กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
โรลส์รอยซ์ ผู้นำเทคโนโลยีการบินและพลังงานจากอังกฤษ ประกาศผลประกอบการประจำปี 2545 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 ผลกำไรตรงตามเป้าที่วางไว้ โดยกวาดรายได้จากบริการหลังการขายถึง 2.5 พันล้านปอนด์ คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นตของรายได้ทั้งหมดของบริษัท มั่นใจดำเนินกลยุทธ์มาถูกทาง พร้อมเตรียมมาตรการรับมือความไม่นอนทุกรูปแบบ
ผลประกอบการประจำปี 2545 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 เป็นไปตามที่บริษัทคาดไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2544 ซึ่งสะท้อนถึงธรรมชาติที่สมดุลย์ของธุรกิจและการดำเนินมาตรการที่ฉับไวเพื่อบรรเทาภาวะถดถอยของตลาดการบินพลเรือน บริษัทมีกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 255 ล้านปอนด์ ลดลง 46 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากตลาดการบิน พลเรือนที่ซบเซา
โรลส์รอยซ์มีรายได้จากบริการหลังการขายในปี 2545 อยู่ที่ 2.5 พันล้านปอนด์ เพิ่มจาก 2.4 พันล้านปอนด์ในปี 2544 ซึ่งคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของยอดรายได้รวม และเป็นไปตามการคาดการณ์ของโรลส์รอยซ์ ทั้งนี้ยอดขายจากบริการหลังการขายและธุรกิจร่วมทุนมีมูลค่าถึง 3 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังมียอดสั่งซื้อสูงถึง 8.7 พันล้านปอนด์ และยอดสั่งจอง 16.2 พันล้านปอนด์ เพิ่มจาก 14.4 พันล้านปอนด์ในปี 2544 และมียอดสั่งจองที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอีกมูลค่า 900 ล้านปอนด์ ทั้งนี้โรลส์รอยซ์มีรายได้จากบริการหลังการขายคิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์ของยอดสั่งซื้อ ซึ่งรวมรายได้จากสัญญาบริการระยะยาวคิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์
โรลส์รอยซ์มีหนี้สินสุทธิ 595 ล้านปอนด์ ซึ่งเกิดจากกระแสเงินไหลออกมูลค่า 94 ล้านปอนด์ หลังจากบริษัทใช้งบประมาณ 167 ล้านปอนด์เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร และเช่าซื้อเครื่องบิน 6 ลำมูลค่า 133 ล้านปอนด์ ปัจจุบันโรลส์รอยซ์มีหนี้สินสุทธิโดยเฉลี่ย 1,090 ล้านปอนด์ เพิ่มจากยอดหนี้สินสุทธิ 990 ล้านปอนด์ในปี 2544
เซอร์ จอห์น โรส ประธานบริษัท โรลส์รอยซ์ กล่าวว่า “ในภาวะตลาดที่ท้าทาย โรลส์รอยซ์สามารถสร้างผลกำไรและมีกระแสเงินสะพัดตามแนวทางที่วางไว้เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2544 ด้วยการสนับสนุนของพนักงานทำให้เราประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างองค์กรและมีผลประกอบการแข็งแกร่ง ตลอดจนมีการพัฒนาการจัดการ เงินทุนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ผลประกอบการ ยอดการสั่งซื้อของปี 2545 และรายได้จากบริการหลังการขายที่เติบโตขึ้นเป็นสิ่งยืนยันว่ารูปแบบธุรกิจผนวกกับความสามารถของโรลส์รอยซ์สามารถจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและสร้างผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นได้
เรากำลังหารือกับพนักงานเพื่อจำกัดผลกระทบทางการเงินอันเนื่องมาจากภาวะขาดแคลนของกองทุนเงินสำรองเลี้ยงชีพในปัจจุบันตามแนวทางที่ได้วางไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ภาวะความไม่แน่นอนอันเกิดจากสถานการณ์อิรัก ทำให้โรลส์รอยซ์ต้องย้ำถึงเกณฑ์การเติบโตของกำไรในปี 2546 และกระแสเงินสะพัดที่ดีด้วย”
รูปแบบธุรกิจ
โรลส์รอยซ์มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะซึ่งนำไปใช้ประโยชน์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพโดดเด่นสำหรับธุรกิจหลักทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ การบินพาณิชย์ การบินทหาร การเดินเรือ และการ พลังงาน ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของโรลส์รอยซ์เป็นการลดอัตราพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งและช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะถดถอยของตลาดการบินพลเรือนในปัจจุบัน
ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เหล่านี้วัดได้จากส่วนแบ่งการตลาดของโรลส์รอยซ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันโรลส์รอยซ์มีเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบน์ให้บริการอยู่กว่า 54,000 เครื่องทั่วโลก ทั้งนี้การลงทุนด้านผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้โรลส์รอยซ์สามารถคงตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องยนต์เหนือคู่แข่งรายอื่น
เครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์ที่ใช้ประจำการอยู่ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปีหรือมากกว่านั้น ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการบริการหลังการขายที่แน่นอนทั้งในส่วนของการจัดหาอะไหล่สำรองและบริการอื่นๆ ทั้งนี้จำนวนเครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงรายได้ต่อปีของบริษัทและทำให้เห็นแนวทางธุรกิจของโรลส์รอยซ์ในอนาคตด้วย
ปัจจุบันโรลส์รอยซ์เป็นองค์กรธุรกิจระดับโลก โดย 52 เปอร์เซ็นต์ของการทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร มียอดการซื้อในประเทศต่างๆทั่วโลกคิดเป็น 63 เปอร์เซ็นต์ของยอดการซื้อทั้งหมดของโรลส์รอยซ์ พนักงานจำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ของโรลส์รอยซ์มาจาก 40 เชื้อชาติประจำการอยู่ใน 48 ประเทศทั่วโลก
ผลประกอบการที่ดีขึ้น
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2544 มีการปรับขนาดธุรกิจเพื่อสร้างสมดุลย์ระหว่างปริมาณงานและประสิทธิภาพในการผลิต นอกจากการเปลี่ยนแปลงหลักในส่วนของปริมาณงาน การผสมผสาน และการปรับตารางเวลาที่เกิดขึ้น ภายหลังแล้ว ยังมีการพัฒนาในส่วนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด อาทิ การจัดส่งผลิตภัณฑ์ ระยะเวลาการผลิต การจัดการ ต้นทุนการผลิต และต้นทุนการบริหาร ทั้งนี้ความสำเร็จในการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการผลิตและโลจิสติกส์เมื่อ ปี 2544 ทำให้โรลส์รอยซ์มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อจัดการการเปลี่ยนแปลงตามต้องการการปรับปรุงกระบวนการต่างๆทำให้รายการการผลิตส่วนประกอบเครื่องยนต์ขั้นต้นลดลง 19 เปอร์เซ็นต์ และมีระยะเวลาการผลิตเฉลี่ยลดลงด้วย นอกจากนี้ในปี 2545 บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สามารถลดสัดส่วนการขายจาก 10.5 เปอร์เซ็นต์เหลือ 6.8 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ได้เริ่มปรับโครงสร้างซัพพลายเชนขั้นแรกและโครงการนำร่องดังกล่าวสำเร็จลุล่วงด้วยดี ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าบริษัทจะสามารถลดรายการ สินค้าได้อีกในอนาคต
โรลส์รอยซ์ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างตามที่ประกาศไว้เมื่อปี 2544 นอกจากนี้ในปี 2545 บริษัทสามารถลดพนักงานได้ถึง 4,900 คน และเตรียมปลดพนักงานอีก 900 คนในต้นปีนี้ โดยมาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างองค์กร โรลส์รอยซ์คาดว่าโครงการนี้จะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนประจำปีได้ถึง 250 ล้านปอนด์ ทั้งนี้บริษัทจะปรับลดพนักงานให้เหลือประมาณ 35,000 คนภายในสิ้นปีนี้ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างเพิ่มอีกประมาณ 50 ล้านปอนด์ในปีนี้ อย่างไรก็ตามแม้อยู่ในภาวะยากลำบาก พนักงานของโรลส์รอยซ์ทุกคนยังคงทำงานเป็นทีมอย่างแข็งแกร่ง รับผิดชอบต่อหน้าที่ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ
กลยุทธ์และฐานะผู้นำตลาดของโรลส์รอยซ์ทำให้บริษัทสามารถจัดการกับความไม่แน่นอนระยะสั้นและคงอัตราการเติบโตระยะยาวพร้อมสร้างกำไรแก่ผู้ถือหุ้นได้ ทั้งนี้ในช่วงทศวรรษหน้า โรลส์รอยซ์จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการลงทุน โดยจะยังคงเน้นการใช้จ่ายด้านการจัดหาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและการปรับปรุงบริการภายในองค์กร (in-service improvement) อย่างไรก็ตาม โรลส์รอยซ์จะชะลอการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านการบินพลเรือนที่มีการพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่ๆน้อยลง โรลส์รอยซ์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพ โดยเน้นเรื่องการลดค่าใช้จ่ายต่อหน่วย การพัฒนาการประยุกต์ผลิตภัณฑ์ (development of derivatives) การปรับปรุงการบริหารภายใน และการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อขยายขอบเขตและคุณภาพของงานบริการของโรลส์รอยซ์
โรลส์รอยซ์เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินดี โดยเมื่อสิ้นปี 2544 บริษัทมีอัตราส่วนระหว่างเงินกู้และหุ้นทุนของบริษัทอยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดให้ยืมสินทรัพย์ตามสัญญามูลค่า 2.6 พันล้านปอนด์ อันเกิดจากความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 1 พันล้านปอนด์ในปี 2545 ทั้งนี้หลังจากการคืนสินทรัพย์ตามสัญญาที่ครบกำหนดซึ่งคาดว่าจะไม่มีการต่อสัญญาอีก โรลส์รอยซ์จะมียอดให้ยืมสินทรัพย์เหลือเพียง 2.5 พันล้านปอนด์ในปี 2546 และลดลงเหลือ 1.9 พันล้านปอนด์เมื่อสิ้นปี 2547
โรลส์รอยซ์มียอดหนี้สินสุทธิสูงสุด 1,390 ล้านปอนด์เมื่อปี 2545 ทั้งนี้นโยบายป้องกันการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของโรลส์รอยซ์สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจุบันบริษัทถือครองดอลล่าร์ที่มีมูลค่าครอบคลุมรายได้สุทธิ 5 ปีของบริษัทซึ่งคิดเป็นเงินดอลล่าร์ โรลส์รอยซ์มีระบบจัดการความเสี่ยงที่มั่นคง และมีมาตรการที่รัดกุมสำหรับส่วนเงินสำรองและค่าใช้จ่ายของบริษัท
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2544 มีปัจจัยสองประการที่เพิ่มอิทธิพลต่อการคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคตของโรลส์รอยซ์ ปัจจัยแรกคือ ภาวะความไม่แน่นอนซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานการณ์อิรัก และปัจจัยที่สองคือ ผลกระทบจากตลาดเงินที่ตกต่ำและการคาดการณ์ทางสถิติการประกันภัยเรื่องความต้องการเงินทุนสำหรับกองทุนบำนาญของบริษัท ทั้งนี้โรลส์รอยซ์ได้ดำเนินกลยุทธ์ต่างๆอย่างมีเหตุผลเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้
ในปี 2546 โรลส์รอยซ์ให้ความสำคัญกับการจัดการความไม่แน่นอน โดยอาศัยกลยุทธ์ทรงประสิทธิภาพที่บริษัทใช้จัดการกับวิกฤติการณ์ 11 กันยายน 2544 พร้อมดำเนินมาตรการต่างๆอย่างมีเหตุผล โดยเน้นเรื่องคุณภาพ การลดต้นทุนต่อหน่วย และการปรับโครงสร้างซัพพลายเชน
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2544 หลังจากมีการผ่อนผันการชำระภาษี ยอดขาด FRS 17 ในกองทุนบำนาญของโรลส์รอยซ์ สหราชอาณาจักร มีมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้จะเริ่มพิจารณาเรื่องการประกันภัยเกี่ยวกับกองทุนหลักอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมนี้ และจะเสร็จสิ้นการดำเนินการภายในปลายปีนี้ โครงการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพนักงานใหม่ที่เข้าร่วมงานกับบริษัทเมื่อเดือนมกราคม 2542 โรลส์รอยซ์ต้องการมอบผลประโยชน์ที่ชัดเจนแก่พนักงาน จึงได้ปรึกษาหารือกับพนักงานเกี่ยวกับวิธีการจัดหาเบี้ยบำนาญ เพื่อเพิ่มมูลค่ากองทุนตามแนวทางที่วางไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2545
ผู้สนใจรายละเอียดการดำเนินงานของโรลส์รอยซ์ สามารถชมวิดีโอสัมภาษณ์เซอร์ จอห์น โรส ประธานบริษัทโรลส์รอยซ์ และอ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่เว็บไซต์ www.Rolls-Royce.com และ www.cantos.com และสามารถดาวน์โหลดภาพผู้บริหารของโรลส์รอยซ์และผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ www.newscast.co.uk-- จบ--
-ศน-