กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
ผลประกอบการเอมิเรตส์กรุ๊ปทะยานลิ่วเพิ่มกว่า 12,175 ล้านบาท (285.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ 74 เปอร์เซ็นต์ สวนกระแสอุตสาหกรรมการบินโลกซบเซา เผยอัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มกว่า 76 เปอร์เซ็นต์ ทำลายสถิติเก่า ย้ำมุ่งมั่นบริการด้วยคุณภาพ
ฯพณฯ ชี๊ค อาเหม็ด บิน ซาอี๊ด อัล มัคตุม ประธานสายการบินเอมิเรตส์ แถลงถึงผลประกอบการของเอมิเรตส์กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยสายการบินเอมิเรตส์และดนาต้าว่า กำไรสุทธิประจำปี 2545/2546 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 หรือกว่า 12,175 ล้านบาท (285.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานของสายการบินเอมิเรตส์เพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถึงร้อยละ 94 คิดเป็นเงิน 10,530 ล้านบาท (247.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับรายได้เมื่อปีก่อนจำนวน 5,437 ล้านบาท (127.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีอัตราเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.6 ทำลายสถิติอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่ผ่านมาทั้งหมด ขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าหรือคาร์โก้คิดเป็นร้อยละ 19.6
ด้านยอดรายได้รวมของเอมิเรตส์กรุ๊ปเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31 หรือกว่า 119,331 ล้านบาท (2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เทียบกับรายได้ปีที่แล้วจำนวน 89,498 ล้านบาท (2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ส่วนดนาต้า (Dnata) สร้างรายได้ให้แก่กรุ๊ปกว่า 1,645 ล้านบาท (38.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอด 1,534 ล้านบาท (36.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)
สำหรับดุลบัญชีเงินสดในช่วงสิ้นปีของเอมิเรตส์กรุ๊ปอยู่ที่ 55,394 ล้านบาท (1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นที่ 38,347 ล้านบาท (0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
ชี๊ค อาเหม็ด กล่าวว่า "เวลาที่ผมเดินทางไปดูงาน ผู้สื่อข่าวมักถามคำถามเดียวกันเสมอว่า ความลับแห่งความสำเร็จของเอมิเรตส์คืออะไร คำตอบของผมคือ ความมุ่งมั่นให้บริการด้วยคุณภาพในธุรกิจทุกอย่างที่เราทำ แต่ผมต้องขอชี้แจงว่าความสำเร็จของเราไม่ได้มาโดยอัตโนมัติหรือบังเอิญ แต่เป็นผลจากการทำงานร่วมกันเป็นทีม ภายใต้การบริหารงานแบบมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเป็นหลัก และเรามีพนักงานที่มีความสามารถที่จะมอบบริการด้วยความจริงจังและจริงใจ ผนวกเข้ากับการเอาใจใส่ลูกค้าแบบตัวต่อตัว"
สายการบินเอมิเรตส์เติบโตไปพร้อมๆกับดูไบ ในฐานะเมืองท่าด้านการท่องเที่ยวและการค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของศตวรรษที่ 21 โดย ชี๊ค อาเหม็ด กล่าวยกย่องรัฐบาลดูไบในการวางแผนสร้างดูไบเป็นเมืองแห่งอนาคตว่า "รัฐบาลลงทุนหลายล้านดอลล่าร์เพื่อปฏิรูปสนามบินแห่งอนาคต โดยจะทำให้สายการบินเอมิเรตส์มี
สนามบินส่วนตัวได้ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 60 ล้านคน ภายในปี 2555 และศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่สามารถรองรับสินค้าได้ถึงหนึ่งล้านตัน"
"ในรอบปีบัญชีนี้ เอมิเรตส์กรุ๊ปสร้างรายได้ค้ำจุนเศรษฐกิจดูไบจากค่าใช้จ่ายโดยตรงถึงกว่า 46,869 ล้านบาท (1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ยังไม่รวมประมาณการค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องที่เพิ่มขึ้นจากส่วนอื่นๆ อีกกว่า 70,298 ล้านบาท (1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นจำนวนรวม 117,155 ล้านบาท (2.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ)" ชี๊ค อาเหม็ด กล่าวถึงความช่วยเหลือของเอมิเรตส์กรุ๊ปในด้านการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่อุตสาหกรรมการบินต้องเผชิญกับปัญหาอย่างหนักหน่วง ทำให้สูญเสียรายได้ทั่วโลกถึง 553,826 ล้านบาท (13 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เอมิเรตส์ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจเหมือนกับสายการบินอื่นๆ แต่สามารถบรรเทาผลกระทบที่รุนแรงลงได้เพราะการปรับตัวตอบรับต่อปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ชี๊ค อาเหม็ด ยังเน้นอีกว่า เอมิเรตส์ไม่ได้รับการอุดหนุนหรือการปกป้องจากการแข่งขันใดๆจากรัฐบาลดูไบ และให้ความเห็นว่า "เมื่อเราเปรียบเทียบผลการดำเนินงานโดยทั่วไปที่ดูเกือบไม่เหมือนจริงของเรากับสายการบินอื่น พบว่าอันที่จริงเราโชคดีที่อยู่ในยุคที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง"
ข้อมูลเกี่ยวกับสายการบินเอมิเรตส์
สายการบินเอมิเรตส์เป็น 1 ใน 5 สายการบินที่มีกำไรมากที่สุดในโลก โดยให้บริการผู้โดยสารถึง 8.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีผู้โดยสารจำนวน 6.8 ล้านคน หรือร้อยละ 26 มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่ 20 ในจำนวนสายการบินนานาชาติทั่วโลก
ความสามารถในการบรรทุกเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 ต่อตันต่อกิโลเมตร ขณะที่อัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 2.3 คือจากร้อยละ 74.3 อัตราบรรทุกโดยรวมร้อยละ 70 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68.3 เมื่อปีที่แล้ว ระวางบรรทุกสินค้าของเอมิเตส์สกายคาร์โก้เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.1 เป็นสถิติใหม่จำนวน 525,188 ตัน
ช่วงรอบบัญชี 2545/2546 เอมิเรตส์เปิดเที่ยวบินใหม่สู่คาสบลังก้า คาร์ทุม มอริเชียส เพิร์ธ โอซาก้า และโคชิน ทำให้จำนวนจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้นเป็น 64 เส้นทางครอบคลุม 45 ประเทศ และเพิ่มเที่ยวบินขึ้นอีกหลายเส้นทางรวมทั้ง ลอนดอน โจฮันเนสเบอร์ก และเตหะราน
ฝ่ายนโยบายการท่องเที่ยวของสายการบินเอมิเรตส์ รายงานอัตราการเติบโตของการจองแพ็คเกจที่รวมถึงการเหมาแพ็คเกจทัวร์ที่ครอบคลุมเอมิเรตส์ฮอลิเดย์ อาราเบียนแอ๊ดเวนเจอร์ และอัลมาฮารีสอร์ท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 โดยเฉพาะยอดขายทัวร์ขาออกที่แข็งแกร่ง และมีลูกค้ากว่า 208,000 คน
มอริซ ฟลานากัน กรรมการผู้จัดการเอมิเรตส์กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า "ในปีที่ธุรกิจการบินทั่วโลกประสบปัญหา แต่เรายังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งคือการทำให้เอมิเรตส์กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก"
เกี่ยวกับดนาต้า
ฟลานากันกล่าวว่า "ดนาต้าดำเนินงานมาเป็นปีที่ 44 และยังมีโอกาสเติบโตต่อไป โดยรับผิดชอบดูแลผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติดูไบถึง 16.5 ล้านคน รวมถึงจัดการระวางบรรทุกสินค้าจำนวน 924,000 ตัน"
นอกเหนือจากการรับมือกับจำนวนอากาศยานที่อาคารหนึ่งและสองที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในช่วงปีที่ผ่านมาดนาต้ายังต้องดูแลอากาศยานเกือบ 70,000 ลำ โดยอาคารหลักมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ซึ่งเกินกว่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั่วโลกที่ร้อยละ 5 ทั้งนี้ มีการขยายอาคารขนส่งสินค้าฟรีโซน (เอฟแอลซี) ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าหรือ 19,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับกับการเติบโตทางธุรกิจที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 173
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดนาต้ามีอัตราการเติบโตของยอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และนับว่าดนาต้าเอเจนซี่เป็นเอเจนซี่การท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางและน่าจะเป็นเอเจนซี่รายย่อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสำนักงานขาย 29 แห่งภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเดียวกัน
ค้นหารายงานประจำปีทางบัญชีฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ www.ekgroup.com--จบ--
-พห-