ปตท.- รฟท. เพิ่มศักยภาพสนองความต้องการของผู้บริโภค

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--บมจ.ปตท. ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บมจ.ปตท. ได้มีพีธีลงนาม บันทึกความร่วมมือการขนส่งทางรถไฟหรือบริการอื่นที่เป็นประโยชน์ ระหว่าง นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันปรับปรุงและเพิ่มปริมาณการขนส่งผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงของ ปตท. ทางรถไฟให้มีประสิทธิภาพและรองรับความต้องการได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดสร้างสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ รฟท. นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและนำรายได้เข้าสู่สมาคมสโมสรรถไฟ เพื่อเป็นสวัสดิการให้พนักงาน รฟท. ใช้ประโยชน์ในกรณีต่างๆ ต่อไป นายจิตต์สันติ เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมา รฟท. ได้ให้บริการด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้มของ ปตท. มาตั้งแต่สมัย ปตท. ใช้ชื่อว่า องค์การเชื้อเพลิง จนถึงขณะนี้ปริมาณความต้องการใช้เชื้อเพลิงของผู้บริโภคมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น รฟท. จึงพิจารณาปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการขนส่งทางรถไฟให้สามารถรองรับความต้องการขนส่งของ ปตท. โดยการเพิ่มขบวนรถไฟขนส่งเชื้อเพลิงไปยังคลังปิโตรเลียม ปตท. ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสายเหนือและสายอีสาน นอกจากนี้ รฟท. ยังเล็งเห็นการใช้ประโยชน์จากที่ดินเปล่าของ รฟท. ซึ่งสามารถช่วยสร้างรายได้เสริมอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ให้แก่หน่วยงานเพิ่มขึ้น ด้วยการมอบสิทธิให้แก่ ปตท. ทั้งในเขตกรุงเทพฯและภูมิภาคให้ ปตท. จัดสร้างสถานีบริการน้ำมันเพื่อสวัสดิการพนักงานการรถไฟฯ (ในเบื้องต้นจำนวน 13 แห่ง) โดย พนักงานของ รฟท. จะได้รับส่วนลดพิเศษในการซื้อผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง อีกทั้งจะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายเชื้อเพลิงของ ปตท. ให้กับ สมาคมสโมสรฯ รถไฟ เพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงานของ รฟท. ต่อไป ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของ ปตท. มี 4 ช่องทาง ได้แก่ ทางท่อ ทางรถยนต์ ทางเรือ และทางรถไฟ โดย ปตท. มีนโยบายใช้การขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซแอลพีจีทางรถไฟเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถขนส่งได้สะดวก ในปริมาณมาก มีความปลอดภัย และประหยัด อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจรที่อาจเกิดขึ้นจากการขนส่งได้อีกด้วย ปัจจุบัน ปตท. มีการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางรถไฟทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้มประมาณ 30 ล้านลิตร/เดือน และ 25,000 ตัน/เดือน ตามลำดับ และจากความร่วมมือของ รฟท. ในการเพิ่มขบวนรถไฟขนส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวฯ จะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณขนส่งได้เป็น 50 ล้านลิตร/เดือน และ 29,000 ตัน/เดือน ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างสะดวกและทั่วถึง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท. กล่าวในตอนท้ายว่า ปตท. พร้อมมอบบริการและผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงที่มีคุณภาพแก่พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ และยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ ฝ่ายต่อไป--จบ-- -สส-

• ข่าวนายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร
• ข่าวอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร
• ข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย
• ข่าวจิตต์สันติ ธนะโสภณ
• ข่าวสถานีบริการน้ำมัน