กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
ไอศครีมซุปเปอร์พรีเมี่ยมแบรนด์ดัง "ฮาเก้น-ดาส" จัดงาน "A Delicious Day" เพื่อเผยโฉม 6 เมนูใหม่รับปี 2003 สนองกระแสตอบรับที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้ที่ชื่นชอบไอศกรีมคุณภาพสูงและรสชาติที่ดีเยี่ยม โดยเน้นจุดขายด้านการคัดสรรส่วนผสมที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก และเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% โดยปราศจากการใช้สารปรุงแต่งรส วัตถุปรุงแต่งอาหาร วัตถุกันเสียหรือแม้แต่สีผสมอาหารในการผลิตไอศกรีม
นายราจ คูมาร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอชดี ดิสทรีบิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงาน "A Delicious Day" ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำ 6 เมนูใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย A Bouquet เมนูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหลากหลายของไอศกรีม 5 รส ควบคู่ไปกับรสชาติของผลไม้สดนานาชนิด และความกรอบของวาฟเฟิลช็อกโกแลตที่สุดแสนอร่อย Cookie Crunch เมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Home Made Cookies และไอศกรีมคุ๊กกี้แอนด์ครีม เสริมความอร่อยด้วย Chocolate Hot Fudge วิปครีม และเกล็ดช้อกโกแลตในสไตล์ฮาเก้น ดาส Fantasy Cone เมนูสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติหลากหลาย ทั้งความหอมหวาน และเข้มข้นของไอศกรีมสตอเบอรี่ชีสเค้ก และความสดชื่นของราสเบอร์รี่ซอเบร์ และไอศครีมสตรอเบอร์รี่ เสิร์ฟใน ไจแอ็น วาฟเฟิลโคน พร้อมสร้างสีสันโดยการโรยหน้าด้วยผลไม้สดหลากชนิด Pleasure Bowl เมนูสุดแสนกลมกล่อมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไอศกรีม พราลีนส์ แอนด์ ครีม, แมคคาดีเมีย นัท และช็อกโกแลต เสิร์ฟในชามที่ตกแต่งด้วยกล้วยหอม บัตเตอร์สก็อตซอส และเมล็ดอัลมอนด์อบกรอบ Tempting Sundae เมนูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไอศครีมผลไม้ที่มีรสชาดสดชื่นอย่างราสเบอร์รี่ ซอเบร์ และความเข้มข้นของไอศครีมสตอเบอรี่ชีสเค้ก แต่งหน้าด้วยผลไม้นานาชนิด เสริฟพร้อมด้วยวาฟเฟิล และอัลมอนด์อบกรอบ Ultimate Indulgence เมนูที่สร้างสรรค์ความอร่อยด้วยไอศกรีม 3 รส แมคคาดีเมีย นัท, คุกกี้ แอนด์ ครีม และกาแฟ มาไว้รวมกัน ผสมความกรอบอร่อยของวาฟเฟิลสูตรพิเศษ พร้อมช็อกโกแลต และคาราเมลซอสเพื่อเพิ่มความอร่อย ซึ่งจากที่ได้ทดลองเปิดตัวมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ พบว่าลูกค้าให้การต้อนรับทั้ง 6 เมนูใหม่เป็นอย่างดี
"ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกทานไฮศกรีมฮาเก้น-ดาสเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของไอศกรีมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้แตกต่างจากไอศกรีมอื่นๆ ทั่วไป อาทิ การเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติคุณภาพสูงในการผลิตไอศกรีม โดยปราศจากการใช้สารปรุงแต่งรส วัตถุปรุงแต่งอาหาร วัตถุกันเสียหรือแม้แต่สีผสมอาหาร ไอศกรีมฮาเก้น-ดาส มีรสชาติและส่วนผสมที่เข้มข้น อีกทั้งมีอากาศน้อยกว่า และนั่นทำให้ลูกค้าของฮาเก้น-ดาส ได้ลิ้มรสไอศกรีมที่มีเนื้อแน่น เข้มข้น หอมมันกว่า ทั้งรสชาติและความอร่อย ความหลากหลายด้านรสชาติก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฮาเก้น-ดาสต่างจากไอศกรีมอื่นๆ ไม่ว่าจะเลือกอร่อยกับรสชาติไหนคุณก็สัมผัสได้ถึง ความเข้มข้น หอมหวาน และนุ่มลิ้น นอกจากนี้ รูปลักษณ์เฉพาะของฮาเก้น-ดาส ที่มีเนื้อไอศกรีมที่สามารถมองเห็นส่วนผสมจากธรรมชาติได้อย่างเด่นชัด และคงความยืดหยุ่นตามธรรมชาติของเนื้อไอศกรีมไว้เสมอ ด้านกระบวนการผลิตไอศกรีมฮาเก้น-ดาส มีกระบวนการผลิตและแช่แข็งในอุณหภูมิที่เหมาะสม ผลลัพท์ที่ได้คือไอศกรีมเนื้อแน่น นุ่ม ละมุน ได้ทั้งรสชาติและความอร่อย" นายราจ คูมาร์กล่าว
ปัจจุบัน ตลาดไอศกรีมในประเทศไทยถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับซุปเปอร์ พรีเมี่ยม ระดับพรีเมี่ยม และระดับมิดเดิลหรือแมส ซึ่งในระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมนั้น มีแต่ไอศกรีมฮาเก้น-ดาสเท่านั้น โดยมูลค่าตลาดรวมไอศกรีมของไทยต่อปีอยู่ที่ 5.5-6 พันล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ไอศกรีมฮาเก้น-ดาส ได้ปรับปรุงรูปแบบร้านให้มีความทันสมัย และเสริมในส่วนของการจัดแสดงดนตรีอะคูสติกในช่วงเย็นของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ระหว่างเวลา 20.00-23.00 น. พบว่ามีจำนวนผู้ที่เข้ามาทานไอศกรีมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าชอบ เพราะแปลกกว่าที่อื่นๆ คือได้อิ่มอร่อยกับรสชาติไอศกรีมในระดับซุปเปอร์ พรีเมี่ยม ควบคู่ไปเสียงดนตรีอันสุดแสนไพเราะ "ฮาเก้น-ดาส เป็นมากกว่าร้านขายไอศกรีม เพราะเราเชื่อว่าลูกค้าของเราทุกคนคือผู้ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตนเองและครอบครัว ดังนั้นเราจึงทำทุกอย่างเพื่อรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใจในการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน การตกแต่งไอศกรีมแต่ละเมนูให้มีความพิเศษ สมกับการเป็นซุปเปอร์พรีเมี่ยมไอศกรีม หรือแม้กระทั่งการเสริมด้านสุนทรียศาสตร์ต่างๆ อาทิ ดนตรี ศิลปะและอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าเราได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดทุกครั้งที่เลือกทานไอศกรีมฮาเก้น-ดาส" ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอชดี ดิสทรีบิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ไอศกรีมฮาเก้น-ดาส เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1994 ภายใต้การบริหารของบริษัท เอชดี ดิสทรีบิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยปรัชญาที่ว่าไม่ว่าส่วนผสมที่ดีที่สุดจะอยู่ ณ มุมใดของโลก ฮาเก้น-ดาส พร้อมที่จะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด และนำมาใช้เป็นส่วนผสมเพื่อให้ได้ไอศกรีมรสชาติดีเยี่ยมและคุณภาพที่เป็นเลิศสำหรับลูกค้าของเราเสมอ ปัจจุบันฮาเก้น-ดาสมีสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา ประกอบด้วย สาขาอาคารภานุณี ถนนเพลินจิต, สาขาสยาม เซ็นเตอร์, สาขาเอ็มโพเรี่ยม, สาขาสีลม, สาขาเซ็นทรัลพระราม 3, สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว, สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, สาขามาบุญครอง, สาขาวัดพระแก้ว, สาขาศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยศิลปากร, สาขาพัทยา, สาขาป่าตอง และสาขาเชียงใหม่
ไอศกรีมฮาเก้น-ดาส ไม่เคยหยุดยั้งด้านการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ รวมไปถึงการพัฒนารสชาติใหม่ออกสู่ตลาด ผสมผสานกับการสร้างสรรค์เมนูที่ไม่ซ้ำแบบใครในดีไซน์เฉพาะตัว ส่งผลให้ฮาเก้น-ดาส สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและมีคุณภาพสูง ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ฮาเก้น-ดาสสามารถก้าวสู่การเป็นไอศกรีที่ดีที่สุดของโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ ยุลาวัลย์ เหลือประเสริฐ
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
02-951-9119,09-171-8525,01-890-3568--จบ--
-นค-