24%
ในปีนี้ ปตท.สผ. ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนเพื่อการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศ 38 โครงการ เป็นเงิน 81,232 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนภายในประเทศรวมทั้งพื้นที่คาบเกี่ยวต่าง ๆ จำนวน 62,265 ล้านบาท หรือประมาณ 77% การลงทุนในสหภาพพม่า จำนวน 7,774 ล้านบาท หรือประมาณ 9% การลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา จำนวน 6,003 ล้านบาท หรือประมาณ 7% การลงทุนในประเทศเวียดนาม จำนวน 4,425 ล้านบาท หรือประมาณ 5% นอกจากนั้นเป็นการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย กัมพูชา และนิวซีแลนด์ อีกประมาณ 765 ล้านบาท
ในปี 2551 นี้ ปตท.สผ. ได้ตั้งเป้าหมายการขายปิโตรเลียมไว้ที่ 223,334 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นประมาณ 24% จากปี 2550 ซึ่งอัตราการขายที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มาจากโครงการใหม่ซึ้งจะเริ่มการผลิตในปีนี้ ได้แก่ โครงการอาทิตย์และอาทิตย์ตอนเหนือ โครงการเวียดนาม 9-2 และโครงการ G4/43
ปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 946 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ
สำหรับปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้ว (Proved Reserve) ของ ปตท.สผ. รวมทุกโครงการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 คิดเป็นปริมาณ 946 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับปริมาณสำรองพิสูจน์แล้ว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ที่ปริมาณ 923 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ปริมาณสำรองที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการอัลจีเรีย 433a&416b และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย บี-17
ปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์ดังกล่าว คิดเป็นปริมาณน้ำมันดิบและคอนเดนเสทประมาณ 196 ล้านบาร์เรล และเป็นก๊าซธรรมชาติประมาณ 4,844 พันล้านลูกบาศก์ฟุต
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายกิจการสัมพันธ์
สิทธิไชย ไชยันต์ โทร. 02 537 4592 E-mail:
[email protected]
ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail:
[email protected]
โทรสาร 02 537 4982