สมาคมบริษัทจดทะเบียนหนุนมาตรการด้านภาษีขยายตลาดทุนไทย

20 Jun 2006

กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียน

เสนอภาครัฐพิจารณาอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อจูงใจบริษัทจากนอกตลาดหลักทรัพย์ หวังขยายฐานตลาดทุนไทย สร้างสภาพคล่องและความมั่นใจนักลงทุน หาเม็ดเงินใหม่เข้าซื้อขายหุ้นผ่านตลาดทุน

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียน เปิดเผยถึงแผนงานปีหน้าของสมาคมฯว่า สมาคมฯจะเสนอประเด็นด้านการเพิ่มปริมาณบริษัทจดทะเบียนและมาตราการด้านภาษี (Supply & Tax) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมสรรพากร และสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญและพิจารณาเรื่อง อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ให้มีความแตกต่างจากบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ เพื่อดึงดูดให้บริษัทใหญ่นอกตลาดหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพให้เข้ามาจดทะเบียนและระดมทุนผ่านระบบตลาดทุนของไทย

นอกจากนี้ สมาคมฯจะเดินหน้าพัฒนางานด้านบรรษัทภิบาล หรือการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance : CG) โดยการจัดทำโครงการต่างๆ เช่น การจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของแต่ละบริษัทจดทะเบียน และการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิเสนอเพิ่มวาระการประชุม/เสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการ โดยผ่านช่องทางเว็บไซต์ของแต่ละบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง สมาคมฯได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการสมาคมขึ้น 7 คณะ เพื่อสร้างความเข็มแข็งและความชัดเจนในการบริหารอันจะส่งผลดีต่อบริษัทสมาชิกและตลาดทุนไทย ซึ่งประกอบด้วย คณะอนุกรรมการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุน คณะอนุกรรมการการเรียนรู้และการฝึกอบรม คณะอนุกรรมการด้านบรรษัทภิบาล คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและ กฎ ระเบียบ คณะอนุกรรมการสมาชิกสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ คณะอนุกรรมการการสรรหาและโครงสร้างการบริหารสมาคม และ คณะอนุกรรมการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย

นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาชิกของสมาคมฯประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนทั้งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาด เอ็ม เอ ไอ ดังนั้น ภารกิจและการดำเนินงานของสมาคมฯ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยเป็นอย่างมาก เพราะสมาคมฯมีบทบาททั้งทางตรงและทางอ้อมในการสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับนักลงทุน รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกระตุ้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ