ฟอร์ติเน็ตโชว์ผลประกอบการ Q 2 ปี 2007 ฟอร์ติเน็ตยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาด UTM ทั้วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

11 Oct 2007

กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--แอทยัวร์เซอร์วิส

Fortinet ผู้บุกเบิกและผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยแบบ multi-threat securityชั้นนำ - แถลงผลการวิจัยจากไอดีซีประจำไตรมาสที่ยืนยันถึงความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด UTM ประจำไตรมาส 2 ปี 2007 จากข้อมูลของไอดีซีระบุว่า ฟอร์ติเน็ตอยู่อันดับ 3 ในฐานะผู้จำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย 1 ใน 5 รายที่มีผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2007 ทั้วทั้งโลก นอกจากนี้ข้อมูลจากไอดีซียังชี้อีกว่า ฟอร์ติเน็ตถือว่าเป็นผู้ผลิตที่มีความสำคัญที่มีการขยายตัวทั้งจากการผลิตและการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ UTM ระดับบนทั้งด้านราคาและสัดส่วนการขายที่มุ่งไปยังตลาดขนาดใหญ่รวมทั้งผู้ให้บริการอีกด้วย

ข้อมูลจาก IDC’s Worldwide Quarterly Security Appliance Tracker ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2007

โดยภาพรวมแสดงถึงความเป็นผู้นำของฟอร์ติเน็ตประจำไตรมาส 2 ขึ้นนำหน้าคู่แข่งอย่าง Check Point, Cisco, Crossbeam, Juniper และ SonicWall

ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำอันดับ 1 ในระดับผู้จำหน่าย UTM สำหรับตลาดระดับบนที่มีมูลค่าระหว่าง 50,000- 999,000 เหรียญสหรัฐทั้งจากการผลิตและการจัดจำหน่าย

ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้จำหน่ายอันดับ 1 สำหรับตลาดผลิตภัณท์ UTM ที่มีมูลค่า ระหว่าง 1,000 – 29,000 เหรียฐสหรัฐทั้งจากการผลิตและการจัดจำหน่าย

ฟอร์ติเน็ตยังคงเป็นผู้นำการผลิตอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบ UTM ในภูมิภาคยุโรปตะวันตกและเอเชีย แปซิฟิค

รายงานฉบับเดียวกันยังได้กล่าวถึงความเป็นผู้นำในประเทศต่างๆของฟอร์ติเน็ตสำหรับภาคพื้นภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ว่า เกาหลี – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมในตลาด UTM ด้วยรายได้และยอดจำหน่าย 10,000-249,000 เหรียญสหรัฐ จากยอดรายได้โดยรวมและยอดจำหน่ายในแต่ละประเภทกับยอดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณท์ในตลาดล่างที่มีมูลค่าระหว่าง 0-9,000 และ 3,000-59,000 เหรียญสหรัฐ

มาเลเซีย - ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำในตลาด UTM ด้วยรายได้และยอดจำหน่ายใน 3 ผลิตภัณท์ที่มีมูลค่าระหว่าง 6,000 -99,000, 10,000-249,000 และ 25,000-499,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการจัดจำหน่ายโดยรวมและหน่วยย่อย ทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำสำหรับสินค้าในระดับล่างที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000-29,000 และ 3,000-59,000เหรียญสหรัฐ

ไต้หวัน – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำในตลาดโดยรวมของตลาดและผลิตภัณท์แยกตามประเภท ทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำสำหรับผลิตภัณท์ที่มีมูลค่า 1,000-24,900 และ 0-9,000 เหรียญสหรัฐสำหรับตลาดระดับล่าง

จีน – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมของตลาด UTM ด้วยยอดจำหน่ายรวมและยอดจำหน่ายย่อยแบ่งตามประเภท ทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำสำหรับผลิตภัณท์ที่มีมูลค่า 25,000 - 49,900 เหรียญสหรัฐ

อินเดีย – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมของตลาด UTM ด้วยยอดจำหน่ายรวมและยอดจำหน่ายย่อยแบ่งตามประเภท ทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำสำหรับผลิตภัณท์ในระดับสูงที่มีมูลค่า 50,000 – 999,000 เหรียญสหรัฐ

สิงคโปร์ – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมของตลาด UTM ด้วยยอดจำหน่ายรวม ทั้งยังครองตำแหน่งผู้นำสำหรับผลิตภัณท์ในระดับสูงที่มีมูลค่า 10,000 – 24,000 เหรียญสหรัฐ และผลิตภัณท์มูลค่า 25,000 - 49,000 เหรียญสหรัฐ

ออสเตรเลีย – ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมของตลาด UTM ระดับล่างมูลค่าระหว่าง 0 – 9,000 เหรียญสหรัฐ จากยอดจำหน่ายรวมและยอดจำหน่ายย่อยประเภท

ฮ่องกง - ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำในตลาด UTM ด้วยรายได้และยอดจำหน่ายสูงสุดสำหรับผลิตภัณท์ที่มีมุลค่าระหว่าง10,000-24,900 เหรียญสหรัฐ และผู้นำสำหรับสินค้าระดับล่างที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000-29,000

ญี่ปุ่น - ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำโดยรวมของตลาด UTM ระดับล่างที่มีมูลค่าระหว่าง 0 – 9,000 และ 3,000 - 59,000 เหรียญสหรัฐ จากยอดจำหน่ายรวมและยอดจำหน่ายตามประเภท

“รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า UTM เริ่มเป็นที่ยอมรับในตลาดระดับบนโดยเฉพาะในประเทศจีนที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้เรายังคาดหวังว่านี่จะเป็นกระแสที่ส่งผลต่อเนื่องกันไปจากอาทิตย์เป็นเดือนและขยายขอบเขตไปทั่วทั้งเอเชีย” เยน แอนเดอร์สัน รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ของฟอร์ตเน็ตกล่าว

“ภัยคุกคามที่ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ต้องการการจัดการที่ดี การรวมการรักษาความปลอดภัยจากด้านหน้าไปสู่ด้านหลัง เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้บริการจัดระบบรักษาความปลอดภัย”เคน เซี๊ยะ ผู้ก่อตั้ง, ประธานบริษัท และ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ฟอร์ติเน็ต กล่าว “ผลการวิจัยล่าสุดจากไอดีซีช่วยยืนยันได้ดีถึงเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าทุกขนาดองค์กรทั่วโลกล้วนแล้วแต่ยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายระดับชั้นจากฟอร์ติเน็ตที่นำมารวมกันเพื่อช่วยในการปกป้องภัยคุกคามได้อย่างแท้จริง”

ไอดีซี กำหนดให้อุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยแบบ UTM นั้นต้องรวบรวมทุกคุณสมบัติที่ระบบรักษาความปลอดภัยควรจะมีไว้ในอุปกรณ์ตัวเดียว รวมไว้ในเครือข่ายไฟล์วอลล์ ,การป้องกันเครือข่าย ,ปกป้อง IDP, แอนตี้ไวรัส เกตเวย์ ฟอร์ติเน็ตได้พัฒนาผลิตภัณท์ Unified Threat Management หรือ UTM ไปสู่ความสำเร็จด้วย ระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายระดับชั้นของFortiGate ด้วย 8 ระดับการปกป้องที่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องมีและบริการที่ครอบคลุมไม่ว่าจะ firewall, ต่อต้านไวรัส, เครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือน (VPN), การปกป้องและป้องกัน (IPS), ต่อต้านสแปม, กรองเนื้อหาในเว็บไซด์ และ traffic shaping รวมไว้ในผลิตภัณท์ตระกูลเดียวกันหรือประกอบกันเป็น UTM โซลูชั่น

ข้อมูลผลิตภัณท์เพิ่มเติม www.fortinet.com/products

ข้อมูลของ Fortinet www.fortinet.com

Fortinet เป็นผู้บุกเบิกและผู้นำด้านเทคโนโลยี ASIC (accelerated unified threat management หรือ UTM) ที่ถูกเลือกใช้ในองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการ Fortinet ทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยขององค์กรเพิ่มมากขึ้นแต่สามารถลดรายจ่ายให้น้อยลง คุณสมบัติต่างๆของ Fortinet เกิดจากการรวบรวมทุกระดับการป้องกันการรักษาความปลอดภัย ที่รวบรวมทั้ง firewall, antivirus, intrusion prevention, VPN, ปกป้องสปายแวร์ และ ต่อต้านสแปม ทั้งหมดนี้ได้ออกแบบไว้สำหรับลูกค้าเป็นเทคโนโลยีการผสมผสานที่ดีที่สุดเพื่อการป้องกันในหลายๆระดับ สำหรับลูกค้าของระบบการรักษาความปลอดภัยแบบ ASIC และ unified interface Fortinet เสนอความสามารถที่เหนือกว่าระบบรักษาความปลอดภัยทั่วๆไปสามารถวิเคราะห์ผลจากศูนย์ที่อยู่ในระยะไกลได้ง่าย โดยการรวมกันของระบบการจัดการและการรายงานผลแบบเดิมๆ Fortinet ได้รับรางวัลชนะเลิศหลายรางวัลทั่วโลก ทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยเพียงรายเดียวที่ได้รับที่ได้รับการรับรองถึง 8 ครั้งจาก ICSA (firewall, antivirus, IPSec, SSL, IDS, client antivirus detection, cleaning และ antispyware) Fortinet มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซันนี่เวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

Fortinet เป็นชื่อจดทะเบียนของบริษัท Fortinet, Fortinet, FortiGate, FortiOS, FortiAnalyzer, FortiASIC, FortiAnalyzer, FortiCare, FortiManager, FortiWiFi, FortiGuard, FortiClient, และ FortiReporter เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท Fortinet ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศอื่นๆ สามารถอ้างสิทธิได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาติเท่านั้น