ก.พ. เดินหน้าสร้างจังหวัดเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยใสสะอาด

13 May 2003

กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--Nine-East

สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับคณะกรรมการป.ท.และกระทรวงมหาดไทย รวมพลังคนดีทั่วแผ่นดิน สร้างชุมชนเข้มแข็งป้องกันการทุจริต เพื่อให้ประเทศไทยใสสะอาดน่าอยู่ โดยเริ่มจาก ๕ จังหวัดนำร่อง และเตรียมขยายสู่อีก ๑๕ จังหวัดทั่วประเทศ

ภายหลังจากที่สำนักงาน ก.พ. ได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและติดตามการดำเนินงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายคณะรัฐมนตรี (ป.ท.) จัดทำ โครงการ เสริมสร้างจริยธรรม : รวมพลังสร้างชุมชนเข้มแข็งป้องกันทุจริต

หรือ "โครงการจังหวัดเข้มแข็ง" อันเป็นโครงการที่ศึกษาสำรวจสภาพแวดล้อม และปัจจัยที่ทำให้เกิดการทุจริต เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมจริยธรรมป้องกันการทุจริตแบบยั่งยืน และเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ตามคำขวัญของกระทรวงมหาดไทย "บ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม" ซึ่งโครงการนี้มีความสอดคล้อง

กับนโยบายของรัฐบาล ทั้งนโยบายเร่งด่วนในเรื่อง

การปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตลอดจนนโยบายการพัฒนาระบบราชการ ในส่วนของการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมและค่านิยมของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย

นายสีมา สีมานันท์ รองเลขาธิการ ก.พ. เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.พ.ได้ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ของโครงการจังหวัดเข้มแข็งมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๔๕ โดยใช้รูปแบบหลัก คือ การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน ๕ จังหวัดนำร่อง ที่เป็นเครือข่ายการดำเนินงานส่งเสริมจริยธรรมคือ ชัยนาท เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต นราธิวาส เพื่อระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเสนอแนะ ตลอดจนกำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความร่วมมือร่วมใจ

ในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมและค่านิยมใหม่ในการปฏิบัติหน้าที่ที่พึงประสงค์ โดยมุ่งส่งเสริมคนดี ประณามคนชั่ว และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนข้าราชการ ให้ปฏิบัติราชการ ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการนี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

จากภาครัฐและเอกชนของทั้ง ๕ จังหวัดนั้น

นายวิชัย ศรีขวัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ชัยนาทเป็นจังหวัดแรกที่สำนักงาน ก.พ.

ได้ดำเนินการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ซึ่งทางจังหวัดได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการจังหวัดเข้มแข็งเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการกระตุ้นจิตสำนึกของข้าราชการและประชาชนให้ช่วยกันต่อต้านการทุจริต

ทั้งในภาครัฐและเอกชน ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และประชาชนยังได้รับประโยชน์ในเรื่องของการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่สุจริต ซึ่งทำให้มีงบประมาณเหลือจ่ายมาใช้ต่อยอดและจัดทำโครงการใหม่ของจังหวัดได้อีก

โครงการต่างๆ ที่จังหวัดชัยนาทจัดทำขึ้นเพื่อร่วมแก้ไขและป้องกันการทุจริตนั้น ก็มีทั้งโครงการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตู้รับแจ้งข้อมูลการทุจริต โครงการส่งเสริมให้ประชาชนสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันการทุจริต โครงการอบรมให้ความรู้ด้านจริยธรรมแก่ข้าราชการลูกจ้างในสำนักงาน โครงการสอดแทรกหัวข้อจริยธรรม คุณธรรมในการจัดอบรมแก่ประชาชน นักศึกษา เยาวชน เป็นต้น รวมทั้งยังมีโครงการเยี่ยมบ้านยามเย็น ที่ทางจังหวัดได้จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ออกไปเยี่ยมบ้านยามเย็นเพื่อให้บริการประชาชน และจัดประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร และสมาชิก อบต.รวมทั้งประชาชนเป็นรายตำบล เพื่อให้ความรู้เสริมสร้างจริยธรรมและสร้างเครือข่ายในการป้องกัน การทุจริต

ส่วนจังหวัดเชียงใหม่นั้น ภายหลังจากที่ได้ร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ก็ได้ดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น มีการตั้งคณะกรรมการโครงการส่งเสริมจริยธรรม รวมพลังชุมชนเข้มแข็งป้องกันทุจริต โดยมีนายมานิตย์ ศิลปอาชา ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

เพื่อกำหนดนโยบาย และแนวทางการดำเนินการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามคำขวัญ "เชียงใหม่ใสสะอาด ปราศจากคอร์รัปชั่น"

การต่อต้านการทุจริตของทางจังหวัดเชียงนั้น มีทั้งการดำเนินการศูนย์รับแจ้งเบาะแสจาก

ผู้ร้องเรียน ศูนย์ดำรงธรรม ระฆังห่วงใยจากใจนายกฯ การส่งเสริมยกย่องผู้ที่ทำความดี การสร้างเสริมจิตสำนึกให้ประชาชนประพฤติดี ไม่ทุจริต และมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริต ด้วยการแจ้งเบาะแสผู้ทำผิด

สำหรับจังหวัดขอนแก่นนั้นภายหลังการสัมมนา ได้มีการดำเนินการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการจังหวัดเข้มแข็งออกไปยังองค์กร หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชนให้ได้รับทราบ โดยผ่านทางวิทยุประชาสัมพันธ์ของจังหวัด และในการประชุมข้าราชการตามหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งได้มีการสั่งการ

ให้กำหนดนโยบายการดำเนินงาน และแนวทางติดตามผลจากผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ขณะที่ภาคเอกชน ได้มีการจัดตั้งองค์กรเพื่อเป็นเครือข่ายต่อต้านการทุจริตอีกด้วย

ด้านจังหวัดภูเก็ต ๑ ใน ๕ จังหวัดนำร่องนั้น นายพงศ์โพยม วาศะภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า "ทุกภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ตต่างให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมทั้งได้มีการจัดทำโครงการ จังหวัดภูเก็ตใสสะอาด รวมพลังสร้างชุมชนเข้มแข็งป้องกันการทุจริตขึ้น ด้วยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการส่งเสริมจริยธรรมโดยการฝึกอบรมต่างๆ และจัดโครงการเดือนละครั้งให้คนพบธรรมะเพื่อชำระจิตใจ ตลอดจนจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องราวร้องทุกข์ จัดกิจกรรมคนดี ศรีภูเก็ต เพื่อคัดเลือกผู้ที่ทำความดีให้ได้รับรางวัล ขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการเขียนคำขวัญ "ที่นี่ปลอดการทุจริตคอร์รัปชั่น" และเขียนป้ายประกาศในที่สาธารณะด้วยข้อความ "รู้เบาะแสคนทำผิด ทุจริตคอร์รัปชั่น ยืนยันหลักฐาน แจ้งผู้ว่าฯ ทันที ได้คนผิดมาลงฑัณฑ์ รับรางวัลผู้รักชาติ พร้อมประกาศเกียรติคุณ" เป็นต้น

ซึ่งโครงการและกิจกรรมทั้งหมดที่จังหวัดภูเก็ตจัดทำนั้น เป็นความตั้งใจที่ที่จะแก้ไขและป้องกัน การทุจริตเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล และเพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัย

และเงื่อนไขอีกหลายประการที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหา และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกหน่วยงาน องค์กร และประชาชนในการดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ"

ขณะที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายใน ๕ จังหวัดนำร่องก็ได้รับผลดีจากการร่วมโครงการจังหวัดเข้มแข็งหลายด้าน ทั้งในส่วนของการเสริมสร้างวัฒนธรรม ค่านิยมป้องกันการทุจริต การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมจริยธรรมป้องกันการทุจริต อันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างพลังชุมชนให้เข้มแข็ง การรณรงค์ให้ข้าราชการ พนักงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป สอดส่อง ตรวจสอบ ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐให้มีความสุจริต โปร่งใสเพื่อนำไปสู่การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

การได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีของโครงการจังหวัดเข้มแข็งจากภาครัฐและเอกชนของทั้ง ๕ จังหวัดนำร่องนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าพลังคนดีที่มีความต้องการให้ประเทศไทยใสสะอาดลดการทุจริต และบริหารจัดการประเทศโดยยึดหลักคุณธรรมนั้นมีอยู่มากมาย จึงจำเป็นที่สังคมจะต้องมีการสนับสนุนให้มีโครงการและกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายปกคลุมพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป ดังนั้นสำนักงาน ก.พ. จึงพร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการ ป.ท. ขยายโครงการนี้ออกไปอีกในลักษณะกลุ่มจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดนำร่องดังกล่าวประมาณ ๑๕ จังหวัดทั่วประเทศในปีงบประมาณนี้

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน ศูนย์ส่งเสริมจริยธรรม

โทรศัพท์ ๐ - ๒๕๒๖ - ๓๙๐๒ - ๓ โทรสาร ๐ - ๒๕๔๗ - ๑๑๘๕

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ๐ - ๒๒๕๕ - ๓๖๒๐ - ๒, ๐ - ๑๗๐๒ - ๙๘๔๔

หรือที่

Rujikarn Phurahong

Communication Manager

Nine East co.,ltd

10fl. Maneeya center Bld.

518/15 Ploenchit Rd. 10330

Tel. 66 2255 3620-2 #105

Fax. 66 2255 3624

Mobile. 66 1489 8419

Email address: [email protected]จบ--

-นห-