กระทรวงอุตสาหกรรม เสริมเขี้ยวเล็บอุตสาหกรรมเกษตรสู้บาทแข็งสู่ตลาดโลก

กระทรวงอุตสาหกรรมชูโครงการพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาคจัดกิจกรรมทั่วประเทศช่วยผู้ผลิตเกษตรอุตสาหกรรมปรับตัวเตรียมคัดสรรผลิตภัณฑ์เด่น เป็น Product Champion ของดี 75 จังหวัดมุ่งโกอินเตอร์ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการกลุ่มย่อยปทุมธานี ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค (1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร) ณ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ว่า “เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแทนที่การพึ่งพา หรืออิงกับปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้จากการผันผวนของค่าเงินบาท เป็นเวลาที่ภาคอุตสาหกรรมควรหันกลับมาดูประสิทธิผลของตนเอง และลดความสูญเสีย ตั้งแต่ต้นน้ำคือการบริหารวัตถุดิบและโล จิสติกส์ ประสิทธิภาพการผลิต กลางน้ำ คือ การลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน เรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ตลอดจนปลายน้ำ คือการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เกิดการจูงใจเพิ่มความน่าซื้อ” การประชุมเชิงปฏิบัติการกลุ่มย่อยระดมความคิดสำหรับพัฒนาและยกระดับกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรจะจัดทั่วประเทศ เริ่มที่จังหวัดปทุมธานีเป็นแห่งแรก โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องในเกษตรอุตสาหกรรมจำนวน 45 ราย ร่วมวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT Analysis) เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนงานระยะ 3 ปี เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรและขยายผลไปยังสถานประกอบการเกษตรแปรรูปอื่นของจังหวัดซึ่งจะทำทุกๆ จังหวัด “โรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรที่เข้าโครงการจะเป็นต้นแบบในการถ่ายทอดความรู้ให้กับโรงงานในลักษณะเดียวกันต่อไป ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมก็จะผลักดันผลิตภัณฑ์เกษตรอุตสาหกรรมในโครงการให้เป็นสินค้าเด่น หรือโปรดักแชมเปี้ยน (Product Champion) เพื่อการส่งออกไปสู่ตลาดโลก” นายวิฑูรย์กล่าว โครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ได้มีการจัดสรรงบประมาณ 72 ล้านบาท เพื่อขยายกิจกรรมของผู้ประกอบการ SMEs แปรรูปรวม 150 ราย ใน 75 จังหวัด ที่ต้องการจะพัฒนากิจการของตน และคาดว่า SMEs แต่ละรายที่เข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น รายละ 10 เปอร์เซ็นต์ และลดต้นทุนการผลิตต่อรายได้ถึงร้อยละ 20 ด้านนายสุขสวัสดิ์ หาญสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.เอ็ม.ควอลิฟู้ด จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการนำร่อง 150 ทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกร่วมโครงการฯ เผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ ลดต้นทุนด้วยการแก้ไขจุดบกพร่อง โดยทีมที่ปรึกษาโครงการทำหน้าที่เป็นเสมือนกระจกเงาชี้จุดรั่วไหลของต้นทุนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมแนะนำการบริหารจัดการสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้เมื่อบริษัทสามารถลดต้นทุนและมีกำไรตามเป้าแล้วก็จะมีความเข้มแข็งสามารถวางเป้าหมายมุ่งสู่ตลาดส่งออกได้ภายในปีนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มณฑิรา นาควิเชียร 02-6633226 ต่อ 71

• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง
• ข่าวอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร
• ข่าวการประชุมเชิงปฏิบัติการ
• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาด