กทม.ไฟเขียวขรก.ภาคสนามเบิกล่วงเวลาอัตราใหม่

ผู้บริหาร กทม. หวั่นพิษเงินล่วงเวลาอัตราใหม่ กระทบกำลังใจข้าราชการที่ทำงานหนักนอกเวลาราชการ เร่งให้หน่วยงานขอจัดสรรเงินค่าล่วงเวลาเพิ่มตามความจำเป็น โดยเฉพาะงานภาคสนามและงานบริการประชาชน โดยเบื้องต้นให้บริหารจัดการเวลาและกำลังคนในวงเงินก้อนเดิมให้มีประสิทธิภาพเต็มที่ นายชนินทร์ รุ่งแสง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ผู้บริหาร กทม. มีความห่วงใยข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ที่ต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติเช่นปัจจุบัน ผู้บริหารมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความใส่ใจดูแลด้านความมั่นคง ปลอดภัย และความเป็นระเบียบของบ้านเมือง ซึ่งหลายคนต้องทำงานหนักนอกเวลาราชการ เช่น เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด หรือ เจ้าหน้าที่ระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงในช่วงฤดูฝน เป็นต้น กทม.ได้จัดสรรค่าตอบแทนให้ตามงานที่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นธรรมโดยทั่วถึงกัน โดยเปิดกว้างให้หน่วยงานที่ปฏิบัติงานภาคสนามเบิกจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตราใหม่ คือ ชั่วโมงละ 50 บาท ในวันทำการปกติ และวันละ 420 บาท ในวันหยุด สำหรับหน่วยงานที่งบประมาณไม่เพียงพอให้เร่งรัดทำเรื่องเสนอขอจัดสรรวงเงินเพิ่มตามความจำเป็น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการซึ่งถือว่าเสียสละทำงานหนักให้กับบ้านเมือง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน ซึ่งได้รับค่าล่วงเวลาในอัตราใหม่เช่นเดียวกัน ได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับวงเงินงบประมาณเดิมที่มีอยู่ โดยบริหารจัดการเรื่องเวลาและกำลังคนให้เหมาะสม เช่น ปรับเวลาทำงานนอกเวลาจากเดิมที่ทำ 3 ชั่วโมง เหลือ 2 ชั่วโมง พิจารณาจำนวนบุคคลให้ทำงานตามความจำเป็น ทั้งให้หน่วยงานทำความเข้าใจกับข้าราชการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินล่วงเวลาอัตราใหม่แล้ว โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการบริการประชาชนเป็นหลัก สำหรับการเบิกค่าล่วงเวลาในอัตราใหม่ เป็นไปตามระเบียบใหม่ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ในการเบิกจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ.2550 บังคับใช้วันที่ 1 ก.พ. 50 เป็นต้นมา โดยเพิ่มอัตราในวันทำการปกติ จากชั่วโมงละ 30 บาท เป็น 50 บาท และในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ จากเดิมวันละ 200 บาท เป็น 420 บาท ทำให้หน่วยงานต้องมีการปรับแผนใหม่เนื่องจากขณะอยู่ในช่วงของการใช้จ่ายงบประมาณ ปี2550 ที่กำหนดวงเงินไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2551 จะมีการพิจารณาจัดสรรวงเงินค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการให้เหมาะสมต่อไป

• ข่าวชนินทร์ รุ่งแสง
• ข่าวกรุงเทพมหานคร
• ข่าวบริหารจัดการ
• ข่าวข้าราชการ
• ข่าวผู้บริหาร