รองนายกเน้นตลาดไมซ์ เพิ่มเป้าหมายสร้างการใช้จ่ายในประเทศ

กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ททท. เช้าวันนี้(29 กรกฎาคม) ที่ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานเปิดงานไมซ์ มาร์ท 2546 โดยความร่วมมือระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สปน.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมการสนับสนุนจากสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง 15 สมาคม ได้แก่ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ สมาคมสนามกอล์ฟไทย สมาคมโรงแรมไทย กลุ่มสายการบินภายในประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สภาหอการค้าไทย และสภาหอการค้าต่างประเทศ ได้ร่วมกันกระตุ้นการซื้อขายสำหรับตลาดการประชุมสัมมนา การจัดนิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เพื่อขยายตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรภาครัฐ และเอกชนที่มีพนักงานจำนวนมาก ได้หันมาจัดกิจกรรมด้านการประชุม สัมมนาของพนักงานและจัดเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นสวัสดิการ หรือเป็นรางวัลตอบแทน ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมตลาดไมซ์ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีส่วนต่อการเพิ่มรายได้ และนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนวิทยาการ ความรู้ ในแต่ละสาขา โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณในอัตราส่วนเท่ากับการระดมทุนของภาคเอกชน จำนวน 12 ล้านบาทเป็นกองทุนส่งเสริมการประชุมนานาชาติ หรือ คอนเวนชั่น โปรโมชั่น ฟันด์(ซีพีเอฟ) เพื่อให้กู้ยืมไปใช้ในการจัดประชุมนานาชาติ และการเสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษในรูปองค์การมหาชน โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2545 ในชื่อว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สปน. เพื่อเป็นศูนย์กลางการดำเนินการในเรื่องของธุรกิจไมซ์ ด้านนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเสริมว่า กิจกรรมไมซ์ มาร์ท 2546 เป็น การส่งเสริมการขาย ที่เน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยต้องการที่จะเชิญชวนกลุ่มบริษัทที่จะจัดอินเซนทีฟ ให้เลือกเดินทางในประเทศแทนการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ นอกจากนี้การจัดประชุมของบริษัท การจัดงานแสดงสินค้า หรือนิทรรศการต่าง ๆ สามารถที่จะจัดขึ้นภายในประเทศ เนื่องจากปัจจัยความพร้อม ทั้ง ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ โรงแรมที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ทั้งในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาค รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ต่างมีศักยภาพที่จะรองรับธุรกิจไมซ์ได้อย่างดี จึงเป็นโอกาสที่ภาครัฐ ภาคเอกชนหลาย ๆ ฝ่ายจะได้ร่วมกันช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นรายได้ทดแทนในส่วนที่หายไปจากวิกฤติซาร์ส ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประกอบการจำนวนมาก ก็พร้อมใจที่จะมอบข้อเสนอพิเศษ หากตัดสินใจจัดกิจกรรมไมซ์ขึ้น ภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด โดยก่อนหน้านี้ ททท.ได้นำคณะนางสาวไทย ในนามทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เดินทางไปเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคเอกชนขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิธีการทำงาน เทคโนโลยีและการฝึกอบรม รวมทั้งการดูแลด้านสวัสดิการอย่างดีแก่พนักงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อเสนอพิเศษของผู้ประกอบการต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง สำหรับสถานการณ์ไมซ์ ของไทยในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 22 ของการจัดประชุม เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลี ส่วนกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมในระดับเมืองแห่งการจัดประชุม อยู่ในอันดับที่ 13 ด้านสถิติผู้ที่เดินทางเข้ามาประชุม สัมมนานิทรรศการและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล มีจำนวน 412,919 คนเพิ่มขึ้น 23.12% คิดเป็นสัดส่วน 4.37% ของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั้งหมด มีรายได้เพิ่มขึ้น 24.05% หรือ 32,110 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน 10.48 %ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. โทร 0-2250-5500 ต่อ 1555-1562 โทรสาร 0-2250-5681--จบ-- -พห-

• ข่าวสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
• ข่าวสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
• ข่าวสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ
• ข่าวสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย
• ข่าวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย