กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยคุณสรรพัชญ โสภณ กรรมการผู้จัดการ ชี้แจงความสำเร็จตามเป้าหมายของผลการดำเนินงานในปี 2546 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์นำองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในปี 2547
คุณสรรพัชญชี้แจงว่า "ผลประกอบการในปี 2546 ที่ผ่านมาของเอชพี ซึ่งประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 4 หน่วยคือ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มธุรกิจการบริการ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ และกลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ ได้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจมีความเด่นชัดในเชิงกลยุทธและนโยบายในการที่จะสนับสนุนความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำด้านตลาดไอทีของเอชพีโดยรวม ความเด่นชัดของแต่ละกลุ่มธุรกิจของเอชพีมาจาก เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่น ซึ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถนำเสนอแก่ลูกค้าเป้าหมายได้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นๆ ซึ่งบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่มีเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ครบวงจรเท่านั้นจะสามารถนำเสนอแนวทางดังกล่าวได้"
"นอกจากนั้นแล้ว การทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรก็เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เอชพีประสบความสำเร็จ และด้วยนโยบายของเอชพีในการสนับสนุนพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เอชพีได้ร่วมกับพันธมิตรเปิดศูนย์ "PITStop" (Partners' Innovative Technology & Solutions Center) เป็นต้น"
"สำหรับกลุ่มธุรกิจด้านการบริการของเอชพีประเทศไทยนั้น สามารถได้เป็นอันดับ 2 ของธุรกิจการบริการในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 1 ในส่วนบริการลูกค้า (Customer support) การประสบความสำเร็จได้นั้นเกิดจากการวางกลยุทธในการให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า มีทีมงานที่เข้มแข็ง มีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ทางด้านการให้คำปรึกษา และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการที่มีความสามารถจนเป็นที่ยอมรับและไว้ใจในกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้บริการจากเอชพี อีกทั้งเอชพียังมีศูนย์บริการที่ได้รับมาตราฐาน ISO 9002 ถึง 22 ศูนย์กระจายทั่วประเทศไทยทำให้สามารถบริการลูกค้าตามจุดต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง"
"นอกจากนั้นแล้ว กลุ่มธุรกิจด้านการบริการของเอชพียังช่วยลูกค้าในการให้คำปรึกษา ออกแบบใหม่ ติดตั้ง แก้ไข ปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้านไอทีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรลูกค้า โดยปีที่ผ่านมา บริการ Outsourcing เป็นบริการที่ลูกค้าให้ความสนใจมาก ซึ่งมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ได้เข้ามาใช้บริการจากเอชพีหลายราย"
"และที่สำคัญ ในปีนี้ เอชพียังมีบทบาทโดดเด่นในฐานะบริษัทไอทีเพียงรายเดียวที่ให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่การประชุม APEC 2003 และ APEC CEO Summit 2003 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งชี้ถึงความเป็นบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมไอทีระดับโลก และความมุ่งมั่นของเอชพีที่จะสนับสนุนให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยอีกด้วย" คุณสรรพัชญกล่าวเสริม
ภาพรวมกลยุทธการดำเนินธุรกิจปี 2547
สำหรับปี 2547 คุณสรรพัชญชี้แจงว่า "ภาพรวมของเศรษฐกิจจะมีการเจริญเติบโตไปทางบวก การใช้เทคโนโลยีทางด้านไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจมีความจำเป็นสูง จึงเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินธุรกิจของเอชพี โดยเอชพีจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภท โดยเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมทั้งใช้ความสัมพันธ์จากการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ ในอุตสาหกรรมไอทีเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม"
"ในปี 2547 ทั้ 4 กลุ่มธุรกิจจะยังคงร่วมมือกันในการที่จะบุกตลาดทุกกลุ่ม ด้วยการมุ่งเสนอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และการบริการที่ครบวงจรที่สุด และเหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้า เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และเอชพีจะยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจกับพันธมิตรที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่าย เนื่องจากเอชพีมีนโยบายที่ชัดเจนในการที่จะเติบโตไปพร้อมกับคู่ค้า และเล็งเห็นว่าพันธมิตรและช่องทางการจัดจำหน่ายของเอชพีแต่ละรายมีความแข็งแกร่งและมีความชำนาญในตลาดของตนอยู่แล้ว" คุณสรรพัชญกล่าว
"นอกจากนั้นแล้ว เอชพีจะให้ความสำคัญกับการร่วมสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อร่วมผลักดันให้ประเทศไทยสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างดีที่สุด" คุณสรรพัชญกล่าวเพิ่ม
สำหรับกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่มจะยังเน้นกลยุทธทางธุรกิจที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตน โดยกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กรขนาดใหญ่ จะยังคงเน้นแนวทางของกลยุทธ "Adaptive Enterprise" ที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลฝ่ายสารสนเทศขององค์กร (ซีไอโอ) ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการทรัพยากรด้านไอทีที่มีอยู่ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจอย่างดีที่สุด เพื่อให้สามารถลงทุนกับนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านไอทีได้อย่างคุ้มค่า โดยเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้าน Adaptive Infrastructure ของเอชพี ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์มาตรฐานอุตสาหกรรม ทั้ง HP ProLiant และ HP Integrity Servers หรือผลิตภัณฑ์ด้านสตอเรจ จะเป็นโครงสร้างที่มั่นคงและเพิ่มขยายประสิทธิภาพให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยในการบริหารจัดการรีซอร์สต่างๆ ภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและในแบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ กลยุทธของ "IT Consolidation" ก็จะเป็นหนึ่งในกลยุทธที่เอชพีจะนำเสนอแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรทางด้านไอทีที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ด้วยกลยุทธนี้ จะช่วยให้มีการใช้ประโยชน์ร่วมกันของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์, ข้อมูล, หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทรัพยากรจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการให้บริการก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธดังกล่าว เอชพีจะนำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าหลัก ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มการเงินและการธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย รวมถึงภาครัฐและวิสาหกิจ เอชพีจะสร้างและสานต่อสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าผ่านการให้บริการและคำปรึกษา รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ กับพันธมิตรทางด้านโซลูชั่น พันธมิตรด้านการให้คำปรึกษา รวมถึงพันธมิตรด้านซอฟต์แวร์ต่างๆ อีกด้วย
กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ จะมุ่งเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบีอย่างต่อเนื่อง โดยเอชพีได้ประกาศกลยุทธ "เอชพีสมาร์ออฟฟิศ" เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมุ่งพัฒนาและเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเทคโนโลยี รวมทั้งโซลูชั่นใหม่ๆ และดีที่สุดสำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีในราคาที่เหมาะสม มุ่งที่จะนำเสนอแพจเกจผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมการบริการจากทีมงานที่มีความชำนาญของเอชพี และความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้ประโยชน์ที่ดีที่สุดแก่ลูก ทั้งนี้ เอชพีได้ใช้เงินลงทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาตลาดเอสเอ็มบีของเอชพี
นอกจากนั้น เอชพีจะให้ความสำคัญกับการขายในลักษณะเป็นโซลูชั่นมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีและโซลูชั่นซึ่งเดิมมีราคาสูงและเหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มาเสนอแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะโซลูชั่นด้านการบริหารจัดการ (SEAT Management) และโมบิลิตี้ พร้อมพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เน้นแนวคิด One Solution One Reseller โดยจะพัฒนาตัวแทนจำหน่ายของเอชพีให้เชี่ยวชาญโซลูชั่นในแต่ละด้าน เช่น โซลูชั่นด้าน Sales Force Automation เป็นต้น
สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ จะดำเนินกลยุทธ "Digital Imaging" และ "Digital Entertainment" อย่างต่อเนื่อง โดยเอชพีมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ให้ประสบการณ์ดิจิตัลที่แปลกใหม่แก่ลูกค้ากลุ่มคอนซูมเมอร์ เอชพีได้วางตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าคอนซูมเมอร์อย่างครบวงจรเพื่อลูกค้าระดับผู้บริโภค โดยเน้นการมอบประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การถ่ายภาพดิจิตัลและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงระบบดิจิตัล มุ่งเน้นแนวทาง "Enjoy More" เปลี่ยนความยุ่งยากสลับซับซ้อนของการใช้เทคโนโลยี่ให้ผู้ใช้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างง่ายดาย รวมทั้ง เอชพีได้นำประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาช่วยให้ลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ หรือ สื่อใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกและถ่ายทอดเพลง ภาพ และวิดีโอในรูปแบบดิจิตัลอย่างง่ายดาย เพื่อสนุกสนานเพลิดเพลินกับความบันเทิงในรูปแบบใหม่ของโลกดิจิตอล ด้วยกลยุทธนี้ของเอชพีสำหรับตลาดคอมซูมเมอร์จะทำให้ผู้ใช้ตามบ้านสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างความบันเทิงภายในบ้านได้ในระดับที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เอชพีมีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค โดยในปี 2547 กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์จะมุ่งเสนอโซลูชั่นด้านการพิมพ์ที่หลากหลายแก่ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชั่น "Pay per Page" หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงต่อจำนวนการพิมพ์ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุดจากการลงทุน เพราะเอชพีเป็นบริษัทเดียวที่มีนวัตกรรมทั้งด้านคอมพิวเตอร์ โซลูชั่นด้านการสื่อสาร และเทคโนโลยีด้านภาพและการพิมพ์ที่ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่าสูงสุด
กลุ่มธุรกิจการบริการของเอชพี มีการวางทิศทางการทำธุรกิจในปี 2547 ให้ครอบคลุมการให้บริการทุกกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งที่เอชพีได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเสมอมา นอกเหนือจากนี้แล้วยังจะมีการให้ความสำคัญต่อเนื่องกับลูกค้าองค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่การเสนอรูปแบบของการให้บริการ Outsourcing และการจัดการแบบ Seat Management นอกจากนี้ เอชพีจะยังมุ่งเน้นงานด้าน Consulting & Integration โดยการมีทีมงานที่มีความชำนาญในการหาโซลูชั่นที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถที่จะนำเสนอบริการใหม่ๆเข้าสู่การแข่งขันในตลาดโดยมีระยะเวลาที่น้อยลง (Time to market)
สำหรับกลุ่มลูกค้า SMB เอชพีจะทำงานประสานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมประสานจุดเด่นซึ่งกันและกันในการให้บริการที่ดีเยี่ยมสู่ลูกค้า รวมทั้งเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมเพื่อเข้าสู่เป้าหมายของการเป็นบริษัทแรกที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการใช้บริการ
ท้ายที่สุด คุณสรรพัชญกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ปี 2547 จะเป็นปีที่สำคัญและเป็นปีที่เอชพีจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นสำหรับตลาดคอนซูมเมอร์ ธุรกิจและสถาบันต่างๆ ทั่วโลก เทคโนโลยีของเอชพีครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ การบริการที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ด้านงานภาพและงานพิมพ์สำหรับผู้ใช้ระดับคอนซูมเมอร์ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา เอชพีมีรายได้ทั้งสิ้น 71.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพีสามารถเข้าไปค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.hp.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผ่ายประชาสัมพันธ์ ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย อัปษร เพชรชาติโทรศัพท์ : 0-2627-3501 แฟกซ์: 0-2627-3510 อีเมล์ :
[email protected] สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการของเอชพี ได้ที่ HP Contact Center : Tel: 0-2353-9000--จบ--
-นห-