C.A.T. ประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัดการแข่งขัน “เวิลด์ แฮร์ แอนด์ เวิลด์ บิวตี้ เฟสติวัล 2007 ซีเอที – ซีเอ็มซี” เป็นครั้งแรกในไทย
อ.นุชนารถ สิทธิสรเดช ประธานสมาคมศิลปและเทคนิคการแต่งผมโลก C.A.T. (ประเทศไทย) (CERCLE DES ARTS ET TECHNIQUES DE LA COIFFURE THAILANDE) สาขาสมาพันธ์ผมโลก C.M.C. ประเทศฝรั่งเศส จัดแถลงข่าวการจัดแข่งขันชิงแชมป์ผมโลก “เวิลด์ แฮร์ แอนด์ เวิลด์ บิวตี้ เฟสติวัล 2007 ซีเอที – ซีเอ็มซี” (World Hair & World Beauty Festival 2007 C.A.T.-C.M.C.) เป็นครั้งแรกในไทย และในประวัติศาสตร์วงการเสริมสวยไทย โดยกำหนดจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 พฤษภาคม 2550 โดยวันที่ 29 พฤษภาคม เป็นงานเลี้ยงรับรอง ส่วนวันที่ 30 และ 31 พฤษภาคม เป็นการแข่งขัน ณ ห้องรอยัลพารากอนฮอลล์ 2 สยาม พารากอน สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ผมโลกในปีนี้ สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โรงเรียนสอนตัดเสื้อ นุชนารถ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม หรือ โทร. 0-2282-4891, 0-2282-5066 และ 0-2281-8445 โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2550 เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขันใน ปลายเดือนพฤษภาคมนี้
อ.นุชนารถ สิทธิสรเดช ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานว่า “การจัดการแข่งขันชิงแชมป์ผมโลก “เวิลด์ แฮร์ แอนด์ เวิลด์ บิวตี้ เฟสติวัล 2007 ซีเอที – ซีเอ็มซี” (World Hair & World Beauty Festival 2007 C.A.T.-C.M.C.) ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และในประวัติศาสตร์วงการช่างเสริมสวยไทย ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ เพื่อสร้างมาตรฐาน ยกระดับ เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และเทคนิคทางด้านเสริมสวยของช่างผมไทยให้เทียบเท่าช่างผมระดับโลก ให้ประเทศไทยสามารถผงาดบนเวทีโลกได้ไม่แพ้ใคร สำหรับประเทศไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 40 จาก 57 ประเทศทั่วโลก และผลจากการที่เรามีความกระตือรือร้นในการจัดการแข่งขันที่ต่อเนื่องมาทุกปีจนปี และทุกครั้งที่เราส่งตัวแทนเข้าแข่งขันชิงแชมป์ผมโลก เราก็คว้าแชมป์มาได้ตลอด จนได้รับความไว้วางใจจากสมาพันธ์ผมโลก C.M.C. ให้เราเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในปีนี้ คาดว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของช่างเสริมสวยไทยจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เป็นการเปิดบันทึกหน้าใหม่ของวงการเสริมสวยไทย และตัวแทนช่างเสริมสวยไทยที่ได้รับคัดเลือกให้ลงแข่งขันในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ จะมีการจัดเวิร์คช้อป “เทคนิคพิชิตแชมป์” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และ แนะแนวทางที่ถูกต้องในการลงแข่งขันกับนักแข่งฝีมือดีจากทั่วโลกอีกด้วย สำหรับผู้เข้าแข่งขันคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 200 คน จาก 14 ประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, อิตาลี, เยอรมัน, แคนาดา, อเมริกา, ซีเรีย, โรมาเนีย, กรีซ, สเปน, อาร์เจนตินา, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ฟินแลนด์ และไทย เป็นต้น สำหรับคนไทยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชิงถ้วยรางวัลประเภทละประมาณ 40 คน และพิเศษสำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่ ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ผู้เข้าแข่งขันชาวไทยทุกคน จะร่วมสวมเสื้อเหลือง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว ถวายความจงรักภักดี เพื่อนำชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์ผมโลกในครั้งนี้ น้อมเกล้าฯ ถวาย โดยไฮไลท์ในการจัดงานแข่งขันชิงแชมป์ผมโลกจะมีการโชว์เทรนด์ผม ปี 2008 จากทีมแชมป์ผมโลกจากประเทศเยอรมัน และประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งขันปรเภททีมชาติที่น่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมชมการแข่งขันนี้ สามารถเข้าชมได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
งานชิงแชมป์ผมโลกในครั้งนี้จะแบ่งเป็นประเภททีมชาติ และประเภทเดี่ยว 8 ประเภท ได้แก่ ประเภท ตัดซอยผมทรงผมสุภาพสตรี (Women Transformation Cut),ประเภท เกล้าผมราตรี (Evening Hair Style), ประเภท ผมเกล้าเจ้าสาว (Bridal Hair Style), ประเภท แต่งหน้าเจ้าสาว (Bridal Make-up), ประเภท ผมสุภาพสตรี ครีเอทีฟ แฮร์สไตล์ แอนด์ คัลเลอร์ (Women Creative Hair Style & Color), ประเภท ตัดซอยผมสุภาพบุรุษ ทรงคอมเมอร์เชียล แนวความคิดสร้างสรรค์ (Men Commercial Creation), ประเภท ตัดซอยทรงผมสุภาพบุรุษ ทรงคลาสสิค (Men Classic Cut & Style) และประเภท ผมสุภาพบุรุษ ครีเอทีฟ แฮร์สไตล์ แอนด์ คัลเลอร์ (Men Creative Hair Style & Color) สำหรับแชมป์ผมโลก และรองทั้ง 4 อันดับ จะได้รับถ้วยเกียรติยศจากสมาพันธ์ผมโลก C.M.C. ประเทศฝรั่งเศส และประกาศนียบัตร สำหรับรางวัลชมเชยจะได้รับเหรียญทอง และประกาศนียบัตร นอกจากนี้ผู้ที่ เข้าร่วมการแข่งขันยังจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางสมาคมฯ ทุกคน สำหรับกรรมการตัดสินการแข่งขันแต่ละประเภท จะมาจากตัวแทนประเทศในเครือสมาชิกละ 1 คนเท่านั้น
ภายในงานแถลงข่าวยังได้มีการโชว์แบบผม ซึ่งเป็นแนวการแข่งขัน พร้อมเทรนด์ผมในปีนี้ และปีหน้า โดยอดีตแชมป์ในปีต่างๆ พร้อมร่วมเผยเคล็ดลับ อ.สุเทพ สุธาพจน์ แชมป์ผมโลก 2006 ประเทศเกาหลี และแชมป์ผมโลกประเภททีม Festival Award (รางวัลทางด้านศิลปวัฒนธรรม) กล่าวว่า “แบบผมในสไตล์ตัดซอยผมสุภาพบุรุษทรงคอมเมอร์เชียล แนวความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาแสดงในวันนี้ เป็นแบบผมที่ได้แชมป์โลกมาแล้วในปี 2006 เทคนิคไม่ยาก อยู่ที่การออกแบบให้ไปในแนวร่วมสมัย กำหนดสีผมที่จะใช้ให้แน่นอน และไม่ขัดกับแบบผม สำหรับเทรนด์ผม ในปีนี้ เป็นแบบผสมผสานเรียบๆ แต่เก๋ไก๋ในตัวเอง”
อ.ณรงค์ โพธิ์เงิน เจ้าของรางวัล Hair World 1984 ประเภททีมชาติ กล่าวว่า “การที่เราจะสามารถชนะได้นั้น ขึ้นอยู่กับทีมเวิร์ค ต้องขยัน หมั่นฝึกซ้อมให้ชำนาญ และเข้าขากันได้ดี เพราะการแข่งประเภททีมชาตินั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในทีม รวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว ตกลงถึงแนวทางที่แน่นอน ทั้งเทรนด์ผม และแบบผมที่สามารถสื่อออกมาจากความคิดให้จับต้องได้จริง มีทั้งความเนียบ ทั้งความเฉียบ และคม ผสมผสานได้อย่างลงตัว สำหรับเทรนด์ผมในปีนี้ เป็นผมแนวบ๊อบ แต่ยังไม่ทิ้งผมสไตล์สไลด์ยาว การรีบอนด์ และการดัด ก็ยังมาแรงเช่นกัน สีผมน่าจะอยู่ที่สีส้ม สีทอง และสีแดง”
อ.ณัฐคม จำรัสพจนีย์สกุล แชมป์กรรไกรทอง เล่าถึงแนวคิดในการออกแบบผมตัดซอยผมสุภาพบุรุษทรง คลาสสิคครั้งนี้ว่า “สำหรับผมทรงนี้มีรูปแบบความเป็นยุคเก่าสมัยปี 2527-2528 ผสมความทันสมัยเข้าด้วยกัน ด้านหลังซอยเป็นไรผมแนบไปกับศีรษะ ด้านข้างเพิ่มความเก๋ด้วยจอน ส่วนสีผมเน้นความเป็นธรรมชาติในสีโทนเข้ม ซึ่งโดยรวมแล้วออกแบบให้สามารถตัดได้จริงในชีวิตประจำวัน ส่วนเทรนด์ผมชายในปีนี้ ถือว่ามาแรงไม่แพ้ทรงผู้หญิง มีความเนี๊ยบแต่ก็ยังมีลูกเล่นของผมที่ดูยุ่งๆ แบบไม่ตั้งใจ ซึ่งปัจจุบันนี้นิยมกันมาก
อ.อภิสัณห์ อยู่กิจติชัย รองแชมป์ผมโลกอันดับ 1 ปี 2006 เล่าถึงเทคนิค และแนวคิดของการสร้างสรรค์ผลงานทรงเกล้าราตรีครั้งนี้ว่า “แรงบันดาลใจของผมทรงนี้มาจากขนนกที่พลิ้วไหวไปตามลม เอกลักษณ์คือจะไม่เน้นสีสันที่ฉูฉาด แต่จะให้ความโดดเด่นที่การออกแบบทรงผม รูปแบบการทำจึงเน้นที่การจัดช่อผมทั้งศีรษะให้ดูเหมือนเลื้อยไปด้านหลังอย่างอ่อนช้อย สวยงาม และตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลูกปัดคริสตัลสีสันต่างๆ ช่วยเสริมให้ชวนมองยิ่งขึ้น สำหรับเทรนด์ผมผู้หญิงในปีหน้านี้ สำหรับคนผมยาว แนวผมดัดที่ดูเป็นธรรมชาติยังคงมาแรง และเริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ”
อ.ธงชัย ม่วงบำรุง แกรนด์แชมเปี้ยนของเอเชีย 2002 กล่าวว่า “ปีนี้เทรนด์ผมสั้นกำลังมาแรง จึงเลือกเอาทรงนี้ มาแสดง นอกจากนั้นยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยเทคนิคการวางสีให้ดูโดดเด่น โดยจะต้องกัดสีผมก่อนจากนั้น จึงค่อยเลือกทำทีละสี ครั้งนี้เลือกใช้สีชมพู ช็อกกิ้ง พิ้งค์, สีแดง และสีชมพูอ่อน มาผสมผสานกัน โดยมีไฮไลท์เป็นน้ำพุตรงกลางศีรษะสร้างความแปลกตา โดดเด่นกว่าส่วนอื่น”
อ.วิทยาธร บุญไกรสร มีแนวคิดว่ากับผมเกล้าราตรีว่า “ประยุกต์ใช้การถักเปียแบบไทยๆ มาเพิ่มความทันสมัย ใส่ลูกเล่นลงไปกลายเป็นผมเปียโฉมใหม่ที่ดูน่าสนใจมากขึ้น สามารถเป็นอีกทรงเก๋ๆ ที่ทำได้ง่ายสำหรับ งานกลางคืน ส่วนผมเกล้าก็ผสมกลิ่นอายของญี่ปุ่น โดยเลียนแบบมาจากสาวญี่ปุ่นในชุดกิโมโน ส่วนเรื่องของ สีผมเน้นสีที่ไม่ฉูดฉาด ออกโทนเข้ม โดยเลือกเป็นสีเซาท์ซี ที่มีประกายของสีเขียวอมน้ำเงินให้ดูโฉบเฉี่ยว มีเสน่ห์ ซึ่งกำลังอินเทรนด์อยู่สำหรับสีผมปีนี้”
อ.เป็กซ์-วรารัตน์ นาคผจญ ผู้คว้ารางวัลรองอันดับ 1 ประเภทสุภาพสตรีครีเอทีฟ แฮร์สไตล์ แอนด์ คัลเลอร์ ปี 2006 จากเกาหลีใต้ โชว์แบบผมที่คว้ารางวัลพร้อมเปิดเผยว่า “การแข่งขันประเภท ครีเอทีฟ ให้ความสำคัญกับส่วนประกอบ โดยเริ่มตั้งแต่ดีไซน์ สีสันเส้นผม และแฟชั่นผม เน้นสีดั้งเดิมของ เส้นผม ไล่โทนสี 3 สี เน้นสีให้พลิ้วไหวไปกับเส้นผม ไล่โทนสีเดิม ค่อยๆ เพิ่มสีแดง และสีส้มที่ปลายเส้นผม เพิ่มเทคนิคแฟชั่น ที่ปลายผมให้สะบัดออกเล็กน้อย เส้นผมแลดูอ่อนช้อย เพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าสุภาพสตรี”
อ.คำพุ ไตรยสุทธิ์ แชมป์ผมโลกจากการแข่งขันที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ปี 2002 เปิดเผยว่า “การแข่งขันประเภทครีเอทีฟ แฮร์สไตล์ เน้นสีสัน ไม่มากเกินไป เดินถนนได้ แต่ควรใช้เทคนิค ไฮไลท์ให้ดูโดดเด่น สะดุดตา ส่วนดีไซน์ก็ตัดสไลด์ แบบรากไทร ให้ผมข้างหลังตรงคอยาวลงไป จะแลดูวัยรุ่น ส่วนด้านบนเน้นไฮไลท์ ทำสีให้กลมกลืน ส่วนเคล็ดลับที่จะช่วยพิชิตชัยชนะครั้งนี้ได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกนายแบบ ทรงผม และเสื้อผ้าที่แมตช์กับประเภทผม”
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา และคุณวิภาวัลย์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net