กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต
สิงค์โปร์-บริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต จำกัด (NASDAQ: PCNTF) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ที่ไม่มีความเกี่ยว
ข้องกับการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน) รายใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ด้วยการมีสำนักงานให้บริการครอบคลุมถึง 7 ประเทศ
ด้วยกันคือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อินเดีย ประเทศไทย และมาเลเซีย ได้ทำการได้แถลงถึงผลประกอบการประจำ
ไตรมาสที่ 4 และผลประกอบการประจำปี 2545 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 ดังนี้
สรุปผลประกอบการประจำปี 2545
- รายได้เติบโตขึ้นถึง 90.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2544 ถึงร้อยละ 11.3
- กำไรสุทธิที่ 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.13 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง
10.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเปรียบเทียบปี 2544 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น -0.67 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น
- ปริมาณเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านเหรียญจากปี 2544
สรุปผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2545
- รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกัน
ของ ปี 2544
- กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็น 0.04 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1.3 ล้าน
เหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2544 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 0.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ -0.06 เหรียญสหรัฐ
ต่อหุ้น
- ปริมาณเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อไตรมาสที่
ผ่านมา
มิสเตอร์ คู เค็ง หวา ประธาน บริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต จำกัด กล่าวว่า "ผลจากการที่เราสามารถทำกำไรได้ติดต่อ
กันตลอดทั้ง 4 ไตรมาส ส่งผลให้การดำเนินงานประจำปี 2545 เป็นบวก เราสามารถทำกำไรได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้เมื่อตอนต้นปี
2545 ที่ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากเราจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้บริษัทมีผลกำไรแล้ว เรายังปรับปรุง
บริษัทเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตอีกด้วย และเพื่อให้เราก้าวไปอย่างแข็งแกร่ง เราได้วางกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ผลกำไร และ
บรรลุวัตถุประสงค์ของเราในการเจาะเข้าไปยังตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงตลาดใหม่ๆ ในเอเชีย ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง
ด้วยการให้ความสำคัญกับบริการประเภทบรอดแบนด์ ลูกค้าองค์กร ตลอดจน บริการเสริมชนิดต่างๆ"
ผลการประกอบการประจำไตรมาสที่ 4
ตารางที่ 1 : สรุปผลการดำเนินงานประจำไตรมาส
ผลประกอบการของทั้งกลุ่ม (ล้านเหรียญสหรัฐ) ไตรมาส 4 2545 ไตรมาส 3 2545 ไตรมาส 4 2544
รายได้ 23.0 22.3 21.9
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน 21.7 21.3 23.0
ผลกำไรจากการดำเนินงาน (ขาดทุน) 1.4 1.0 (1.1)
กำไรสุทธิ (ขาดทุน) 0.5 0.3 (0.8)
ตารางที่ 2 : สรุปผลการดำเนินงานตลอดปี 2545
ผลประกอบการของทั้งกลุ่ม (ล้านเหรียญสหรัฐ) 2545 2544
รายได้ 90.5 81.3
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน 85.9 89.0
ผลกำไรจากการดำเนินงาน (ขาดทุน) 4.6 (7.7)
กำไรสุทธิ (ขาดทุน) 1.7 (8.6)
การเพิ่มของรายได้
ในไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ มีรายได้ทั้งสิ้น 23 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ส่วนรายได้ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 หรือคิดเป็น 90.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 81.3 ล้านเหรียญสหรัฐของปีที่ผ่านมา
รายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจาก บริการประเภทบรอดแบนด์ที่เติบโตขึ้นอย่างมากในสิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย ตลอด
จนจำนวนฐานลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้น
รายได้จากบรอดแบนด์เพิ่มขึ้น 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79.7 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส
เดียวกับปีก่อน และร้อยละ 14.5 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยทั่วไปแล้วรายได้จากบริการประเภท Dial-up
และบริการประเภท Leased Line มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ใช้บริการประเภทดังกล่าวหันมาใช้บริการประเภทบรอดแบรนด์กัน
มากขึ้น แต่เนื่องจากจำนวนลูกค้าประเภทองค์กรในสิงค์โปร์ และมาเลเซีย ทำให้รายได้ในส่วนของบริการประเภท Leased Line
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.7 จากไตรมาสก่อน
การเพิ่มของกำไรสุทธิ
ถึงแม้ว่า ธุรกิจจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต ยังคงสามารถทำผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องในทุกไตร
มาสของปี 2545 โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2545 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 0.04 เหรียญสหรัฐต่อ
หุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2544 ส่วนตลอดทั้งปี มีกำไรสุทธิ
ทั้งสิ้น 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดสุทธิที่ 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐของปีที่ผ่านมา ซึ่งการพัฒนาการดังกล่าว
เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่าย และผลงานที่ดีขึ้นของบริษัทในเครืออย่างประเทศอินเดีย และประเทศ
ไทย ซึ่งสามารถลดการขาดทุนลงได้มากกว่าครึ่งในปี 2545
การเพิ่มของเงินสด
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2545 มีเงินสดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในจำนวนนี้ 2.4
ล้านเหรียญสหรัฐถูกใช้ไปกับค่าใช้จ่ายในการลงทุนและชำระคืนเงินกู้ที่ยืมมา ทำให้เหลือเงินสดสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว
จำนวนทั้งสิ้น 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับตลอดปี 2545 เงินสดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานมีทั้งสิ้น 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในจำนวนนี้ 6.6 ล้านเหรียญ
สหรัฐถูกใช้ไปเพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการลงทุน และชำระคืนเงินกู้ที่ยืมมา ส่งผลให้เงินสดสุทธิมีจำนวน 6.4 ล้าน
เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 มียอดเงินสดที่คงเหลืออยู่ที่ 20.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลการประกอบการธุรกิจ
จำนวนฐานของลูกค้า
ตารางที่ 3 : จำนวนสถิติสมาชิกแยกตามประเภทบริการ
ประเทศ Dial-up Leased Line Broadband Hosting รวม
สิงค์โปร์ 161,100 700 23,400 500 185,700
ฮ่องกง 82,700 300 9,300 800 93,100
ฟิลิปปินส์ 63,000 100 100 - 63,200
ออสเตรเลีย 37,800 100 4,200 9,500 51,600
อินเดีย ประเทศไทย มาเลเซีย 14,600 200 100 100 15,000
รวม (สิ้นสุด ณ 31 ธ.ค. 2545) 359,200 1,400 37,100 10,900 408,600
รวม (สิ้นสุด ณ 31 ก.ย. 2545) 368,600 1,200 31,100 9,600 410,500
รวม (สิ้นสุด ณ 31 ธ.ค. 2544) 368,500 1,400 17,000 6,700 393,600
ตัวเลขที่ลงท้ายด้วยเลขศูนย์ส่วนใหญ่จะประมาณที่ 100
บริการบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บรอดแบนด์ยังคงเป็นบริการที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 132.3 ในปี 2545 ซึ่ง
นับเป็นรายได้ที่มากเป็นอันดับสองรองจากรายได้จากประเภท Dial-up โดยคิดเป็นร้อยละ 26.5 ของรายได้รวมทั้งหมด จำนวน
ผู้ใช้บริการบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงร้อยละ 118.2 จากปี 2543 โดยเติบโตมากที่สุดในประเทศ สิงคโปร์ ฮ่องกง
และออสเตรเลีย นอกจากทั้งสามประเทศดังกล่าวแล้ว
แปซิฟิค อินเทอร์เน็ตยังได้แนะนำบริการประเภทบรอดแบนด์สู่อีกสองตลาดในปี 2545 ได้แก่ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
ให้ความสำคัญกับตลาดองค์กร
รายได้ของลูกค้าประเภทองค์กรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 หรือ 52.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 58 ของยอดรายได้
รวมเมื่อเปรียบเทียบกับร้อยละ 55.9 ในปี 2544 ซึ่งบริการหลักๆ ที่สร้างรายได้ให้มากได้แก่ ลูกค้าประเภทบรอดแบนด์องค์กร
จากประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของธุรกิจขององค์กรในระดับภูมิภาค (Regional Corporate
Business) การเน้นไปที่ตลาดลูกค้าองค์กรในระดับภูมิภาคมีส่วนทำให้รายได้เพิ่มขึ้นและเติบโตขึ้นไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
แปซิฟิค อินเทอร์เน็ตเปิดสำนักงานใหม่ในประเทศมาเลเซียในปี 2545 ซึ่งเป็นการเพิ่มขอบเขตการให้บริการของบริษัทให้กว้างขึ้น
เพื่อที่จะรองรับและให้บริการลูกค้าในระดับภูมิภาคได้ดีขึ้น ซึ่งความพยายามดังกล่าวส่งผลให้มีลูกค้าองค์กรในระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น
อีกหลายราย เช่น บริษัท Eagle Global Logistics และบริษัท Rohm & Haas
ประธานและ CEO มิสเตอร์ ตัน ตง ไห่ กล่าวว่า "การที่รายได้ในสัดส่วนของลูกค้าองค์กรสามารถสร้างรายได้
มากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด เป็นข้อยืนยันว่าเราได้เดินมาถูกทางแล้วสำหรับการให้ความสำคัญกับตลาดองค์กร ยิ่งไปกว่านั้น
บริการประเภทองค์กรนี้ยังได้สร้างผลกำไรให้กับบริษัทเป็นอย่างมากในปี 2545"
รายได้อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (Access)
บริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น Dialup บรอดแบนด์ และ Leased Line สร้างรายได้ถึงร้อยละ
80.2 จากรายได้ทั้งหมด ในขณะที่บริการประเภทอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการบริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน เช่น บริการเสริม ค่านายหน้า
และค่าติดตั้งต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 19.8 ของรายได้ทั้งหมด ในปี 2545 รายได้จากบริการพื้นฐานเติบโตขึ้นร้อยละ 9.5 ในขณะ
ที่รายได้จากบริการประเภทที่ไม่เกี่ยวข้องฯ เติบโตขึ้นร้อยละ 19 ซึ่งสัดส่วนรายได้จากบริการดังกล่าวนั้น บริการเสริมมีอัตราการ
เติบโตมากที่สุดเป็นร้อยละ 25.3 ทั้งนี้ บริการเสริมเหล่านั้น ประกอบไปด้วย บริการประเภทโรมมิ่ง การเช่าพื้นที่ การป้องกันไวรัส
และการให้บริการดูแลจัดการข้อมูลต่างๆ
ในปี 2545 แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต ได้แนะนำบริการใหม่ๆ ได้แก่ VOIP (Voice-Over-Internet-Protocol)
การดูแล Firewall การจัดระบบป้องกันไวรัสและอื่นๆ สำหรับในปี 2546 นี้ แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต จะเน้นไปที่บริการเสริมต่างๆ
ที่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"สิ่งที่เราจะทำต่อไปจะช่วยให้ลูกค้าองค์กรของเราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตที่มีอยู่แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่า
จะเป็นโซลูชั่นส์ Voice Over IP หรือ Virtual Private Network หรือ บริการที่ให้ความปลอดภัยในการใช้งาน บริการ
เหล่านี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสารได้เป็นอย่างมาก ซึ่งโซลูชั่นส์เหล่านี้สามารถนำเสนอในระดับภูมิภาคได้เฉพาะผู้ให้
บริการที่มีเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้เท่านั้น" มิสเตอร์ ตัน ตง ไห่ กล่าว
สามารถค้นหารายละเอียดของแถลงการณ์ทางการเงินฉบับนี้ พร้อมกับบทวิเคราะห์ของผู้บริหาร
ได้ที่ www.pacific.net.sg/investor
ถ้อยแถลงของผลการเงินในรายงานฉบับนี้ได้ถูกปรับให้เข้ากับระบบการบัญชีของสหรัฐ US GAAP เพื่อความสะดวก
เงินเหรียญสิงคโปร์ ได้ถูกคำนวณเป็น เหรียญสหรัฐในอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.7352 เหรียญสิงคโปร์เท่ากับ 1 เหรียญสหรัฐ
(อัตราการแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 จาก Federal Reserve Bank of New York)
เกี่ยวกับแปซิฟิค อินเทอร์เน็ต
บริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต จำกัด เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการมีสำนักงานอยู่ใน
7 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อินเดีย ประเทศไทย และมาเลเซีย นับเป็นบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์
เน็ตในเอเชียรายแรกที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ โดยทำการจดทะเบียนในตลาดในปี 2542 แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต
ให้บริการอินเทอร์เน็ตครบวงจรคุณภาพสูง ตั้งแต่การให้บริการแบบคู่สายเช่าความเร็วสูง (leased line) บรอดแบนด์ ISDN,
ADSL หรือผ่านโมเด็ม สำหรับธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และผู้ใช้ตามบ้าน ตลอดจนบริการเสริมต่างๆ ที่
เกี่ยวข้องเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันของลูกค้า กลุ่มบริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต จำกัด
ได้รับรางวัลผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ดีที่สุดในเอเชีย แปซิฟิก 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2542-2545 จากนิตยสาร Telecom Asia
และยังได้รับรางวัลผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดในสิงคโปร์อีก 3 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2540-2542 จากนิตยสาร Computer
World สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถค้นหาได้ที่ http://www.pacific.net.sg
สำหรับสื่อมวลชน ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
รวิษฎา อังคีรส / บริษัท แปซิฟิค อินเทอร์เน็ต (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 02 618-8888 ต่อ 105 โทรสาร 02 618-8450
Email:
[email protected] URL: http://www.pacific.net.th-- จบ--
-ศน-