แป้งเด็กเบบี้มายด์ทุ่มกว่า 100 ล้าน รุกตลาดแป้งอย่างหนัก หลังตลาดแป้งเด็กเริ่มชะลอตัว หวังส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 15% ในปีนี้ เปิดตัว 3 สูตรใหม่ ชูจุดเด่นของสินค้า และเพิ่มกลุ่มเป้าหมายจากเดิมเด็กและแม่ เป็นครอบครัว ใช้เทคนิคการเปิดตัวหนังรูปแบบใหม่ 4 มิติครั้งแรกในประเทศไทย สัมผัสได้ทั้งกลิ่น และความรู้สึกเหมือนจริง พร้อมจัดโรดโชว์ทั่วประเทศ
คุณวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งเด็กเบบี้มายด์ เปิดเผยว่าบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดผลิตภัณฑ์แป้งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่นับว่าอัตราการเก็บของเด็กลดลง ด้วยการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายรอง ได้แก่ กลุ่มคุณแม่ คนทำงาน วัยรุ่น ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ด้วยการปรับสูตร และบรรจุภัณฑ์ใหม่
การปรับสูตรดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 สูตร คือ 1. แป้ง Pure Protection (สีขาว) สูตร Anti-Rash ช่วยป้องกันการเปียกชื้นและผดผื่นดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็ก อายุระหว่าง 0-3 ปี 2.แป้ง Sweet Tender (สีชมพู) สูตร Cotton Seed Oil and Arnica Flower ช่วยดูแลผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น หอมละมุน เหมาะสำหรับผู้หญิง และผู้ที่ต้องการถนอมผิว และ 3.แป้ง Happy Time (สีฟ้า) สูตร Vitamin E & Rosemary Extract ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี กลิ่นหอมสดชื่น แจ่มใส ผ่อนคลาย มีความสุข เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
สำหรับงบการตลาดในปีนี้วางไว้ที่กว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัทจะเริ่มทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้ง Above the line และ below the line ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างจังหวัด และจัดกิจกรรมโรดโชว์ ไปยังร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีก ทั่วประเทศอีกด้วย
ในปัจจุบันการแข่งขันของตลาดแป้งเด็กทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคู่แข่งทุกรายต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดของตัวเองไว้ โดยขนาดของตลาดแป้งเด็กในปัจจุบัน มีมูลค่าประมาณ 1,883 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาตลาดมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด และคาดว่าในปี 2547 จะมีอัตราลดลงประมาณ ร้อยละ 5.9 อยู่ที่ประมาณ 14,496 ตัน
กลยุทธ์หลักที่ถูกนำมาใช้ คือ กลยุทธ์การตัดราคา และการใช้พรีเมี่ยมแถมกับสินค้า (With Pack) โดยผู้นำตลาดได้มีการกระตุ้นตลาดด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวในปีนี้มากขึ้น สำหรับแป้งเด็กจอห์นสันถือได้ว่าเป็นสินค้าที่น่าจับตามอง เพราะมีการทำตลาดอย่างหนัก ด้วยกลยุทธ์ร Launch Variant ใหม่ คือ สูตรผสมมิลค์โปรตีน โดยใช้สื่อโฆษณาอย่างหนักในการสร้างความจดจำสำหรับสูตรใหม่ดังกล่าว สลับกับกลยุทธ์ด้านราคา ที่มีการเพิ่มปริมาณใน Size ใหญ่แต่ขายราคาเท่าเดิม ส่วนโคโดโมเน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กที่เป็นคนมีส่วนในการตัดสินใจซื้อ โดยใช้กลยุทธ์ with pack premium ที่ดึงดูดใจเด็กๆ ทั้งนี้เพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดที่เสียไปให้กลับคืนมาอีกครั้ง ส่วนคัสสันได้มีการตัดงบประมาณด้านสื่อออกแล้วมาเน้นการทำ promotion ด้วยการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเป็นหลักอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเพิ่ม market share ใน volume แต่ยังไม่เห็นได้ชัดนักใน value share
ทางด้านเบบี้มายด์ไม่ได้รับผลกระทบต่อการทำตลาดอย่างหนักของคู่แข่งมากนัก เนื่องจากได้มีการวางจุดยืนสินค้าแป้งอย่างชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก และผู้หญิงที่ต้องการแป้งคุณสมบัติพิเศษ เช่น มีความเนียนนุ่ม หอมละมุน ซึ่งขณะนี้แป้งเบบี้มายด์มี 12% รอบปลายปี 2547 Market Share เป็นอันดับ 3 อย่างมั่นคงรองจาก แคร์ และ จอห์นสัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 2 เดือนล่าสุด (ธันวาคม 2547 - มกราคม 2548) เบบี้มายด์ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 14% (ข้อมูล: AC Nielsen) ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น (Net Sale) จากปีที่ 2546 ประมาณ 10% ซึ่งสวนทางกับตลาดที่หดตัวลง และจากผลสำรวจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการถนอมผิวให้เนียนนุ่ม เนื้อแป้งละเอียดและต้องการแป้งที่มีกลิ่นที่หอมอ่อนๆ ติดทนนานมากยิ่งขึ้น เบบี้มายด์จึงได้ทำการปรับโฉมพร้อมปรับสูตรใหม่ในผลิตภัณฑ์แป้งเด็กเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้มีการปรับปรุงสูตรและวางจำหน่ายแต่ละ variant ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แป้งเบบี้มายด์ได้ผ่านการสเตอริไลส์ฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 100 องศาเซลเซียส ทั้งยังมั่นใจในความปลอดภัยเนื่องจากแป้งเบบี้มายด์ได้มีการทดสอบการระคายเคืองต่อผิวหนัง (Dermatological Test) ภายใต้ตัวแปรในประเทศไทย ที่มีอากาศร้อนชื้น
Packaging ใหม่ดูสดใสทันสมัยและสื่อถึงคุณประโยชน์ของแป้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 500 กรัมแพ็คคู่ ซึ่งผลตอบรับจากผู้บริโภคและร้านค้าดีมาก
ในส่วนของกิจกรรมนั้น แป้งเด็กเบบี้มายด์จะทำรายการส่งเสริมการขายพร้อมเสริมสร้าง New User เป็นหลักโดยแป้งเบบี้มายด์ ได้มีการแจกสินค้าตัวอย่างแก่ผู้บริโภคจำนวนกว่า 300,000 ชิ้น ณ จุดขาย และ รวมไว้ในชุดของขวัญแก่ โรงพยาบาลทั่วประเทศ รวมกันกว่า 170 แห่ง ให้แก่คุณแม่ ที่มาคลอดในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีโครงการเบบี้มายด์คลับที่มีการจัดสัมมนาเดือนละครั้งทั่วประเทศในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก รวมถึงวิธีการปฏิบัติตัวของคุณแม่มือใหม่ โดยหลังจากที่ผู้บริโภคมีโอกาสได้ทดลองใช้หรือเข้าร่วมสัมมนาแล้ว จะสามารถซื้อสินค้าได้ตามร้านค้าทั่วไปซึ่งมีรายการส่งเสริมการขาย
คุณวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังที่เบบี้มายด์ ได้ปรับสูตร 3 สูตร เพื่อรุกตลาดแป้งเด็กนั้น คาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 15% และมีอัตราการเติบโตถึง 20% ในปี 2548 นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท โฟร์ฮันเดรท จำกัด
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง
โทร. 0-1913-1291, 0-2510-5514-5
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--