กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผู้นำธุรกิจ Total Entertainment Lifestyle ต่อยอดธุรกิจด้วยการ ร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจรายใหม่ ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ ผู้นำด้านการจองและจัดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตและการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่กว้างไกล ในสัดส่วน 40 % ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ “บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด” หวังขยายช่องทางการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และสร้างทราฟฟิคของผู้ใช้บริการให้เพิ่มมากขึ้น มั่นใจหลังร่วมทุนธุรกิจเติบโตมากขึ้น
ด้วยจุดแข็งของทั้ง 2 ธุรกิจ ที่มีสาขาครอบคลุมพื้นที่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้ง 4 แบรนด์ คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ พร้อมความเชี่ยวชาญในธุรกิจการจำหน่ายบัตรของไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ จะทำให้ “ไทยทิคเก็ตเมเจอร์” เป็นศูนย์กลางจำหน่ายบัตรชมการแสดงที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งเดียวของเมืองไทย เริ่มจากการจำหน่ายบัตร คอนเสิร์ต เก็วน สเตฟานี่ (Gwen Stafani) เป็นคอนเสิร์ตแรก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 ที่ อิมแพคเมืองทอง อารีน่า
โดยเปิดจำหน่ายบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2550 และจะเปิดจำหน่ายบัตรพร้อมกันทั้งที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขา ตั้งแต่เดือนสิงหาคมศกนี้เป็นต้นไป
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นั้นให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เป็นการช่วยต่อยอดทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กับธุรกิจหลักเพื่อขยายการเติบโตให้กับบริษัทฯ ซึ่งที่ผ่านมา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้เข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจอย่าง บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 21.7 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 36.7 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ล่าสุดได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ดอทคอม จำกัด โดยเข้าไปลงทุนในสัดส่วน 40 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และ ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 60 % ภายใต้ชื่อใหม่ “บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด”
สำหรับการร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญของการเป็นผู้นำด้านการจองและให้บริการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตและการแสดงต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์ในการให้บริการจำหน่ายบัตรมากว่า 5 ล้านใบ มากกว่า 400 งานแสดง
ซึ่งในแต่ละปีมีการรับจำหน่ายบัตรงาน
อีเว้นท์ใหญ่ ๆ ของโอเปอเรเตอร์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้นเองอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีอย่าง ดิสนีย์ออนไอซ์ และ การแข่งขันเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น ดังนั้น การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและต่อยอดทางธุรกิจให้กับทั้ง 2 บริษัท ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคาดว่า ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จะมียอดการจำหน่ายบัตรเพิ่มมากขึ้น
ด้วยจุดแข็งของการมีสาขาจำนวนมาก ความพร้อมของบุคลากร และระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ที่
ทันสมัยของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
ซึ่งปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด มากถึง 35 สาขา ภายใต้แบรนด์ 4 แบรนด์ คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งจะช่วยขยายช่องทางการให้บริการจำหน่ายบัตรให้มีจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสามารถอำนวยความสะดวก สบาย และรวดเร็วให้กับลูกค้าที่ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ตลอดจน ทำให้มีช่องทางที่สามารถให้บริการอื่น ๆ ที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้นจากเดิมที่ให้บริการอยู่ อีกทั้งยังช่วยสร้างทราฟฟิคของผู้มาใช้บริการและรายได้ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ด้าน นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ดอทคอม จำกัด กล่าวว่า ทางไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ดอทคอมเล็งเห็นถึงการบริการที่มอบให้กับลูกค้าและผู้จัดงาน โดยทางเราได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายบัตรมากขึ้นทุก ๆ ปี และได้พัฒนาระบบการจำหน่ายบัตรงานแสดงที่ดีที่สุดในประเทศไทยจนสามารถนำไปขายยังต่างประเทศ อีกทั้งมีการขยายธุรกิจไปสู่การจำหน่ายบัตรรถโดยสารทั่วประเทศ ซึ่ง ปัจจุบัน ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ มีสาขาที่เปิดให้บริการ 8 สาขา คือ บีทูเอส เซ็นทรัล เวิลด์, เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล รังสิต, เมืองไทยรัชดาลัย และ บิ๊กซี หัวหมาก
สำหรับการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านบันเทิงและไลฟ์สไตล์ มีฐานผู้บริโภคทางด้านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุด และยังมีสื่อโฆษณาที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น การร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายบัตรให้มีจำนวนสาขาเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดธุรกิจและขยายฐานลูกค้าของทั้ง 2 บริษัท อีกทั้งยังเพิ่มสิทธิประโยชน์แลกเปลี่ยนกันระหว่างลูกค้าของทั้ง ไทยทิคเก็ต และ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในครั้งนี้คือผู้บริโภค
สำหรับคอนเสิร์ตและการแสดงที่จะมีขึ้นในปีนี้ คือ คอนเสิร์ต Englebert เดือนสิงหาคม, การแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น เดือนกันยายน, การแสดงดิสนีย์เมจิก เดือนตุลาคม, คอนเสิร์ต ลินคิน พาร์ค เดือนพฤศจิกายน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
คุณดารัตน์ ชินตระกูล , คุณนัยน์ปพร สัจจวรกุล
โทร. 02-511-5427-36 ต่อ 532, 533
โทรสาร. 02-511-5821
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit