กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
- มร. ดักลาส เอ็น. ดัฟท์ ประธานกรรมการ และประธานผู้บริหารสูงสุด เดอะ โคคา-โคลา คัมปานี พร้อมด้วยนายพงส์ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เผยโฉมมิติใหม่ของโครงการเพื่อสังคม
- เปิดตัวโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชน มุ่งเน้นการฝึกอบรมครู การให้ความรู้และทักษะภาษาอังกฤษ รวมถึงเทคโนโลยีการศึกษา
- ประกาศเจตนารมณ์ในการจัดตั้งมูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทย
มร. ดักลาส เอ็น. ดัฟท์ ประธานกรรมการและประธานผู้บริหารสูงสุด เดอะ โคคา-โคลา คัมปานี พร้อมด้วยนายพงส์ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด และพันธมิตรภาครัฐ คือ กระทรวงศึกษาธิการ และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรม-ราชูปถัมภ์ ประกาศเปิดตัวโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชน
โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชน ได้รับงบประมาณสนับสนุนในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินงาน เป็นมูลค่า 50 ล้านบาทจากกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา โดยโครงการดังกล่าวจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 48 พรรษา ทั้งยังเป็นการสนองพระราชดำริของพระองค์ที่ทรงทุ่มเทกับการพัฒนาการศึกษาของไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยและประชาชนมาโดยตลอด
ในงานเปิดตัวโครงการดังกล่าว มร. ดัฟท์ และนายพงส์ ยังได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการจัดตั้งมูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทย เพื่อรับผิดชอบดูแลการดำเนินงานโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชนนี้
"กลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลาในประเทศไทยสนับสนุนการพัฒนาเยาวชนไทยและการศึกษามาโดยตลอดกว่า 25 ปี และในวันนี้ เราได้ก้าวสู่มิติใหม่ของโครงการเพื่อสังคมที่ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ ชุมชน และชาวไทย" นายพงส์ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าว และเสริมว่า
"การจัดทำโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชน ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมกับภาครัฐและองค์กรสาธารณกุศล รวมถึงการจัดตั้งมูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทย เป็นการตอกย้ำถึงนโยบายและความมุ่งมั่นของโคคา-โคลาที่จะสนับสนุนนโยบายหลักของชาติให้บรรลุผลอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง" นายพงส์กล่าว
"ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมฉลองมิติใหม่ของการดำเนินโครงการเพื่อสังคมโดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย และเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รวมถึงสนองตอบนโยบายของรัฐบาลไทยในการสร้างสรรค์สังคมผ่านการศึกษา" มร. ดักลาส เอ็น. ดัฟท์ ประธานกรรมการและประธานผู้บริหารสูงสุด เดอะโคคา-โคลา คัมปานี กล่าว
มร. ดัฟท์ กล่าวย้ำว่า "การศึกษา คือ พลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสให้กับเยาวชน ตลอดจนครอบครัวและชุมชน นอกจากนี้ การศึกษายังช่วยสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างชุมชน เราหวังว่าศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชน จะช่วยเพิ่มศักยภาพและทำให้การดำเนินชีวิตของนักเรียน ครู และชุมชนมีคุณภาพสูงขึ้น"
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ให้แนวทางการพัฒนาโครงการ ดร. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า "กิจกรรมหลักของโครงการนี้ ประกอบด้วย การฝึกอบรมครู การให้ความรู้และทักษะภาษาอังกฤษ รวมถึงเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชนจึงสนับสนุนนโยบายการสร้างสังคมแห่งองค์ความรู้ของไทยอย่างแท้จริง ผ่าน 3 กิจกรรมหลักดังกล่าว"
"โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชนนี้ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการจัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ครูผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่เยาวชนและคนในชุมชน ตามด้วยการพัฒนาการเรียนการสอนในห้องเรียน และขยายสู่การให้ความรู้แก่ชุมชน" ดร. คุณหญิงกษมา กล่าว
รองศาสตราจารย์ นรีวรรณ จินตกานนท์ เลขาธิการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า "โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชนมีจุดมุ่งหมายสนับสนุนให้ชุมชนพึ่งพาตนเองด้วยการจัดการศึกษาสำหรับชุมชน พร้อมทั้งกระตุ้นให้คนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมดำเนินโครงการ ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนในที่สุด"
นายพงส์ได้กล่าวเสริมถึงโครงการนี้ว่า "โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำนึกในพระมหา-กรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อเยาวชนไทยด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 48 พรรษา"
การก่อตั้งมูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทยนั้น มีนายพงส์ สารสินเป็นประธานมูลนิธิฯ โดยมร. ดัฟท์ กล่าวว่า "ผมเชื่อมั่นว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของคุณพงส์ สารสิน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสร้างประโยชน์แก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่องและจริงจังมาโดยตลอด จะส่งผลให้มูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทย ดำเนินการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน"
"การสร้างประโยชน์ในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชน ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของโคคา-โคลา ตลอดจนการดำเนินธุรกิจของเราในทุกประเทศ และเราโชคดีอย่างยิ่งที่พันธมิตรธุรกิจในไทยได้ให้ความสำคัญกับนโยบายดังกล่าวเช่นกัน" มร. ดัฟท์กล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
กรอบแก้ว ปันยารชุน สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ ศรีเบญจา เสมมีสุข
โคคา-โคลา อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2955 0777 ต่อ 476 โทร. 0 2252 9871
อีเมล์
[email protected] อีเมล์
[email protected]
[email protected]จบ--
-รก-