กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--เซเรบอส (ประเทศไทย)
รองนายกฯ ศ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ชี้แนวทางการดูแลเด็กเล็กแก่คุณครูอนุบาลในงานสัมมนา "ครูอนุบาลกับการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์" ซึ่งจัดโดย บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด หวังครูอนุบาลใช้อิทธิบาท 4 เป็นหลักในการสอน และดูแลเด็กไทยให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ซุปไก่สกัด ได้จัดงานสัมมนาและปาฐกถา ในหัวข้อ "ครูอนุบาลกับการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์" เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการสอนให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ แก่คุณครูอนุบาลจากทั่วประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯรองนายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์) ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ มาเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านเด็กปฐมวัย ศ.ศรียา นิยมธรรม รศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง และ อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช โดยมีคุณครูอนุบาลจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานสัมมนาอย่างคับคั่งกว่า 600 คน ณ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์)ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ กล่าวว่า เด็กและเยาวชนนับเป็นทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่าของประเทศชาติ โดยเฉพาะเด็กเล็กเป็นวัยที่มีความสำคัญมาก เพราะเด็กเล็กเป็นวัยที่เริ่มต้นสร้างร่างกาย สร้างจิตใจ และสมอง ดังนั้นการเลี้ยงดูเด็กเล็กให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจจึงมีความจำเป็นมาก โดยในเรื่องของร่างกาย การบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ และการออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ การเริ่มต้นดูแลสุขภาพที่ถูกทางตั้งแต่ต้น ร่างกายก็จะเติบโตได้เต็มที่ โดยเฉพาะกระดูก ซึ่งแคลเซียมจะได้รับการสะสมมากที่สุดในวัยเด็ก
เรื่องของจิตใจ เด็กเล็กๆสมองเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ซึมซับสิ่งต่างๆได้มากมาย ถ้าเราสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประโยชน์แก่เด็ก ฝึกให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน จะช่วยปลูกฝังให้เกิดการค้นคว้า การพัฒนาสมอง เพราะเด็กจะฉลาดได้หากสมองได้รับการกระตุ้นด้วยการสัมผัส การเห็น การอ่าน การฟัง การแสดงความคิดเห็น การใช้ทักษะ ยิ่งกระตุ้นมากเท่าใดสมองยิ่งมีการพัฒนา โดยผู้ใหญ่จะต้องให้การสนับสนุนอย่าเบื่อที่จะตอบคำถาม
รองนายกฯกล่าวอีกว่า ครูอนุบาลนับเป็นผู้มีบทบาทที่สองรองจากพ่อแม่ ครูมีความสำคัญต่อเด็กในปฐมวัยเพราะเป็นผู้ดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด ครูอนุบาลที่จะประสบความสำเร็จในการดูแลเด็ก ควรยึดคาถาคือ อิทธิบาท 4 ในพุทธศาสนาเป็นหลัก และนำประยุกต์ใช้ในการดูแล สั่งสอนเด็ก ซึ่งประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา การเป็นครูอนุบาลต้องมีฉันทะ คือมีความรักในโรงเรียนที่สอน รักเด็ก รักในวิชาชีพครู แม้งานหนักก็เหมือนงานอดิเรก ไม่เป็นปัญหา ไม่เป็นภาระ แต่สนุก เมื่อรักในอาชีพครูแล้ว ก็จะมีวิริยะ ความเพียร เกิดความพยายาม มีการพัฒนาการสอน ไม่เบื่อที่จะตอบคำถามของเด็ก เมื่อมีความพยายามแล้วก็จะเกิดจิตตะ คือสมาธิ ทำให้เกิดปัญญา ความสำเร็จจึงอยู่แค่เอื้อม ประการสุดท้าย วิมังสา คือการทบทวน ประมวลผล อะไรที่ดีทำแล้ว ประสบความสำเร็จ ทำต่อ อะไรมีปัญหา อุปสรรคก็แก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ครูอนุบาลต้องรับภาระค่อนข้างหนักในการดูแลเด็กแทนคุณพ่อคุณแม่
"หวังให้คุณครุอนุบาลใช้ความคิดสร้างสรรค์ ปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหา เพื่อเสริมสร้างเด็กไทย ให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าในวันหน้า" รองนายกฯกล่าวในที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2332-6060 ต่อ 1125 และ 1135--จบ--
-รก-