ISMED จับมือ ม.รังสิต และหน่วยงานในแวดวงธุรกิจสปา จัดโครงการปั้นหลักสูตรธุรกิจสปามืออาชีพครบวงจร

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ม.รังสิต ISMED จับมือ ม.รังสิต และหน่วยงานในแวดวงธุรกิจสปา จัดโครงการปั้นหลักสูตรธุรกิจสปามืออาชีพครบวงจร เสนอแนวทางพัฒนา 4 ระบบ ทั้ง ผู้ประกอบการ ผู้จัดการ ช่างเทคนิค และนักบำบัด เผยอเมริกา สิงคโปร์ สนใจร่วมลงทุนแล้ว ด้านสมาคมสปาไทย มั่นใจชี้ทิศทางขึ้นอันดับโลกตามรอยเท้า อาหาร ขอเวลา 1 ปี เร่งตั้งมาตรฐานในประเทศ ก่อนส่งผู้ประกอบการเจาะตลาดนอก นายธนันธน์ อภิวันทนาพร ที่ปรึกษาธุรกิจ ฝ่ายปรึกษาแนะนำ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทางสถาบัน ISMED มีบทบาทหลักคือการสร้างความแข็งแกร่งโดยการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ ตอบสนองนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพแห่งเอเชีย นั่นหมาย ความว่าจะต้องแข็งแกร่งทั้งองค์กร ดังนั้นทางสถาบัน ISMED จึงได้พัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต คณะแพทย์แผนตะวันออก จัดทำหลักสูตรปั้นธุรกิจสปามืออาชีพครบวงจรอย่างยั่งยืนขึ้น สำหรับการพัฒนาจะต้องมองในภาพ รวมของระบบธุรกิจ ไม่ได้เน้นแค่การสร้างผู้ประกอบการเท่านั้น เนื่องจากความสำเร็จของธุรกิจไม่ได้อยู่ที่ตัวเจ้าของกิจการเพียงอย่างเดียว ต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆ อย่างด้วย และหนึ่งในนั้นที่มีความสำคัญมากคือ บุคลากร นั่นคือการพัฒนายกระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำให้มีมาตรฐานเท่ากันโดยจะแบ่งเป็นการอบรมหลัก 4 ลักษณะ คือ หลักสูตรอบรม ผู้ประกอบการธุรกิจสปา, หลักสูตรอบรมผู้จัดการสปา, หลักสูตรอบรมช่างเทคนิควิเคราะห์ สุขภาพเบื้องต้น และหลักสูตรอบรมนักบำบัด เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจสปาไทยทั้งระบบสู่ตลาดโลก นายธนันธน์ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ จากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงด้านสปา มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้ารับการอบรม อาทิ สมาคมสปาไทย ดุลยาสปา รอยัลเฮลท์สปา โรงเรียนวิชาชีพชีวาศรม เซนต์คาลอสเมดิคัล สปา เทวรัญสปา และสถาบันการศึกษามาสอนทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งจะสอนให้ผู้ประกอบการเรียนรู้เรื่องพื้นฐานเบื้องต้น เรื่องการวางสเต็ปเชิงธุรกิจ การวางแนวคิด การมองความคุ้มค่าทางธุรกิจ การวางแผนรองรับ และการ เตรียมบุคลากรและผลิตภัณฑ์ต่างๆให้สอด คล้องกัน "คือเราทำแบบครบวงจร และพร้อมที่จะส่งคนไทยไปทำงานต่างประเทศด้วย และอีกส่วนหนึ่งคือ นักบำบัด มีสปาในต่างประเทศต้องการนักบำบัดมาก เช่น อเมริกา และตอนนี้กำลังคุยกับทางสิงค-โปร์อยู่ เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความ เครียดเยอะมาก เขา ต้องการมีสปาในประเทศ เพื่อรีแล็กซ์สัก 2-3 ชั่วโมง ไทยก็มีจุดแข็ง ในเรื่องการให้บริการ มารยาทที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และเรื่องโปรดักต์เราก็มีวัตถุดิบที่ดี เราจึงต้องยกไปทั้งสายพร้อมกับพัฒนาทั้งระบบด้วย" นายธนันธน์กล่าว ด้านนายไมเคิล ไลย์ อุปนายกสมาคม สปาไทย กล่าวว่า สปา คือธุรกิจวิชาชีพที่มีกำลังศักยภาพและได้รับการส่งเสริมอย่างมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เมืองไทยทำได้ดีที่สุดไม่แพ้เรื่องอาหารไทยในตลาดโลก และในระดับเอเชียถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่จัดทำโครงการอบรมสปาในลักษณะครบวงจร ที่สามารถต่อยอดแนวทางของธุรกิจสปาไทยสู่ระดับตลาดโลกได้ และด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศมีนโยบายเชิงรุกในการส่งเสริมธุรกิจสปา จึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องพัฒนาสปาไทยให้เหมือนอาหารไทย เชื่อว่าไม่นานสปาไทยจะติดอันดับโลก ซึ่งสเต็ปแรกต้องมุ่งสร้างผู้ประกอบการในประเทศให้แข็งแรงก่อน และคาดว่าไม่เกิน 1 ปีจะสามารถส่งบุคลากรที่มีความพร้อมเข้าไปทำงานในต่างประเทศได้ "นอกจากเราจะให้การสนับสนุนเรื่องนี้แล้ว ในส่วนบทบาทหน้าที่ทางสมาคมสปาไทยที่ ได้ร่วมกับทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกกฎมาตรฐานแยกธุรกิจสปาออกจากธุรกิจอาบ อบ นวด นั้น จะเสร็จสมบูรณ์ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ โดยจะกำหนดมาตรฐานของธุรกิจสปาให้มีทิศทางเดียวกันและชัดเจน พร้อมกับการได้รับการยกเว้นในเรื่องของภาษีด้วย" อุปนายกสมาคมสปาไทย กล่าว ทั้งนี้ได้แบ่งการอบรมออกเป็นหลักสูตร ดังนี้ 1. หลักสูตรอบรมผู้ประกอบการธุรกิจสปา (Spa Owner) อบรม 30 ชั่วโมง โดยจะได้รับการเรียนรู้ตั้งแต่การวางแนวคิดธุรกิจสปา (Spa Concept), การจัดเตรียมงบประมาณการลงทุน, การประเมินความคุ้มค่าการลงทุน การวางแผนจัดโครงสร้างองค์กร, การวิเคราะห์การตลาดและการขาย รวมไปถึงแนวทางการจัดทำแผนธุรกิจและการเงินเพื่อยื่นต่อสถาบันการเงินภายใต้การให้คำปรึกษาโดยสถาบันพัฒนา SMEs เป็นต้น คุณสมบัติ เป็นผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจสปา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 45,000 บาท แบ่งเป็นค่าอบรม อาหารและเอกสาร 5 วัน เป็นเงิน 30,000 บาท อีก 15,000 บาทเป็นค่าใช้จ่ายดูงานต่างประเทศ 3 วัน 2. หลักสูตรอบรมผู้จัดการสปา (Spa Manager) อบรม 72 ชั่วโมง จะได้เรียนรู้ และสามารถจัดระบบและบริหารงานสปาด้านต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ระบบการต้อน รับ, การให้บริการ, การวางแผนกิจกรรมใน สปา, การพัฒนาบุคลากร, การพัฒนาผลิต-ภัณฑ์, การตลาด, การขาย, ระบบบัญชี และการควบคุมค่าใช้จ่าย เป็นต้น คุณสมบัติ ต้อง มีวุฒิการศึกษาขึ้นต่ำระดับปริญญาตรี หรือผ่านงานด้านการบริหาร สำหรับค่าใช้จ่าย 12 วัน ประมาณ 30,000 บาท รวมอาหารและ เอกสาร 3. หลักสูตรอบรมช่างเทคนิควิเคราะห์สุขภาพเบื้องต้น (Guest Operation) อบรม 96 ชั่วโมง จะได้เรียนรู้เทคนิคการบริหารภาย ในสปา, การวิเคราะห์สุขภาพและความงามเบื้องต้น, ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ, การจัดโปรแกรมบริการและตารางนัดหมายลูกค้า, การให้คำปรึกษาแนะนำการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ, เทคนิคการขายและการให้บริการ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้น คุณสมบัติ ต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี หรือผ่านงานด้านบริการ สำหรับค่าใช้จ่ายประมาณ 13,000 บาท รวมค่าเอกสารประกอบการบรรยาย 4. หลักสูตรอบรมนักบำบัด (Therapist) แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ นักบำบัดปานกลาง (Therapist Intermediate) และนักบำบัดก้าวหน้า (Therapist Advance) สำหรับนักบำบัดรุ่นปานกลาง จะได้เรียนรู้หลักการทำงานระบบต่างๆ และโครงสร้าง ของร่างกาย การนวดแบบต่างๆ ทั้งนวดไทย อะโรมา สวีดีช นวดเท้า การเสริมสวยโปรแกรมความงามทั้งร่างกายและหน้า (Body and Facial Treatment) รวมทั้งสุขภาพอนามัยและบุคลิกภาพที่เหมาะสม เป็นต้น มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 บาท รวมค่า เอกสาร สำหรับหลักสูตรนักบำบัดก้าวหน้า จะเป็นระดับต่อยอดสามารถตรวจประเมินร่างกายเฉพาะที่, วิเคราะห์ ความผิดปกติของร่างกาย, ให้การรักษาได้อย่างปลอดภัย, เรียนรู้เทคนิค วิธีการขั้นตอน การนวดกดจุดรักษาโรคจากผู้เชี่ยวชาญ และธาราบำบัด เป็นต้น มีค่าใช้จ่ายในการอบรม 18,000 บาท รวมค่าเอกสาร--จบ-- -สส-

• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง
• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาด
• ข่าวสถาบันพัฒนาวิสาหกิจ
• ข่าวธนันธน์ อภิวันทนาพร