สิงห์บุรี ไว้ใจให้ สพว. พัฒนาระบบ โลจิสติกส์ ติดอาวุธทางปัญญาผู้ประกอบการอุตฯ - เอสเอ็มอี – โอทอป

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม (สพว.) เร่งพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ธุรกิจเอสเอ็มอี และสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ นำร่องจัดทำโครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หวังลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ให้สามารถแข่งขันในตลาดได้มากยิ่งขึ้น นายยุทธพงษ์ วัฒนะลาภา รองผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สายการตลาด เปิดเผยว่า สถาบันได้ร่วมมือกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี จัดทำ โครงการพัฒนาระบบการบริหารสินค้าคงคลังและการขนส่ง (Logistics) เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรม และ SMEs ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารสินค้าคงคลังและการขนส่ง นำความรู้ที่ไปประยุกต์ใช้ในสถานประกอบการของตนเองให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสามารถลดต้นทุนและยกระดับการบริหารจัดการให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและ SMEs ต่อไป สถาบันจะดำเนินการคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 400 คน ที่ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน การบริหารสินค้าคงคลัง การขนส่งและห่วงโซ่อุปทาน จนได้แผนธุรกิจจำนวน 15 สถานประกอบการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับปรุง พัฒนาการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิผล และลดต้นทุนได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีทีมปรึกษาให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นโครงการระยะสั้นที่ต้องการเห็นผลที่ชัดเจนจึงมุ่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ทั้ง 15 สถานประกอบการ ตามปัญหาและความต้องการของแต่ละวิสาหกิจ ส่วนตัวชี้วัดความสำเร็จนั้นประเมินได้จากร้อยละที่เพิ่มขึ้นของรายได้จากสินค้าภาคอุตสาหกรรม โดยเปรียบเทียบจากปัจจัยการผลิตที่สำคัญคือ การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนสินค้าคงคลังที่ลดลง เนื่องจากสามารถวางแผนและควบคุมการดำเนินงาน โดยเริ่มจากการจัดการวัตถุดิบ สินค้า และบริการ เคลื่อนย้ายจากต้นทางไปยังลูกค้าได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ รวมถึงประสิทธิภาพการวางแผนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย “ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการรายย่อย นับเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในปัจจุบันผู้ประกอบการมักประสบปัญหาต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศ ทำให้การประกอบธุรกิจได้รับผลกระทบ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุส่วนใหญ่คือขาดความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหาร ทำให้มีต้นทุนการผลิต การขนส่ง จัดเก็บเคลื่อนย้ายสินค้า การจำหน่ายและบริการที่สูงขึ้น โครงการความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการนำร่องสถานประกอบการตัวอย่าง ซึ่งจะทำให้เกิดการรวมกลุ่มโลจิสติกส์สัมพันธ์ อันเป็นประโยชน์ด้านข้อมูลข่าวสารและการบริหารที่ดีอีกด้วย” นายยุทธพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม+สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางวันนี้

"InterCare Asia 2024" คึกคัก เงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการสุขภาพไทย

งาน "InterCare Asia 2024" งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกวัย ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ดึงดูดผู้ซื้อคุณภาพเกือบ 20,000 คน ตลอด 3 วันของการจัดงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วยสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย และร่วมสนับสนุนโดยสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) รวมถึงภาคีเครือข่ายอื่น ๆ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิด

ปิดฉากลงอย่างสวยงาม สำหรับงาน "InterCare ... เอ็น.ซี.ซี. ปลื้ม คนรักสุขภาพร่วมงาน "InterCare Asia 2023" แน่นกว่า 11,800 คน — ปิดฉากลงอย่างสวยงาม สำหรับงาน "InterCare Asia 2023 งานแสดงสินค้าและนวัตกรร...

นางสาวลาริณี ปิยะณัตติพูล ผู้ช่วยกรรมการผ... กรุงไทยปลื้มลูกค้า SME คว้ารางวัลธรรมาภิบาลดีเด่นปี 2566 — นางสาวลาริณี ปิยะณัตติพูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมแสดงความยินดีกับ นายธนว...

P5 Group โดยคุณภาวัฒน์ โตกะคุณะ ประธานเจ้... "PVIVE" คว้ารางวัล 2ndCASH AWARD 2022 ตอกย้ำสุดยอดแบรนด์ SME — P5 Group โดยคุณภาวัฒน์ โตกะคุณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Pvive (พีไวว์) ...