TFDร่วมตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์“ไทยอินดัสเตรียลฟันด์”คาดYield8%ดึงINGผู้จัดการกองทุน-เดวอนไชร์ฯที่ปรึกษา

07 Feb 2005

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--โอเอซิส มีเดีย

TFD ร่วมตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อไทย อินดัสเตรียล ฟันด์ (TIF ) เป็นกองทุนแรกของอสังหาฯภาคโรงงาน มีไอเอ็นจี เป็นผู้จัดการ ส่วน เดวอนไชร์ เกียรตินาคิน เป็นที่ปรึกษา ด้วยเงินทุนโครงการ 570 ล้านบาท คาดผลตอบแทน 8 % นโยบายจ่ายปันผล 90 % เตรียมเสนอขายประชาชนทั่วไป7-15ก.พ.นี้ “อภิชัย เตชะอุบล”แจงงานนี้ส่งรายได้ TFD ฉลุยแน่ เฉพาะ Q 1 เกือบครึ่งของเป้ารายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ 1,300 ล้านบาท

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด ( มหาชน ) หรือ TFD ผู้ดำเนินธุรกิจสร้างโรงงานสำเร็จรูปเพื่อขายและให้เช่า ตลอดจนโครงการที่พักอาศัยย่านทำเลใจกลางเมือง เปิดเผยในงานแถลงข่าวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล (Thai Industrial Fund-TIF) ว่ากองทุนนี้ถือเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองแรกในประเทศไทย ที่มีนโยบายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน และไม่กำหนดอายุโครงการ จำนวนเงินลงทุนโครงการ 570 ล้านบาท คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสูง 7.5-8 % และจะเปิดขายแก่ประชาชนทั่วไป ในช่วงวันที่ 7-15 กุมภาพันธ์ 2548 นี้ ราคา 10 บาท จองขั้นต่ำ 10,000 บาทและเพิ่มเป็นทวีคุณของ 1,000 บาท ทั้งนี้หน่วยลงทุนได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอสังหาริมทรัพย์ สามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้

ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนรวม TIF เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2548 มีบริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุน ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการกองทุน บริษัท เดวอนไชร์ เกียรตินาคิน จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท พรีโม่ แอสเซท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระเป็นที่ปรึกษาในการบริหารสินทรัพย์ที่เป็นประโยชน์ต่อกองทุน โดยมี TFD เป็นผู้บริหารทรัพย์สิน

“TFD ถือเป็นรายแรกที่ได้รับอนุมัติจัดการกองทุนรวมจากก.ล.ต. โดยเราขายทรัพย์สินคือโรงงานเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเทรียล มูลค่า 505 ล้านบาท TFD ถือหน่วยลงทุนนี้อยู่จำนวน 25 % ของทุนโครงการ ประโยชน์ที่จะได้จากการเป็นผู้บริหารงาน จะเห็นว่าผลตอบแทนที่ได้จะมีความแน่นอนชัดเจนทุกปีคาดว่าที่ประมาณ 8 % จากวงเงินลงทุนที่ TFD มีอยู่จำนวน 142.5 ล้านบาท นโยบายการจ่ายปันผล 90 % ของ Net Profit โดยจะจ่ายอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยมีรายได้ปันผลจากเงินลงทุนในหน่วยลงทุน TIF นี้ปีละมาณ 12 ล้านบาทต่อปี

นายอภิชัยกล่าวถึงความมั่นใจที่นักลงทุนจะมีต่อกองทุนรวม TIF ว่ากองทุนนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้มีรายได้แน่นอน เพราะ TFD เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการสร้างโรงงานสำเร็จรูปเพื่อขายและให้เช่า มานานถึง 28 ปี แม้ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ลูกค้าของบริษัทไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใด สามารถจ่ายค่าเช่าตรงเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าระยะยาว คือ สัญญา 3 ปี ต่ออายุอีก 3 ปี นักลงทุนที่จะลงทุนในหน่วยลงทุนนี้ จะได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอทุกปี จึงมั่นใจได้ว่ากองทุนรวม TIF มีความน่าลงทุนอย่างแน่นอน โดยมีผ็สนใจเข้าฟังการชี้แจงรายละเอียดกองทุนในวันนี้เป็นจำนวนมาก

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงนโยบายการลงทุนของ TIF ว่า เน้นการลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง ให้เช่า ซึ่งกระจายอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญ ซึ่งกองทุนนี้จะได้รับประโยชน์จากค่าเช่าในระดับที่น่าพอใจ โดยในขั้นแรกกองทุนจะลงทุนในโรงงานทั้งสิ้น 14 โรงงาน โดย 12 โรงงานเป็นการซื้อมาจาก TFD ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม ประมาณการผลตอบแทนเฉลี่ย 8 % ต่อปี น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในปัจจุบัน และผลตอบแทนจากค่าเช่าโรงงาน เป็นผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้เช่าโรงงานเป็นผู้เช่าที่มีคุณภาพ และศักยภาพในการเจริญเติบโตทางภาวะเศรษฐกิจ

นายอภิชัยกล่าวถึงผลจากการจัดตั้งกองทุน TIF จะส่งผลดีต่อเป้าหมายรายได้ปี 2548 ของ TFD ตั้งประมาณเติบโตไว้ 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา คือ 1,300 ล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2548 TFD จะสามารถมีรายได้เกือบ 50 % ของเป้าหมายรายได้ทั้งปี ทั้งนี้ TFD จะนำรายได้ที่ได้มาจากกองทุนฯสำหรับซื้อที่ดินเพื่อการขยายงานก่อสร้างโรงงานและโกดังเก็บสินค้าให้เช่าเป็นลำดับต่อไป ซึ่ง TFD มีความตั้งใจที่จะนำรายได้ที่ได้จากการขายสินทรัพย์ให้กับ TIF เพื่อลงทุนซื้อที่ดินและพัฒนาสร้างโรงงานซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคตๆต่อไป

“โดยนักลงทุนเห็นว่าพรรคไทยรักไทย น่าจะเข้ามาบริหารประเทศต่ออีก 4 ปี และนโยบายของพรรคนี้ก็เป็นที่พอใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก ” นายอภิชัยกล่าวปิดท้ายถึงเหตุผลสนับสนุนความมั่นใจต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด

กรุณาติดต่อ ศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / ชัชวาล ตรีเนตร

e-mail : [email protected] ;

[email protected]จบ--