ทุ่ม 200 ล้านประมวลผลออนไลน์ข้อมูลสาธารณสุข

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--สธ. สธ.เตรียมทุ่ม 200 ล้านบาท ตั้งศูนย์ประมวลผลกลาง เชื่อมต่อข้อมูลออนไลน์ผู้ใช้บริการจาก 3 โครงการ ทั้งประกันสังคม 30 บาท และสวัสดิการข้าราชการ กับหน่วยงานราชการ ผ่านระบบออนไลน์ตั้งเป้าแล้วเสร็จในเวลา 2 ปี น.พ.ถาวร สกุลพาณิชย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานประกันสุขภาพ กล่าวว่า กระทรวงมีแผนจัดตั้งโครงการศูนย์ประมวลผลกลาง ในสังกัดสำนักงานหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า ด้วยงบ 200 ล้านบาท โดยศูนย์ประมวลผลกลาง จะมีบทบาทในการจัดการภาพรวมของการให้บริการสาธารณสุขประเทศไทย ซึ่งเชื่อมโยงการให้บริการจาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการประกันสังคม โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และโครงการสวัสดิการข้าราชการ ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุโดยได้จัดทำข้อตกลงเบื้องต้นของโครงการ (ทีโออาร์) เสร็จสิ้นแล้ว ระยะเวลาการดำเนินงาน 2 ปี แบ่งออกเป็น 12 ระยะ โดยดำเนินการติดตั้งระบบทุกด้านคู่ขนาน น.พ.ถาวร กล่าวต่อว่า ระบบดังกล่าวจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐในส่วนของการบริการประชาชนด้วยสุขภาพเบื้องต้นมีการเชื่อมโยงข้อมูลประชากรทั่วประเทศ 3 หน่วยงาน กับระบบทะเบียนข้อมูลบุคคล ซึ่งเป็นโมดูลหลัก 1 ใน 3 ของระบบศูนย์ประมวลผลกลางนอกเหนือจากระบบโมดูลการจ่ายเงินและโมดูลการใช้บริการ สำหรับหน่วยงานที่เริ่มให้บริการเชื่อโยงระบบและแลกเปลี่ยนข้อมูลออนไลน์แห่งแรกคือ สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งดูแลเรื่องทะเบียนราษฎร ผ่านระบบออนไลน์แล้ว นอกจากนี้อีก 6 เดือนข้างหน้าก็จะเชื่อมโยงกับสำนักงานประกันสังคม รวมถึงเชื่อมต่อกับสำนักงานสวัสดิการข้าราชการภายในปีงบประมาณหน้าขณะที่โมดูลของระบบการจ่ายเงินนั้น จะเชื่อมโยงกับหน่วยงานหลัก 2 แห่ง ได้แก่ 1. กรมบัญชีกลาง ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการให้บริการของสถานพยาบาล โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยในการประมวลผล จะช่วยลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจากงานเอกสารลงเหลือประมาณ 10 บาท จากเดิม 100 บาทต่อเอกสาร และเพิ่มความรวดเร็วจากการใช้แรงงานคนที่สามารถจัดการเอกสารได้เพียง 40 ชุดต่อคนเป็นกว่าแสนชุด 2. การเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.กส.) โดยเบื้องต้นเป็นความร่วมมือในการใช้ระบบการจัดการข้อมูลด้านการเงิน ซึ่งสำนักงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องระบบซอฟต์แวร์ และ ธ.ก.ส.ยังทำหน้าที่ดูแลเครื่องแม่ข่ายที่ใช้ในการโอนข้อมูลการจ่ายเงินไปยังโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์เบิกจ่ายเงิน สำหรับโมดูลของการใช้บริการนั้น เบื้องต้นจะตั้งมาตรฐานกลางขึ้นมา โดยใช้รหัสว่า ไอซีดี 10 ซึ่งมาตรฐานดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. มาตรฐานขั้นพื้นฐานเป็นการใช้เลขรหัสระบุโรค การวินิจฉัย, การผ่าตัด และยาที่ใช้เป็นต้น และ 2. มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น เข้ามารักษาผ่าตัดไส้ติ่งก็จะมีรายละเอียด การรักษา ยาที่ได้รับซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาเป็นรุ่นที่ 3 รองรับปริมาณข้อมูลได้ถึง 1,700 โรค ขณะนี้การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลนั้นจะต้องเชื่อมโยงกับศูนย์ประมวลผลในทุกโมดูลโดยจะพิจารณาความพร้อมของสถานพยาบาล น.พ.ถาวรกล่าวต่อว่า ในปีหน้าจะมีการเริ่มนำโครงการดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ ผ่านการให้บริการคนไข้นอกของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ใน 5 จังหวัด ได้แก่ เขตประเวศ กรุงเทพฯ สงขลา, สุรินทร์, แพร่ และสระบุรี โดยผู้เข้าใช้บริการเพียงแต่ใช้บัตร พร้อมกับแจ้งเลขรหัสประจำตัวประชาชนก็สามารถใช้บริการได้ทันที--จบ-- -ตม-

ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+หลักประกันสุขภาพวันนี้

กรมอนามัย เดินหน้าส่งเสริมสุขภาพ LGBTQ+ เชิงรุกต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวชุดความรู้เพื่อความหลากหลายทางเพศ พ.ค.นี้

นพ.ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงานเสวนาเชิงนโยบาย "การสร้างความร่วมมือเพื่อสุขภาวะคนข้ามเพศอย่างยั่งยืน" ในการประชุมระดับชาติ : สุขภาวะของคนข้ามเพศ (ข้ามเพศมีสุข) ครั้งที่ 2 พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนแวนชั่น กทม. เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 โอกาสนี้

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักทันตสา... 'ปลดล็อก' การเข้าถึงบริการทันตกรรม กรมอนามัยจับมือภาคีเครือข่าย นำทีมหมอฟันลุย 'บ้านราชาวดี' — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักทันตสาธารณสุข ร่วมกับ 8 ...

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... 'เดชอิศม์' ระดมทันตแพทย์ มอบฟันเทียม 45,000 รายทั่วประเทศ เป็นของขวัญวันผู้สูงอายุ — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกระ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคั... กรมอนามัย ย้ำ น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดภัย — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคัญของน้ำประปาที่มีคุณภาพต่อสุขภาพของประ...