SECC เปิดฉากบุกตลาดรถยนต์หรูปี 50 ประเดิมนำ"THE NEW MPV รุ่น 23 C Sport Package" จากตระกูล MPV เข้าจัดจำหน่ายเป็นรุ่นแรกจากเป้าหมาย 10 รุ่นในปีนี้ จากปี 2549 ที่ครองใจลูกค้ายุคน้ำมันแพงจนยอดขายโตฉลุย พร้อมจัดงาน Grand Opening โชว์รูมพระรามเก้า รอบใหม่หลังปรับโฉมให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า มั่นใจแม้การเมืองยังไม่นิ่งแต่ปั๊มยอดขายรถปี 50 ให้เติบโตที่ 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) (SECC) ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับหรูจากญี่ปุ่น และยุโรป เปิดเผยถึงการจัดงาน “WONDERFUL MPV” ว่า เป็นการเปิดตัวรถยนต์เอนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2550 นี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มีเป้าหมายจะให้ความสำคัญกับการนำรถยนต์เอนกประสงค์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวางในปี 2549 ทำตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
"ในปีที่ผ่านมารถยนต์กลุ่ม MPV ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ทั้งทำงาน ท่องเที่ยวแบบลุยๆ และเดินทางได้ทั้งครอบครัว จากเดิมลูกค้า 1 คน เคยใช้รถยนต์หลายคันให้เหมาะสมกับงานแต่ละแบบ ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้จากรถยนต์ MPV คันเดียว ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะน้ำมันแพง และคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบหลากหลายสไตล์ รถยนต์กลุ่มนี้จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างดี และคาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปีนี้"
ดังนั้นเพื่อรองรับความความต้องการของตลาดที่ต้องการใช้รถยนต์กลุ่มนี้มากขึ้น บริษัทจึงตัดสินใจนำ "THE NEW MPV รุ่น 23 C Sport Package" เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกในปีนี้ จากแผนงานที่จะนำเข้ารถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน และรถยนต์เอนกประสงค์มาจำหน่ายอีกกว่า 10 รุ่นในปี 2550 นี้ ซึ่งคาดว่ารถยนต์รุ่นที่บริษัทนำเข้ามาจัดจำหน่ายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับช่วงก่อนหน้านี้ เพราะทางบริษัทได้สำรวจความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาแล้วเป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ในการงานเดียวกันนี้ บริษัทได้ถือโอกาสจัดงาน Grand Opening โชว์รูม เอส.อี.ซี. กรุ๊ป สาขาสำนักงานใหญ่ ไปในเวลาเดียวกันด้วย โดยบริษัทได้ปรับปรุงโชว์รูมแห่งนี้ให้ทันสมัย สะดวกสบายและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งใช้งบประมาณในการปรับปรุงโชว์รูมแห่งนี้ไปประมาณ ....ลบ.ส่วนโชว์รูมสาขาอื่นๆ จะทยอยปรับปรุงให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต่อไป
นายสมพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่ามีความเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์ระดับหรูในปี 2550 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์ด้านการเมืองในประเทศจะยังไม่นิ่ง แต่การปรับลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกและแนวโน้มการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยนต์ง่ายขึ้น ประกอบกับลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการใช้จ่ายอยู่ในระดับสูง การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าไม่ได้อิงกับสภาพเศรษฐกิจ อีกทั้งบริษัทอยู่ในตลาดมากว่า 15 ปี จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี และสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าในปี 2550 ผลประกอบการของบริษัทจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้ในส่วนของการจัดจำหน่ายรถยนต์จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา