กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--Aziam Burson-Marsteller
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2546 เจ้าหนี้ของทีพีไอทั้งไทยและต่างชาติได้มีมติอย่างท่วมท้นแต่งตั้งบริษัท บริหารแผนไทย จำกัด ("ทีเอแอล") เป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของทีพีไอ เพื่อทำหน้าที่ในการดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของทีพีไอให้แล้วเสร็จตามแผน ในการลงมติดังกล่าว ทีเอแอลได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาเจ้าหนี้ ดังกล่าว
ก่อนที่จะมีการออกเสียงลงคะแนนเพื่อแต่งตั้งผู้บริหารแผนคนใหม่ คณะกรรมการเจ้าหนี้ได้พิจารณาข้อเสนอของรัฐบาลและข้อเสนอของผู้บริหารของลูกหนี้ที่เสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการจำนวน 15 ท่านอันประกอบด้วยตัวแทนที่ เจ้าหนี้และผู้บริหารของลูกหนี้แต่งตั้งฝ่ายละ 7 ท่าน และตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลอีกหนึ่งท่านอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารแผนคนใหม่ได้มีการเลื่อนการประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวออกไปถึงสองครั้ง เพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายมีเวลาเพียงพอสำหรับการพิจารณาข้อเสนอต่างๆ และหลังจากที่ได้ประชุมกันหลายครั้ง (รวมถึง การประชุมเพื่อไกล่เกลี่ยในประเด็นนี้ที่ศาลล้มละลายกลาง) เจ้าหนี้ต่างก็ได้ตระหนักว่า คณะกรรมการ อันประกอบด้วยกรรมการจำนวน 15 ท่านตามที่รัฐบาลได้เสนอ และได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารของลูกหนี้นั้นอาจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับผู้บริหารของลูกหนี้ในระหว่าง
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อีกทั้งอาจจะก่อให้เกิดอุปสรรคในการตัดสินใจ และในที่สุดก็จะไม่สามารถหลีกพ้นความเสียหายที่จะเกิดกับทีพีไอและอนาคตของทีพีไอได้
เจ้าหนี้เชื่อมั่นว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้คือการแต่งตั้งทีเอแอลให้เป็นผู้บริหารแผนของทีพีไอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหนี้ทั้งหลายต่างคำนึงถึงข้อกังวลและความห่วงใยของรัฐบาลและผู้บริหารของลูกหนี้ โดยได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้ง ท้ายที่สุดเจ้าหนี้ก็มีมติเสนอให้ผู้บริหารของลูกหนี้เข้าร่วมในกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยการแต่งตั้งตัวแทนของตน (คุณอารีย์ วงศ์อารยะ) เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ นอกจากนี้ เจ้าหนี้ได้ตกลงที่จะรับตัวแทนจากภาครัฐบาล (คุณพละ สุขเวช) ให้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของทีเอแอลด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังยินดีที่จะให้ตั้งคณะกรรมการกำกับการดูแลซึ่งไม่มีอำนาจในการบริหารขึ้น โดยคณะกรรมการกำกับดูแลดังกล่าวนั้น ให้มีอำนาจในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของทีเอแอล แต่ทว่า คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ได้บอกปัดข้อเสนอดังกล่าวของคณะกรรรมการเจ้าหนี้โดยสิ้นเชิง
คาร์ลอส แทน แห่งบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ กล่าวว่า "ดูเหมือนว่าผู้บริหารลูกหนี้จะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ก็ตามที่ผู้บริหารของลูกหนี้ไม่ได้มีส่วนในการเข้าไปควบคุมการดำเนินกิจการของทีพีไอ ซึ่งท่าทีหรือจุดยืนเช่นนี้ถือว่าไม่สมเหตุสมผล" ขณะนี้ ผู้บริหารของลูกหนี้ถือหุ้นในทีพีไอเพียงร้อยละ 12 และไม่มีเจ้าหนี้ทั้งชาวไทยและต่างชาติสนับสนุนให้ผู้บริหารของลูกหนี้กลับเข้าไปควบคุมการดำเนินกิจการของทีพีไออีกไม่ว่าในระดับใดก็ตาม
"ทีเอแอลเป็นบริษัทที่เป็นตัวกลาง มีผู้บริหารชาวไทยที่เป็นที่ยอมรับและมีคุณสมบัติเพียบพร้อมสำหรับการบริหารแผน ทีเอแอลจะดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดของทีพีไอ (คือลูกจ้าง เจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น) นอกจากนี้ ทีเอแอลถือว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมและสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของทีพีไอจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน นอกเหนือจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งของทีเอแอลแล้ว เจ้าหนี้ต่างตระหนักดีว่า ทีเอแอลจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยโดยรวมด้วย" ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ รองกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าว
ด้วยความสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากเจ้าหนี้ ทีเอแอลจะสามารถจัดหาเงินทุนเพื่อการดำเนินงานของทีพีได้โดยต่อเนื่องต่อไป ซึ่งหมายความว่า การแต่งตั้งทีเอแอลจะทำให้ทีพีไอประสบความสำเร็จในอนาคต และลูกจ้างของทีพีไอก็จะมีความมั่นคงในอาชีพและการงานตามมา ในทางกลับกัน การที่เจ้าหนี้ไม่ให้การสนับสนุนผู้บริหารของลูกหนี้ ย่อมเป็นเครื่องสะท้อนและยืนยันว่า การดำเนินความพยายามใดๆ ที่จะให้ผู้บริหารของลูกหนี้มีบทบาทในการดำเนินกิจการของทีพีไอจะไม่ได้รับความสนับสนุนจากเจ้าหนี้
คณะกรรมการเจ้าหนี้ของทีพีไอคาดหวังว่า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2546 ศาลจะให้การรับรองและให้ความเห็นชอบต่อการแต่งตั้งทีเอแอลเป็นผู้บริหารแผนของทีพีไอ ตามข้อกำหนดแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย
กรุงเทพฯ 4 มิถุนายน 2546
คณะกรรมการเจ้าหนี้ของทีพีไอ ประกอบด้วย
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ซิตี้แบงก์
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสหรัฐฯ อเมริกา
- บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ
- เครดิตตันสตัล เฟอร์ วีเดอร์ราฟบัว
- บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด--จบ--
-พห-