ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับกรมบังคับคดี เปิดประมูลทรัพย์สินในกรุงเทพกว่า 1,500 รายการ ตลอด 3 เดือนเต็ม

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ธ.ไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ร่วมกับกรมบังคับคดี จัดงานมหกรรมขายทอดตลาดบ้านและที่ดิน จำนวนกว่า 1,500 รายการ มูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท ณ ชั้น 1 อาคาร 25 ปี กรมบังคับคดี โดยจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีของแต่ละสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2546 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 นายเพิ่มพูน ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าจากการที่ปัจจุบันประชาชนมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มขยายตัวและเป็นที่สนใจเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของโครงการที่จัดสร้างขึ้นใหม่ และบ้านมือสองที่อยู่ระหว่างบังคับคดี รวมถึงทรัพย์สินที่เป็นของสถาบันการเงิน สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีนโยบายในการจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้ง NPL และ NPA โดยมีแผนการแก้ไขหนี้ที่มีปัญหาให้ลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการจัดกิจกรรมจำหน่ายทรัพย์สินที่มีอยู่ตลอดทั้งปีทั้งในกรุงเทพ และส่วนภูมิภาค การจัดงานมหกรรมขายทอดตลาดในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร มารวมประมูล ณ ที่เดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้สนใจสามารถเลือกชมและเลือกประมูลทรัพย์ได้โดยง่าย และตรงกับความต้องการมากขึ้น ซึ่งผู้เข้าร่วมประมูลในงาน จะได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ โดยสามารถวางเงินเป็นหลักประกันเข้าซื้อทรัพย์เพียง 50,000 บาท ซึ่งทรัพย์ที่นำเข้าประมูลในงานครั้งนี้ประกอบไปด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ ห้องชุดพักอาศัย และที่ดินว่างเปล่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับประชาชนที่กำลังมองหาบ้านดี ราคาถูก ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งคุ้มค่ากว่าการเช่าอาศัย นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เตรียมขยายออกไปยังเขตปริมณฑล และส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมีกิจกรรมซึ่งได้กำหนดจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ได้แก่งานมหกรรมขายทอดตลาด ณ สำนักงานบังคับคดี ธัญบุรี เริ่มวันที่ 16 กรกฎาคม เป็นต้นไป รวมระยะเวลาประมาณ 3 เดือนเช่นเดียวกัน ธนาคารได้ให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อสำหรับผู้ที่เข้าประมูลซื้อทรัพย์ในงานมหกรรมขายทอดตลาดฯ โดยจะได้รับสิทธิในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อในการประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด เป็นกรณีพิเศษ โดยธนาคารได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับให้คำปรึกษาและบริการทางด้านสินเชื่อภายในงาน สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ โทรศัพท์ (02) 544-5000 หรือ กองจำหน่ายทรัพย์สิน กรมบังคดี โทรศัพท์ (02) 881-4371 ต่อ 3301 และ (02) 887-5053 ต่อ 3302 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : พจน์ ใจชาญสุขกิจ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์ วัฒนี , สุเชษฐ์ (02) 544-4501-3--จบ-- -พห-

ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด+ธนาคารไทยพาณิชย์วันนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีผลวันที่ 3 มีนาคม 2568

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี เพื่อให้ภาวะการเงินลดความตึงตัว สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ กนง. ประเมินไว้และสามารถรองรับความไม่แน่นอนข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด

"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลคร... "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ — "PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดโปร LPGA และโปรกอล์ฟชั้นนำของไทยกว่า ...

รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' แต่งตั้ง Underwriters เตรียมเสนอขายหุ้น IPO — รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (ม...

เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจ... 'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' จัดโรดโชว์นักลงทุนรายย่อย ผ่านระบบออนไลน์ 29 พ.ย.นี้ — เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากเทรนด์การใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพเละแนว...

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้... ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ...

ธนาคารไทยพาณิชย์สำรองธนบัตรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สำรองธนบัตรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า เป็นจำนวนเงิน 37,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5% เนื่องจากการบริโภคของประชาชนที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและนโยบายของภาครัฐทั้งในเรื่องการอัดฉีดเม็ด...