ตลท.ขอแก้ไขข้อความข่าว เรื่อง สิงห์ พาราเทค และอุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ เตรียมซื้อขายในตลท. ส่งท้ายปี 46 ในวันที่ 19 และ22 ธ.ค.นี้

23 Dec 2003

กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บมจ.สิงห์ พาราเทค (SINGHA) เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หมวดวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง พร้อมด้วยบมจ. อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) ในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 19 ธ.ค. และ 22 ธ.ค. นี้ ตามลำดับ หลังประสบความสำเร็จจากการขายหุ้นเพิ่มทุนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ของสองบริษัท ได้แก่ บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะนำหุ้นสามัญจำนวน 64 ล้านหุ้น (หุ้นสามัญเดิม 44 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวมทุนจดทะเบียน 320 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในหมวดวัสดุก่อสร้างและ ตกแต่ง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SINGHA"

สำหรับอีกบริษัทหนึ่งคือ หุ้นสามัญของบริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนรวม 400 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 80 ล้านหุ้น (หุ้นสามัญเดิม 60 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท จะเข้าจดทะเบียนในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเทคโนโลยี ในวันที่ 22 ธ.ค. 46 ใช้ชื่อย่อว่า "EIC"

"SINGHA และ EIC เป็นสองบริษัทสุดท้ายในจำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่ทั้งสิ้น 27 บริษัทสำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า บริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศได้เข้ามาระดมทุนผ่านตลาดทุนกันมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้มีสินค้าคุณภาพที่หลากหลาย สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น" นางสาวโสภาวดีกล่าว

สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลท.ครั้งนี้ บมจ. สิงห์ พาราเทค หรือ SINGHA ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 19.4 ล้านหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 21 บาท เมื่อวันที่ 9 และ 11-12 ธ.ค. 46 รวมทั้งเสนอขายหุ้นต่อกรรมการและพนักงานจำนวน 0.6 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 17 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปชำระคืนเงินกู้และขยายโรงงานและกำลังการผลิตเป็นส่วนใหญ่ และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

SINGHA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไม้พื้นสำเร็จรูป แบ่งเป็นไม้พื้นสำเร็จรูปประเภท 3 ชั้นและไม้พื้นสำเร็จรูปทั่วไป สำหรับปูพื้นเพื่อตกแต่งบ้านและอาคารภายใต้เครื่องหมายการค้า "SINGHA PARKET" โดยมีตลาดต่างประเทศเป็นกลุ่มลูกค้าหลักคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90 ของยอดขาย นอกจากนี้ บริษัทยังรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้เครื่อง หมายการค้าของลูกค้าด้วย สินค้าที่ถือเป็นจุดเด่นของกิจการคือ ไม้พื้นสำเร็จรูปประเภท 3 ชั้นลายสิงห์ ลายมีลักษณะเป็นลายเส้นเล็กๆ เกิดจากการนำเศษไม้หรือไม้ที่มีกระพี้ (เนื้อไม้ที่อยู่ระหว่างเปลือกกับแก่น) มาใช้ในการผลิต ซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิต 1 ใน 3 รายของโลกที่สามารถผลิตลายไม้นี้ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2548ณ 30 ก.ย. 46 SINGHA มีรายได้จากการขายและกำไรสุทธิเท่ากับ 334 และ 84 ล้านบาทตามลำดับ ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SINGHA คือ กลุ่มโบว์เสรีวงศ์ ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 59.88 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองตามกฎหมาย โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง

ด้านบมจ. อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ หรือ EIC เป็นผู้ผลิตและส่งออกอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำประเภทไดโอด (diodes) รายใหญ่ของประเทศภายใต้การบริหารงานของระบบควบคุมคุณภาพ ISO 9001 และ ISO 14001 โดยมีสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ 60 ของมูลค่าการจำหน่ายทั้งหมด อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำนี้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถูกนำไปใช้สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการออกแบบและผลิตไดโอดเฉพาะอย่างให้แก่หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ด้วย

EIC ได้ระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท ในระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค. 46 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อนำเงินที่ได้ไปขยายกำลังการผลิตและเพิ่มผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท

ณ 30 ก.ย. 46 EIC มีรายได้จากการขายและกำไรสุทธิเท่ากับ 297 และ 50 ล้านบาทตามลำดับ ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EIC คือ นายศราวุธ จินต์วุฒิ ประธานกรรมการ ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ภายหลังการเพิ่มทุน ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้นิติบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจกำหนดให้จ่ายน้อยกว่าอัตราที่กำหนดได้ หากมีความจำเป็นต้องนำเงินไปขยายการดำเนินงาน

ผู้สนใจข้อมูลของ บมจ. สิงห์ พาราเทค และอุตสาหกรรม อีเล็ค โทรนิคส์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th เว็บไซต์บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม ที่ www.settrade.com และสำหรับเว็บไซต์ของบมจ. อุตสาหกรรม อีเล็ค โทรนิคส์ คือ www.eicsemi.com

ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์ก8ร

ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659

กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--

-รก-