ตลท.ประกาศผลการพิจารณาบล.กิมเอ็ง บล.ซีมิโก้ และบล.ยูโอบี เคย์เฮียน กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดและลงโทษเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ได้พิจารณาความผิดและลงโทษบริษัทสมาชิก 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และพบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เรื่อง ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของ 3 บริษัท นอกจากนี้ยังได้พิจารณาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่งอย่างรอบคอบแล้ว อาศัยอำนาจตามความในข้อ 18 , 25 , 27 และ 28 แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ สมาชิกพ.ศ.2545 ลงวันที่ 11 มกราคม 2545 มีมติให้ลงโทษ 3 บริษัทดังกล่าวตามรายการที่แตกต่างกัน "สำหรับกรณีบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า 1.เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทโอนรายการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีผลขาดทุนหรือเท่าทุนของลูกค้าเข้าบัญชีบริษัท ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายเกินสมควรและผิดไปจากการประกอบธุรกิจปกติ ทำให้บริษัทต้องรับภาระแทนลูกค้า 2.บริษัทรับลูกค้ามาเป็นพนักงานโดยไม่กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบที่ชัดเจน ซึ่งพิจารณาว่าเพื่อให้ประโยชน์แก่ลูกค้าในรูปของเงินเดือน 3.บริษัทติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่ลูกค้าโดยมิได้เร่งดำเนินการเรียกคืนเมื่อข้อบังคับฯ มีผลบังคับใช้ 4.บริษัทจ่ายผลตอบแทนงวดไตรมาส 1 ปี 2545 ให้แก่เจ้าหน้าที่การตลาด สูงกว่าร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียม เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำเงินเดือนและค่าวิชาชีพมาหักออกจากผลตอบแทน 5.บริษัทยินยอมให้เจ้าหน้าที่การตลาดรับโอนบัญชีลูกค้าและมูลค่าการซื้อของลูกค้าย้อนหลังจากเจ้าหน้าที่การตลาดรายอื่น เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดผู้รับโอนได้รับผลตอบแทนเกินกว่าร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 6.บริษัทจ่ายผลตอบแทน (Bonus) ให้แก่ผู้จัดการสาขา/หัวหน้าทีมการตลาดเป็นจำนวนเงินที่สูง ซึ่งขาดความเหมาะสมและมีลักษณะเข้าข่ายไม่ใช่การจ่ายโบนัสตามปกติ จากข้อมูลดังกล่าวคณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติให้ดำเนินการลงโทษปรับบริษัทเป็นจำนวน 5,000,000 บาท พร้อมทั้งรอการลงโทษผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 90 วัน โดยหากปรากฎว่าบุคคลดังกล่าวมีส่วนร่วมในการดำเนินการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าวอีกในช่วงเวลา 90 วันนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์แจ้งให้บริษัททราบ ก็จะกำหนดโทษให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการดำรงตำแหน่งตามข้อ 27 แห่งข้อบังคับดังกล่าว นอกจากนี้ยังห้ามเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 2 รายปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่รับอนุญาตของบริษัทเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน และอีก 2 รายเป็นเวลา 60 วัน รวมทั้งให้ภาคทัณฑ์เจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 1 ราย" นายกิตติรัตน์กล่าว นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติให้กำชับบริษัทสำหรับการปฎิบัติงานในเรื่องการคิดดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance) การคิดค่าธรรมเนียมจากลูกค้ากรณีการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์การคิดค่าธรรมเนียมจากลูกค้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบ PROFIT การปฏิบัติงานของหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงานของสมาชิก (Compliance Unit) และการจัดเก็บใบคำขอแก้ไขรายการ (Change Order) ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้บริษัทกำชับผู้บริหารของบริษัทจำนวน 5 ราย ให้กำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของบริษัทในเรื่องต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และให้กำชับ เจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 29 ราย ให้ปฏิบัติงานในเรื่องการโอนย้ายบัญชีลูกค้าและมูลค่าการซื้อขายของลูกค้าให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด "ส่วนกรณี บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ประกอบคำชี้แจงของบริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) แล้วพบว่า 1. บริษัทยินยอมให้เจ้าหน้าที่การตลาดรับโอนบัญชีลูกค้าและมูลค่าการซื้อของลูกค้าย้อนหลังจากเจ้าหน้าที่การตลาดรายอื่น เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดผู้รับโอนได้รับผลตอบแทนเกินกว่าร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 2. บริษัทยินยอมให้เจ้าหน้าที่การตลาดนำลูกค้ามาเปิดบัญชีซื้อขายกับบริษัทในขณะที่เจ้าหน้าที่การตลาดรายดังกล่าวยังปฏิบัติงานอยู่ที่บริษัทหลักทรัพย์เดิม และบริษัทได้คำนวณ Incentive โดยรวมมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่การตลาดยังไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัท 3. บริษัทยินยอมให้มีการเบิกค่ารับรองลูกค้าที่มิใช่การให้บริการตามปกติของการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 4. ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง มิได้กำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทในเรื่องการโอนย้ายบัญชีลูกค้าและมูลค่าการซื้อขายของลูกค้าระหว่างเจ้าหน้าที่การตลาด การเปิดบัญชีซื้อขายของลูกค้าของพนักงานใหม่ และการเบิกค่ารับรองให้เหมาะสมรัดกุมอย่างเพียงพอ "จากข้อมูลดังกล่าวคณะอนุกรรมการฯ มีมติให้ดำเนินการลงโทษปรับบริษัทเป็นเงิน 2,730,000 บาท และสำหรับผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง 2 ราย เห็นควรรอการลงโทษ โดยหากปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวมีส่วนร่วมในการดำเนินการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าวอีกในช่วงระยะเวลา 30 วัน หรือ 60 วัน แล้วแต่กรณีนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์แจ้งให้บริษัททราบ ก็จะกำหนดโทษให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการดำรงตำแหน่งตามข้อ 27 แห่งข้อบังคับดังกล่าว นอกจากนี้ ยังให้บริษัทดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่การตลาดผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยห้ามเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 1 ราย ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่รับอนุญาตของบริษัทเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 45 วัน ห้ามเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 1 ราย ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่รับอนุญาตของบริษัทเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 30 วัน และภาคทัณฑ์เจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 2 ราย รวมทั้งมีมติให้กำชับผู้บริหารของบริษัทให้กำกับดูแลและตรวจสอบการปฎิบัติงานของบริษัทให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัดต่อไป และให้กำชับเจ้าหน้าที่การตลาดให้ปฎิบัติงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด" กรรมการและผู้จัดการกล่าว สำหรับ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า 1. ผู้จัดการสาขาของบริษัทที่รับผลตอบแทนแบบ Salary Based ได้โอนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ย้อนหลังในช่วงที่ตนดูแลลูกค้าให้เจ้าหน้าที่การตลาดรายอื่น เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดผู้รับโอนได้รับผลตอบแทนเกินกว่าอัตราร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 2. บริษัทโอนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับเจ้าหน้าที่การตลาดที่ใบอนุญาตการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหมดอายุ ทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวได้รับผลตอบแทนเกินกว่าอัตราร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 3. บริษัทคำนวณผลตอบแทนให้เจ้าหน้าที่การตลาดที่รับผลตอบแทนแบบ Incentive ผิดพลาดทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดได้รับผลตอบแทนเกินกว่าอัตราร้อยละ 25 ของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 4. บริษัทจ่ายผลตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่การตลาดที่ดูแลลูกค้าสถาบันในระบบ Incentive ตามปริมาณการ ซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าสถาบันแบบกลุ่ม (Pool) 5. สำหรับผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตามข้อ 27 แห่งข้อบังคับดังกล่าว คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมิได้กำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทในเรื่องการคำนวณผลตอบแทนให้เจ้าหน้าที่การตลาดให้เหมาะสม รัดกุมเพียงพอ "จากข้อมูลดังกล่าวคณะอนุกรรมการฯ มีมติให้ลงโทษปรับบริษัทเป็นเงิน 500,000 บาท และ ภาคทัณฑ์บริษัทในเรื่องการคำนวณผลตอบแทน (Incentive) ผิดพลาด ให้บริษัทกำชับผู้บริหารที่เกี่ยวข้องให้กำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของบริษัทให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัดต่อไป และกำชับเจ้าหน้าที่ของบริษัทให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่ง ได้ให้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ในการตรวจสอบเป็นอย่างดี และยืนยันจะจัดระบบการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทให้รัดกุมมากขึ้น" นายกิตติรัตน์กล่าว ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / จิวัสสา ติปยานนท์ โทร. 0-2229 - 2039--จบ-- -ศน-

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียนวันนี้

"เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการ งานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน ร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรม "Happy Money Sharing: Financial Well-Being Journey 2025" จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ส่งเสริมความรู้ทางการเงินในองค์กร แก่ผู้แทนองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งหมด 28 องค์กร ให้สามารถไปปรับใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับพนักงานในองค์กร สมาชิกในชุมชน หรือประชาชนทั่ว

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที... "MEDEZE" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024 — นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื...

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเ... SAFE โชว์กำไรฯปี 67 แตะ 167.09 ลบ. จ่ายปันผล 0.62 บ./หุ้น — นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวชนิดา พัธโนทัย (ขวา) ประธา...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" ฉายภาพธุรกิจ งาน Opp Day โชว์กำไรปี 67 โตแรง 169% — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอชิตเดช อาชาไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่...