กรมขนส่งทางบก ตรวจสภาพรถรับ-ส่งนักเรียน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย พร้อมเปิดตัวโครงการความร่วมมือภาครัฐกับเอกชน "โครงการคนไทยหัวใจ 2ป."

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ศูนย์ปชส.กระทรวงคมนาคม นายนิกร จำนง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าว โครงการความปลอดภัย ของรถรับ-ส่งนักเรียน และโครงการตรวจวัดมลพิษจากรถ "คนไทยหัวใจ 2 ป." ณ ห้องประชุมกรมการขนส่งทางบกถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ โครงการความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กับบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด และบริษัท บริดสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเสริมสร้างแนวคิด จิตสำนึก และทักษะในการขับรถแบบป้องกันอุบัติเหตุ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงอุปกรณ์ส่วนควบ และการควบคุมมลพิษ อันจะเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพการบริการของรถรับ-ส่งนักเรียน เพื่อความปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถดังกล่าว ซึ่งได้จัดให้มีกิจกรรมบริการตรวจรถรับ-ส่งนักเรียนโดยช่างตรวจสภาพรถของกรมการขนส่งทางบก เน้นการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถ อุปกรณ์ส่วนควบ และมลพิษ เช่น ตรวจสอบประสิทธิาภาพห้ามล้อระบบสตาร์ท ระบบเพลาล้อ ระบบไอเสีย ระดับควันดำ ตัวถังรถ เป็นต้น พร้อมทั้งบริการปรับแต่งเครื่องยนต์เบื้องต้นโดยช่วงของบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ฯโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งกิจกรรมตรวจสอบสภาพรถรับ-ส่งนักเรียนได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6,7 และ 9 พฤษภาคม 2546 ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ กรมการขนส่งทางบกได้จัดให้มีการอบรมพนักงานขับรถนักเรียน หลักสูตรการขับรถเชิงป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของโครงการความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียนไปแล้ว 2 รุ่น มีผู้สนใจเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมากถึง 240 คน และจะขยายโครงการดังกล่าวไปยังส่วนภูมิภาคต่อไป ส่วนอีกกิจกรรมหนึ่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คือ กิจกรรมรณรงค์ลดมลพิษทางอากาศและเสียง เพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการคนไทยหัวใจ 2ป. (ประหยัดและปลดภัย) ที่กรมการขนส่งทางบกร่วมกับบริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด เพื่อต้องการให้เจ้าของรถมีความรู้เข้าใจและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมด้วยการดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดี ตลอดจนส่งเสริมให้เจ้าของรถอย่างประหยัด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยจะทำการตรวจสอบมลพิษในไอเสียและระดับเสียงของรถแก่รถทุกประเภททุกยี่ห้อ พร้อมให้บริการปรับแต่งเครื่องยนต์แก่รถที่มีปริมาณมลพิษในไอเดียสูงเกินเกณฑ์ที่กำหนดเบื้องต้นโดยไม่คิดค่าบริการ สำหรับรถที่มีผลการตรวจสอบมลพิษผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับการติดสติกเกอร์ "คนไทยหัวใจ 2 ป." ส่วนรถคัดใดหากปรับแต่งเครื่องยนต์เบื้องต้นให้แล้ว ผลการตรวจสอบยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดเจ้าหน้าที่จะให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข ณ ศูนย์บริการของรถนั้น ๆ ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยายนต์ฟรี และจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศและเสียง การใช้พลังงานอยางประหยัด เพื่อให้เจ้าของรถมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย สำหรับในปี 2546 นี้ กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ใน 2 จังหวัดคือ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-7 มิถุนายน 2546 ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต และสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ สี่แยกกะทู้ และจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 16-21 มิถุนายน 2546 ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 1 (บ้านคลอง ถนนสิงหวัฒน์) กิจการมรณรงค์ลดมลพิษทางอากาศและเสียงเพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการคนไทยหัวใจ 2 ป. ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2543 มีผู้สนใจนำรถเข้าร่วมตรวจวัดมลพิษจำนวนกว่า 24,300 คัน นายนิกร ฯ กล่าวว่าปัจจุบันพบว่ามีการดัดแปลงรถประเภทต่างๆ เพื่อนำมาใช้รับ-ส่งนักเรียนเป็นจำนวนมาก เช่น รถตู้ รถบัส โดยเฉพาะในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะนำรถสองแถวมาดัดแปลงเพื่อรับ-ส่งนักเรียนซึ่งมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรก อาจก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กนักเรียนที่โดยสารได้ จึงจำเป็นต้องมีการดูแลและควบคุมให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในส่วนของพนักงานขับรถ สภาพตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบรวมถึงการป้องกันมลพิษทางอากาศและเสียงด้วย จึงได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น เช่นการจัดอบรมผู้ดูแลรถนักเรียน พนักงานขับรถนักเรียนซึ่งได้อบรมไปแล้ว 2 รุ่น มีผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 400 คน และการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อดูแลเกี่ยวกับตัวรถที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นายนิกรฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก มีข้อกำหนดเกี่ยวกับรถนักเรียนอยู่แล้วแต่ปัจจุบันรถที่ใช้รับส่งนักเรียนส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นจำเป็นต้องนำรถที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนเหล่านี้เข้าสู่ระบบความปลอดภัยก่อนที่จะนำเข้าสู่ความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การดำเนินการเกี่ยวกับรถนักเรียนนี้ได้แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ในระยะแรกได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งทุกจังหวัดสำรวจรถทุกประเภทที่นำมาใช้ในการรับ-ส่งนักเรียนว่าเป็นรถประเภทใด จำนวนเท่าใด และจำนวนผู้ใช้บริการรถประเภทนี้ด้วย พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาส่งให้กรมการขนส่งทางบก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม และกำหนดยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างถาวรต่อไป--จบ-- -สก/พห-

• ข่าวโครงการความร่วมมือ
• ข่าวกรมการขนส่งทางบก
• ข่าวการกระทรวงคมนาคม
• ข่าวน้ำมันคาลเท็กซ์
• ข่าวกระทรวงคมนาคม