นักวิเคราะห์เชียร์สนั่น TMT พื้นฐานแกร่ง ชี้หนี้สินต่อทุนปี 49 จะลดลงเหลือ 0.40 เท่า ให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ช่วงประมาณ 8.39-8.40 บาท

14 Feb 2005

กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--124 คอมมิวนิเคชั่น

จากการที่บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ผู้ดำเนินธุรกิจหลักเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร โดยให้บริการการผลิต แปรรูป ปรึกษา และจัดหารผลิตภัณฑ์เหล็กเปิดเผยว่าจากการที่บริษัทเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5.95 บาท ไปเมื่อวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายร่วมด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บีที จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน), และบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) นั้นปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งสถาน และรายย่อยอย่างมาก และล่าสุดได้มีบทวิเคราะห์ของสถาบันการเงินหลายแห่งเกี่ยวกับบริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) เช่นบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของค้าเหล็กไทยเชื่อมั่นว่าบริษัทเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจรที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตร้อยละ 20 ต่อปีกล่าวคือจาก 325 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 556 ล้านบาทในปี 2550 และคาดว่ายอดขายจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 18 ต่อปี จาก 5,350 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 8,750 ล้านบาทในปี 2550 อีกทั้งบริษัทยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งซึ่งบริษัทปลอดหนี้ระยะยาว ทั้งนี้คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.78 เท่า ณ สิ้นปี 2547 เป็น 0.40 เท่า ณ สิ้นปี 2549 ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะเพิ่มจาก 1.49 บาท/หุ้น ณ สิ้นปี 2547 เป็น 2.90 บาท ณ สิ้นปี 2548 และจะเติบโตเป็น 3.40 บาท ณ สิ้นปี 2549

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทระบุว่าฐานกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะมีการขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว โดยในปี 2548 และ 2549 จะมีการขยายตัวในอัตราร้อยละ 26 และ 23 ตามลำดับ และนอกจากนี้ผู้จอมซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจะได้รับเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2547 ซึ่งคาดว่าจะจ่ายประมาณ 0.35-0.37 บาทต่อหุ้น

"จากการที่โครงสร้างธุรกิจที่มีองค์ประกอบทั้งธุรกิจศูนย์บริหารเหล็ก และการแปรรูปเหล็ก ทำให้มีการกำหนด Fair Value ของหุ้น TMT ไว้บริเวณค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ P/E 9 เท่า ซึ่งที่บริเวณดังกล่าวจะให้มูลค่าหุ้นที่เหมาะสม ณ สิ้นปี 2548 อยู่ที่ 8.39 บาท"

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บีที จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่องและดีขึ้นตามลำดับ กล่าวคือในปี 2546 บริษัทมีรายได้จากการจัดหาและแปรรูป 4,163 ล้านบาท กำไรสุทธิ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75 และร้อยละ 132 ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการรอบ 9 เดือนปี 2547 มีรายได้จากการจัดหาและแปรรูป 4,098 ล้านบาท กำไรสุทธิ 248 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2547 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 และร้อยละ 159 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้ประมาณการปี 2548 ว่ารายได้และกำไรสุทธิเติบโตร้อยละ 29 และร้อยละ 15 กล่าวคือรายได้ 6,591 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 345 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการกำหนดราคาที่เหมาะสมของ TMT อยู่ที่ 8.10 บาทต่อหุ้น โดยอิงที่ P/E 10 เท่า

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TMT กล่าวว่าได้ประเมินมูลค่าหุ้น TMT ตามปัจจัยพื้นฐานปี 2548 อยู่ที่ 8.40 บาท โดยอิงกับค่า P/E ที่ต่ำกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติปี 2548-2549 ที่ร้อยละ 20.8 ต่อปี

ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวน 505.75 ล้านบาทนั้นบริษัทจะนำไปขยายโครงการที่สองของโรงงานที่อำเภอวังน้อย และเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กแผ่นตัดตามขนาดอีกประมาณ 190,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนให้ศูนย์กระจายสินค้าที่อำเภอวังน้อยเป็นศูนย์ต้นแบบในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติมในภูมิภาคอื่นๆ อีกในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านั้นบริษัทได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าและโรงงานที่อำเภอวังน้อย ตลอดจนเพิ่มสายการผลิตผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กและเหล็กโครงสร้างรูปตัวซีซึ่งได้ทดลองการผลิตเมื่อช่วงไตรมาส 4 ปี 2547 ที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการไตรมาสสามปี 2547 นั้นบริษัทมียอดขายสุทธิเท่ากับ 1,338.55 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 100.42 ล้านบาท และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.48 และผลประกอบการของบริษัทรอบ 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2547 เท่ากับ 4,097.68 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 248.49 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 6.04 ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,843.59 ล้านบาท

อนึ่งบริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2535 ภายใต้ชื่อ "บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด" ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มครอบครัว ธรสารสมบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจหลักเป็นศูนย์บริหารเหล็กครบวงจร โดยมีลักษณะการให้บริการการผลิต แปรรูป ปรึกษา และจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็ก ด้วยการจัดรูปแบบของสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

อินทิรา ใจอ่อนน้อม

หม่อมหลวงฉัตรามณี เกษมศรี

ดรรชนี นวลเขียว

ศศิคนางค์ ศรีนวน

บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด

โทร. 0-2662-2266--จบ--