กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--อาร์เอส
อาร์เอส เดินหน้ารุกตลาดอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง ตั้งบริษัทใหม่ “อาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ชูกลยุทธ์การตลาดครบวงจรแบบ 4 มิติ รูปแบบใหม่ หวังสร้างความพึงพอใจสูงสุดจับต้องได้ ทั้งการรับรู้ ภาพลักษณ์ และ เพิ่มยอดขาย รุกต่างประเทศทั้งเวียดนาม ไต้หวัน และจีนเต็มตัว ชี้ตลาดเมืองไทยดีมานด์สูง แต่ซัพพลายน้อย ส่วนมืออาชีพที่แกร่งต้องอาศัยประสบการณ์สูง รู้จักจับกระแส และก้าวทันเทคโนโลยี
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอสได้เข้าถือหุ้นบริษัท ไอ-ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอีเว้นท์โปรโมเตอร์ และมาร์เก็ตติ้ง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทอาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยอาร์เอสถือหุ้นในสัดส่วน 60%ของทุนจดทะเบียน ทั้งนี้การรวมตัวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจด้านอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง (Event Marketing) ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่สุดรายหนึ่งในประเทศ และเอเชีย
“ อาร์เอส มีสายงานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ครบวงจร ทั้งงานเพลง รายการโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ นิวมีเดีย และศิลปินดารา นักร้องอีกกว่า 300 ชีวิต ซึ่งปัจจุบันอาร์เอสได้พัฒนาธุรกิจมาสู่การเป็น ENTERTIANMENT CONTENT & MEDIA PROVIDER การเข้าถือหุ้นในไอ-ดรีมฯ ซึ่งมีจุดแข็งที่มีประสบการณ์ในการจัดงานด้านอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้งระดับนานาชาติ และระดับโลกมาแล้ว จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของบริษัทสมบูรณ์แบบและครบวงจรมากขึ้น” ด้านนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด อีเว้นท์โปรโมเตอร์ และมาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากธุรกิจต้องการรูปแบบและกลยุทธ์การทำตลาดที่หลากหลาย อาร์เอสไอ ดรีมได้วางแผนกลยุทธ์ในการทำตลาดอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง ในแบบ 4 มิติ (4D EVENT MARKETING) ด้วยการ TIE IN และ / หรือ PLACEMENT สินค้า กับCONTENT ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฎโลโก้สินค้าในแค่ชิ้นงานสื่ออีกต่อไป ซึ่งนี่คือแนวทางการให้ประโยชน์แก่ลูกค้าสูงสุดไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์สินค้า ซึ่งบางรายมี AWARENESS ในตลาดสูงอยู่แล้ว แต่จะเป็นเติมเต็มในกลยุทธ์ที่สามารถผูกใจ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภค ทั้งยังเพิ่มยอดขายของสินค้า และบริการแบบทั้งทางตรง และทางอ้อมอย่างรวดเร็ว
สำหรับเป้าหมายในรุกตลาดต่างประเทศนั้นเป็นการซื้อขาย CONTENT ทั้งใน และต่างประเทศทั้งในรูปแบบ ENTERTAINMENT และ EDUTAINMENT เพื่อมาสร้างแผนงานการตลาดเชิงลึกรวมกับ แนวคิด4D EVENT MARKETING ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ทำการศึกษาศักยภาพและความต้องการของตลาดในต่างประเทศ ร่วมกับพันธมิตรหลายราย ซึ่งแต่ละประเทศล้วนมีช่องทางทางการตลาดและโอกาสในการก้าวเข้าไปขยายธุรกิจประเทศแถบเอเชีย อาทิ เวียดนาม ไต้หวัน และจีน เป็นต้น
“การเข้ามาถือหุ้นของอาร์เอสในครั้งนี้ จะเสริมมูลค่าของสินค้าและบริการที่มีอยู่ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ซึ่งในปีแรกนี้บริษัทมีแผนที่จะจัดอีเว้นท์ ขนาดใหญ่ถึง 5 โครงการ ดังนี้ โครงการแข่งขันพลุชิงแชมป์โลกครั้งแรกในประเทศไทย, เทศกาลแจ๊ส เฉลิมพระเกียรติ สุดยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ โดยดึงศิลปินระดับโลก “ เคนนี่ จี ” และศิลปินระดับตำนานของโลกกว่า 10 วงมาร่วมงานด้วย, มหกรรมรวมฮิตซุปเปอร์ฮีโร่ จากลิขสิทธิ์ทั่วโลก, การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลก และสปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อีเว้นท์รูปแบบใหม่ที่ผสมผสานการแข่งกีฬา และความบันเทิงเข้าด้วยกัน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ”
นายบุญเพิ่ม กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้งมีดีมานต์สูง แต่ที่ผ่านมามียังคงมีโปรโมเตอร์น้อยราย ขณะที่ผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพหรือมีความเชี่ยวชาญในด้านอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง จำเป็นจะต้องอาศัยประสบการณ์ รู้จักจับกระแสตลาดมานำเสนอให้สอดคล้อง รวมถึงต้องไล่ตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาให้ทันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ตลาดอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้งในเมืองไทยมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการต้องประสบกับปัญหาเรื่องของภาษีนำเข้า และเม็ดเงินลงทุนที่สูงทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับอีเว้นท์ โปรโมเตอร์ในต่างประเทศได้ ซึ่งหากว่าได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง จะเป็นการช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีสีสันในการแสดงศักยภาพการจัดงานระดับสากลเพิ่มขึ้นอีกด้วย และในขณะนี้มีผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐ และเอกชนหลายรายเริ่มให้ความสนใจที่เข้าร่วมสนับสนุน และผลักดันแนวทางการทำตลาดแบบนี้อย่างคับคั่ง
อนึ่งผลประกอบการของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 2 ของปี 2549 มีรายได้รวม 757.97ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% มีกำไรสุทธิ 35.31ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้มาจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ รายได้ค่าโฆษณาในธุรกิจวิทยุและสิ่งพิมพ์ รายได้ค่าลิขสิทธิ์ในธุรกิจดาวน์โหลดเพลงและธุรกิจภาพยนตร์ รายได้จากการผลิตภาพยนตร์ และรายได้จากการผลิตละคร
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit