ธนชาติ รุกธุรกิจประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริษัท (D&O)

24 Aug 2004

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--ธนชาติ

ธนชาติ รุกธุรกิจประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริษัท (D&O)จับตลาดผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ธนชาติประกันภัย รุกธุรกิจประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริษัท (Directors’ and Officers’ Liability Insurance – D&O) จับตลาดผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าเป็น อันดับ 1 ครองใจกลุ่มลูกค้า D&O

นายนพดล เรืองจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาติประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ มีแผน รุกธุรกิจประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริษัท (Directors’ and Officers’ Liability Insurance – D&O) มากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนหรือบุคคลต่างๆ สามารถตรวจสอบข้อมูลผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ง่าย ทำให้กรรมการและผู้บริหารของบริษัทอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรับผิดทางกฎหมายต่อบุคคลเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ผู้ถือหุ้น บริษัทคู่ค้า บริษัทคู่แข่งรวมทั้งตัวพนักงานของบริษัท

ทั้งนี้ กรมธรรม์ D&O จะให้ความคุ้มครองต่อกรรมการและเจ้าหน้าที่ ที่อาจถูกเรียกร้องค่าเสียหายจาก ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานหรือตัดสินใจโดยสุจริตใจ ไม่ว่าจะเป็นการวางนโยบาย การบริหาร ภายใน การให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทผ่านสื่อต่างๆ เช่นการฟ้องร้องจากนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของบริษัท หรือ การฟ้องร้องจากพนักงานเนื่องจากการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม

นายนพดล กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ที่จะครองใจกลุ่มลูกค้า D&O โดยบริษัทฯมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ สามารถให้บริการแบบ one stop service คือ ทำการตลาด พิจารณาการรับประกันภัย บริการการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และให้คำปรึกษาด้านการประกันภัยอย่างครบวงจร ที่สำคัญบริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากบริษัทรับประกันภัยต่อ ในการให้อำนาจพิจารณารับ ประกันภัยประเภทธุรกิจ SME และกรมธรรม์ของบริษัทฯยังเป็นแห่งเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากกรมการ ประกันภัย นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทในกลุ่มธนชาติอีกด้วย

นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในธุรกิจการประกัน หัวใจของการทำประกันคือการปกป้องสินทรัพย์ และสินทรัพย์ที่สำคัญของบริษัทต่างๆ ก็คือกรรมการและผู้บริหาร เพราะฉะนั้นการทำประกันบุคคลเหล่านี้ถือว่าทำประกันสินทรัพย์ที่มีค่ามากอย่างหนึ่ง และการที่บริษัทตัดสินใจทำประกันให้กับผู้บริหารก็เพื่อยืนยันถึงความพร้อมและสนับสนุนงานของผู้บริหาร โดยเฉพาะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากผู้บริหารบริษัทเหล่านี้ ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders)ของบริษัทมากขึ้น เช่น ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ลูกค้า หรือ ประชาชน ประกอบกับกลไกในปัจจุบันการบริหารจัดการเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน การมีกรมธรรม์ D&O นี้ ก็จะมีส่วนช่วยให้กรรมการหรือผู้บริหารบริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารและสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ใน การปฏิบัติงานได้มากขึ้น จึงเห็นได้ว่าปัจจุบันการมีกรมธรรม์ D&O เป็นสิ่งที่พบเห็นได้เสมอ ส่วนบริษัทที่ไม่ได้ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็สามารถใช้ประโยชน์นี้ได้โดยเฉพาะกับบริษัทที่มีการติดต่อค้าขายกับบริษัทที่ จดทะเบียนหรือบริษัทที่มีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

นายวิชัย กิตติวิทยากุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานตรวจสอบภายในและบริหารความเสี่ยง บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำประกัน D&O เป็นวิธีบริหารความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อกรรมการหรือผู้บริหารและต่อตัวบริษัท โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากกรมธรรม์นี้คือ ช่วยป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่กรรมการและผู้บริหารกระทำผิด สามารถลดผลกระทบหรือความเสียหายที่เป็นตัวเงินที่กรรมการหรือผู้บริหารและตัวบริษัทต้องชดใช้ในกรณีที่มีการกระทำผิด นอกจากนี้ ยังสร้างความมั่นใจและเป็นสวัสดิการให้กับกรรมการและผู้บริหารที่บริหารงานโดยสุจริตตามหน้าที่ และช่วยให้บริษัทสามารถรักษาและสรรหากรรมการอิสระและกรรมการภายนอกที่มีคุณภาพ ซึ่งช่วยส่งเสริมให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีขึ้น

นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนโยบายหลักของธนชาติประกันภัยในปี 2547 คือ ตั้งเป้าให้บริษัทฯติด 1 ใน 20 ของบริษัทประกันภัยทั้งหมด โดยมีเบี้ยฯ รับรวม 1,100 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น Motor 750 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 70 และ Non - Motor 350 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2547 ที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 469.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.70 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.3 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิรวม 34.88 ล้านบาท ประกอบด้วยกำไรจากการรับประกันภัย 93.45 ล้านบาท กำไรจากการลงทุน 16.46 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 71.78 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 63.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 222.9

แถลงข่าวในนามกลุ่มธนชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณสุภาวรรดี พัฒนะพงษ์วิบูลย์ โทรศัพท์ 0-2661-7999 ต่อ 8046--จบ--

--อินโฟเควสท์ (นท)--