อุตสาหกรรมไทยชูศักยภาพ หวังพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าแทนที่ เพื่อให้ทันต่อการแข็งขันกับตลาดโลก

รี๊ด เทรดเด็กซ์ จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Thailand Manufacturing Industry 2006” ในงาน METALEX Forum #9สภาวะอุตสาหกรรมในปัจจุบันและแนวโน้มอุตสาหกรรมหลักของไทยในอนาคตที่ทำเงินเข้าประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมเจาะภาพรวมและนโยบายโครงการล่าสุดในการรองรับการพัฒนาและสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตจากภาครัฐ เพื่อให้ทันต่อการแข็งขันกับตลาดโลกในระยะยาว นายดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้จัดการกลุ่มโครงการ บริษัท รี๊ด เทรดเด็กซ์ จำกัด กล่าวเปิดงานสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของประเทศไทยอย่างชัดเจนในการก้าวเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์แห่งเอเชีย รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคนี้ เพื่อนักอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเหล็ก ทั้งยังได้เสนอข้อมูลล่าสุดและกลยุทธ์การผลักดันของอุตสาหกรรมของไทยให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอาทิ ประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น ในระยะยาวได้ รวมทั้งยังได้รับทราบนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐบาล อันเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจอย่างรัดกุมเกี่ยวกับการบริหารทางด้านการตลาดจากบริษัทระดับโลก เพื่อเป็นกุญแจสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไป การจัดสัมมนาครั้งนี้มุ่งเน้นใน 3 อุตสาหกรรมหลัก อาทิ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเหล็ก โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีชื่อเสียงของแต่ละภาคอุตสาหกรรมนำโดย ดร.อรรชกา บริมเบิล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านของการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกรอบของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยต้องเริ่มจากการพัฒนาขีดความสามารถให้มีความพร้อมในทุกด้านของอุตสาหกรรมควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมธุรกิจ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมให้ทันสมัยตามนโยบายของรัฐบาล วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลก เพิ่มคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและเพื่อคุณภาพชีวิตกับสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่ต้องเน้นในปีนี้ แนวโน้มและทิศทางการลงทุนเป็นอีกสิ่งที่อุตสาหกรรมไทยต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องการขาดแคลนแรงงานฝีมือ จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานเข้ามาทดแทน ผลิตสินค้าที่มี Value Added หรือ Value Creation แล้วเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพัฒนาแรงงานในเรื่องทักษะรวมทั้งอาจจะต้องย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศในอนาคต สำหรับอุตสาหกรรมที่ยังคงเน้นแรงงานเป็นหลัก โดยสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ต้องการเน้นให้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาแทนที่ ในมุมมองของภาคเอกชนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยนายถาวร ชลัษเฐียร กรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล ( ประเทศไทย ) จำกัด ประธาน กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ นำเสนอในเรื่องที่น่าจับตามองอยู่ในปัจจุบัน อาทิ สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ภาพรวมการผลิตและการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ แนวโน้มและความท้าทายของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในอนาคต ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ผู้ประกอบการและนักอุตสาหกรรมต้องระวัง รวมทั้งเรื่องกลยุทธ์การวางแผนการผลิต ช่องทางการลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายและได้ผลกำไรในระยะยาวอีกด้วย ผู้บริหารยักษ์ใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าในประเทศไทย นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานกรรมการ บริษัทนครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลกระทบจากการลงทุนในตลาดโลกทำให้คิดว่าควรจะมีการรวมตัวกันเพื่อความอยู่รอด ซึ่งปัจจุบันก็มีการรวมตัวกันอยู่แต่ควรจะมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์เพื่อผลกำไรของบริษัทมากกว่า” ทั้งนี้ในการจัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Thailand Manufacturing Industry 2006” เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมพร้อมต้อนรับมหกรรมงานเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่อการผลิตอุตสาหกรรมแบบครบวงจร “Metalex 2006” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ในระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน ศกนี้ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกรรณภร ภิรมย์อรรถ / ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด โทร 02-686-7215 , 08-1402-0218

• ข่าวดวงเด็ด ย้วยความดี
• ข่าวอุตสาหกรรมยานยนต์
• ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก
• ข่าวอิเล็กทรอนิกส์
• ข่าวอุตสาหกรรมไทย