กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--สำนักงานเขตหลักสี่
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มุ่งมั่นพัฒนากรุงเทพมหานครสู่ “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” ภายในปี 2554 เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยดำเนินงานตามกรอบนโยบาย 6 มิติ ได้แก่ เมืองแห่งความสะดวกปลอดภัย มหานครแห่งสิ่งแวดล้อม มหานครแห่งการเรียนรู้ เมืองสุขภาพดีผู้คนมีความสุข มหานครเปี่ยมเสน่ห์ และเมืองแห่งความพอเพียง โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ประชาสัมพันธ์เชิญชวนองค์กรภาครัฐ ภาค เอกชน และภาคประชาชนเข้ามี ส่วนร่วมพัฒนา เพื่อความยั่งยืนของการดำเนินงาน
ตัวอย่างที่ปรากฏให้เห็นชัดเจน ได้แก่ สำนักงานเขตหลักสี่ซึ่งได้ขานรับนโยบายดังกล่าว และได้ประสานหลายหน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานคร และภาคเอกชน เช่น สำนักการจราจรและขนส่ง สำนัก ผังเมือง บริษัทฮานาเซมิคอนดักเตอร์(กรุงเทพ) จำกัด บริษัท NXP Manufacturing ( Thailand) จำกัด บริษัทสยามซีแพ็ค บล็อค จำกัด บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัทเอเบส จำกัด บริษัทคาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ค้าจุดผ่อนผันวิภาวดีฯ 64 ประชาคมชาววิภาวดี 64 และวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซ.วิภาวดีฯ 64 ร่วมดำเนินโครงการ “พัฒนาผู้ค้าวิภาฯ เขตหลักสี่ ให้เป็นแนวหน้า แห่งมหานคร”
โดยสำนักงานเขตหลักสี่และหน่วยงานพันธมิตรเห็นสภาพที่ปรากฏ และได้ประชุมพิจารณาร่วมกันหาแนวทางพัฒนาพื้นที่ ประกอบด้วย พัฒนาสภาพภูมิทัศน์ จัดทำสวนแนวตั้ง ติดตั้งผ้าใบรถเข็นขายสิ้นค้าเป็นสีเดียวกัน และใช้ร่มเป็นแบบและสีเดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม พัฒนาสุขาภิบาลริมบาทวิถี โดยจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมแสะสุขาภิบาล ออกไปให้ความรู้ผู้ค้าเกี่ยวกับการสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถี เช่น การดูแลรักษาความสะอาดของอาหาร ภาชนะ สุขลักษณะผู้ประกอบปรุง ติดตั้งถังดักไขมันก่อนปล่อยน้ำทิ้ง เป็นต้น
น.ส.วาสนา สุขพันธ์โพธาราม ผู้พักอาศัยในซอยวิภาวดี ฯ 64 ประกอบอาชีพอิสระและอุทิศตนทำประโยชน์เพื่อสังคม ได้ให้ข้อคิดเห็นที่น่าสนใจว่า “ดีใจที่เห็นกรุงเทพมหานครพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของชาวเมืองไปในทางที่ดีขึ้น เคยฝันอยากให้กรุงเทพฯ เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามเหมือนเช่นเมืองใหญ่ๆ ของประเทศที่เจริญแล้วเป็นอยู่ ขอชื่นชมกรุงเทมหานครและพันธมิตรที่ได้ร่วมดำเนินโครงการนี้”
โครงการ “พัฒนาผู้ค้าวิภาฯ เขตหลักสี่ ให้เป็นแนวหน้า แห่งมหานคร” เป็นการผสมผสานนโยบายทั้ง 6 ด้าน มาบูรณาการในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้บริเวณปากซอยวิภาฯ 64 ซึ่งเป็นจุดผ่อนผันแห่งเดียวของเขตหลักสี่ เป็นดั่งย่านผู้ค้าแห่งปารีส ซึ่งการผสมผสานนโยบายทั้ง 6 ด้าน มาบูรณาการในโครงการเดียวกันดังกล่าว ได้แก่ เมืองแห่งความสะดวกปลอดภัย โดยเขตฯ ได้ขอเชิญผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างในซอยวิภาฯ 64 เข้าร่วมโครงการสุภาพบุรุษวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อขอให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสให้กับเขตฯ มหานครแห่งสิ่งแวดล้อม ได้รณรงค์ให้ผู้ค้าจัดการขยะ น้ำทิ้ง และจัดทำสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนทางหนึ่ง มหานครแห่งการเรียนรู้ เนื่องจากเป็นโครงการตัวอย่างจึงมีหลายเขตที่สนใจมาเยี่ยมชมและเรียนรู้ ทั้งยังเป็นสถานที่เรียนรู้การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่มีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่
เมืองสุขภาพดีผู้คนมีความสุข ทั้งนี้เพราะมีการพัฒนาสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถี เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองอาหารปลอดภัย จึงนับเป็นการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนด้านหนึ่ง มหานครเปี่ยมเสน่ห์ เนื่องจากการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ตามโครงการฯ จะสามารถส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ของพื้นที่ให้น่าสนใจ เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ดีงามแก่ท้องถิ่น และเมืองแห่งความพอเพียง เขตฯ ได้ส่งเสริมให้ผู้ค้าในบริเวณโครงการฯ บริหารรายรับ-รายจ่าย ตลอดจนเชิญชวนให้ผู้ค้าเปิดบัญชีพอเพียงตามนโยบายของกรุงเทพมหานครด้วย
“การพัฒนาเมืองไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีนั้น ภาครัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องแสดงออกถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการพัฒนา และเป็นผู้นำและประสานภาคสังคมให้เข้ามีส่วนร่วมพัฒนา ที่สำคัญประชาชนทุกภาคส่วนต้องเล็งเห็นถึงคุณค่าของการพัฒนาและต้องให้ความร่วมมือร่วมใจในการลงมือปฏิบัติ อนาคตของชาวกรุงเทพฯ ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็จะอยู่ไม่ไกลเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ดังหลายประเทศที่เจริญแล้ว จึงขอฝากโครงการดังกล่าวให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแล รักษาให้คงสภาพงดงามเป็นหน้าตาแก่กรุงเทพมหานครสืบต่อไป ” ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวไว้เมื่อครั้งนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 51 มี่ผ่านมา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net