มิตซูบิชิร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยจัดโครงการปกป้องช้างป่าสนองพระราชดำริ

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--Visage บริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด ประกาศจัดตั้งกองทุน "มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อช้างไทย" สนับสนุนโครงการ "ป่ายัง ช้างอยู่ คู่คน" ซึ่งดำเนินงานโดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า สนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ การจัดตั้งกองทุนครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายธุรกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลก ในอันที่จะผลิตรถยนต์ด้วยระบบและกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นายโตชิยูกิ ยามะนิชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนนี้เกิดขึ้นได้เพราะบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสัตว์ป่าที่เผชิญวิกฤตใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก เพราะกระทบทั้งระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ "เมื่อสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยมีโครงการจะช่วยเหลือช้างป่าในประเทศไทย เราจึงยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ความสนับสนุน เพราะถือเป็นภารกิจของเราต่อสังคมที่ต้องช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับที่เรามุ่งมั่นจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม" นายยามะนิชิ กล่าว "ป่ายัง ช้างอยู่ คู่คน" เป็นโครงการที่เกิดขึ้นสนองพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่ากับชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ใน 7 หมู่บ้าน รอบเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้แก่ หมู่บ้านเขาแหลม ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าแดง เฉลิมพรพัฒนา ห้วยผึ้ง และหมู่บ้านโป่งสำโหรง ดร. ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่ากับชาวบ้าน เริ่มปรากฏตั้งแต่ปี 2535 เมื่อช้างเริ่มบุกรุกเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชายป่า และถูกทำร้ายจนถึงชีวิต แม้ว่าขณะนี้ชาวบ้านจะเริ่มเข้าใจและพยายามหาวิธีขับไล่ช้างอย่างละมุนละม่อมขึ้น แต่สถานการณ์แล้งของปีนี้ ยิ่งทวีความรุนแรงกว่าที่ผ่านมา การแย่งชิงแหล่งน้ำระหว่างชาวบ้านกับช้าง และการที่ช้างรุกเข้ามาหาอาหารในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ทำให้การเผชิญหน้ายังดำเนินอยู่ต่อไป ปัญหานี้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง อาจนำไปสู่ความรุนแรงถึงชีวิตทั้งคนและช้างได้ "โครงการนี้จึงเกิดขึ้นมาด้วยความร่วมมือขององค์กรที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เพื่อจะช่วยสร้างแหล่งน้ำและอาหารให้ช้าง พร้อมกับพยายามเปลี่ยนอาชีพที่เหมาะสมให้กับคนในพื้นที่ เพื่อลดการกระทบกระทั่งระหว่างกัน คนอยู่ได้ ช้างอยู่รอด" ดร.ธงชัย กล่าวและว่า โครงการนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ระยะแรกจะสร้างแหล่งน้ำและอาหารในป่าลึกให้ช้าง เช่น การทำฝาย โป่งเทียม และปลูกพืชอาหารให้ช้าง การนำช้างบ้านมาเป็นกันชนช้างป่าภายใต้แนวคิดทดลองว่า ช้างบ้านจะช่วยปรับพฤติกรรมช้างป่าได้ แผนงานระยะกลาง จะส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมให้กับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง เช่น การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ ฯลฯ นอกจากนั้นจะมีสร้างสะพานช้างเชื่อมป่าฝั่งตะวันออกและตะวันตกของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยการปลูกต้นไม้เชื่อมทางเดินของช้าง เพื่อขยายพื้นที่หากินตามธรรมชาติ พร้อมกับทำการศึกษาวิจัยระบบนิเวศและพฤติกรรมช้างป่า เพื่อสร้างปราการป้องกันธรรมชาติระหว่างคนกับช้าง นายยามะนิชิ กล่าวด้วยว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จะเน้นนโยบายการผลิตรถยนต์อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การนำกลับมาใช้ใหม่ การร่วมแก้ไขปัญหาปฏิกริยาเรือนกระจก และการป้องกันมลพิษ "แผนสิ่งแวดล้อมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีเป้าหมายและระยะเวลาเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น เราจะทำธุรกิจกับผู้ประกอบชิ้นส่วนที่ได้รับ ISO 14001 ด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ภายในปี 2004 เป็นต้นไป" นายเดวิด ดับลิว โฮวาร์ด กรรมการรองผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อช้างไทย จะสนับสนุนโครงการนี้ โดยมอบเงินสมทบทุนสำหรับการดำเนินงานในระยะแรกเป็นเงิน 2 ล้านบาท และรถยนต์มิตซูบิชิ สตราดา จี-แวกอน 1 คัน มูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ "เราหวังว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มของการพัฒนาเครือข่ายการคุ้มครองช้างป่า เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบในปีหน้า" นายโฮวาร์ด กล่าว--จบ-- -นห-

• ข่าวสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
• ข่าวมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
• ข่าวเอ็มเอ็มซี สิทธิผล
• ข่าวสถาบันสิ่งแวดล้อม
• ข่าวมิตซูบิชิ มอเตอร์