เคเอฟดับบลิว พบนายกฯ สนับสนุนการเปิดเสรีโทรคมนาคมไทย

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์ นายฮานส์ ไรค์ (Mr. Hans W. Reich) ประธานธนาคาร KfW แห่งประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาลเยอรมัน ให้การสนับสนุนเงินทุนธุรกิจ SMEs การเคหะ และสาธารณูปโภคในเยอรมันนี นอกจากนั้นยังสนับสนุนวางแผนพัฒนาธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมทั้งให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนของรัฐบาลเยอรมัน ในด้านสาธารณูปโภคและกิจการโทรคมนาคมในอีกหลายประเทศ ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยและมีโอกาสได้เข้าพบ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร (ไอซีที) น.พ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เมื่อเร็วๆ นี้ นายฮานส์ ไรค์ ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจโทรคมนาคม ในระหว่างการเดินทางมาเยือนประเทศไทยว่า ในประเทศเยอรมัน มีการเปิดเสรีโทรคมนาคมในยุค 1990 และ เคเอฟดับบลิว มีประสบการณ์อย่างมากในการประมูลใบอนุญาตในธุรกิจโทรคมนาคม โดยเฉพาะใบอนุญาตโทรศัพท์ระบบ 3G จากรัฐบาลเยอรมัน การประมูลครั้งนั้นเป็นที่พอใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากสำหรับผู้ประกอบการทั้งที่เคยดำเนินกิจการแบบผูกขาดในตลาดรายเดิม และผู้ประกอบการรายใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายล้มละลาย ไม่สามารถนำเทคโนโลยี 3G มาให้บริการเหมือนที่ตั้งเป้าหมายไว้ระหว่างการหารือกับ รมต. ไอซีที ของไทย นายไรค์ ได้ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนับเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งของการเปิดเสรีกิจการโทรคมนาคมไทยและกับผู้ลงทุนเอง โดยควรมีต้นทุนต่ำเพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถแข่งขันได้ในตลาดได้โดยเท่าเทียมกัน นายไรค์ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องคำนึงถึงการเปิดเสรีที่มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน หมายถึงผู้ประกอบการรายเก่า และรายใหม่ ต้องพร้อมเผชิญหน้ากับการแข่งขัน โดยยอมรับสภาพที่จะต้องแข่งขันโดยเท่าเทียมกัน ผู้ประกอบการที่ล้าหลังต้องรีบปรับตัว ปรับโครงสร้างต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้ดำเนินการปรับตัวดังกล่าวแล้ว อาจได้เปรียบรายอื่นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต้องลงมือในทันที มิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสแข่งขันในตลาดของการบริการด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไป ทั้งนี้ตลาดของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมเป็นสาธารณูปโภคหลักที่จะดึงดูดนักลงทุนได้เป็นอย่างดี สำหรับประเทศไทยที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับค่าสัมปทาน และสัญญาสัมปทานที่ใช้รูปแบบ BTO (Build – Transfer – Operate) ซึ่งไม่เหมือนประเทศใดในโลก ที่ใช้รูปแบบ BOT (Build – Operate – Transfer) นั้น ถ้าเปรียบเทียบกับในประเทศเยอรมัน เขาเห็นว่า ค่าสัมปทานในเยอรมันแพงมาก จนบิดเบือนตลาดทำให้ไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่รัฐจะมุ่งเน้นในการเก็บค่าสัมปทานสูงเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงการจัดเก็บค่าสัมปทานที่เท่าเทียมกัน และทำให้ผู้ประกอบการทุกรายอยู่ได้ รวมทั้งให้สามารถมีทุนเหลือไปใช้ลงทุนต่อได้เป็นที่ทราบกันว่า ปัจจุบันตลาดเงินทุนผันแปรมาก ดังนั้น จึงไม่มีธนาคารใดที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม หากรัฐจัดเก็บค่าสัมปทานสูง และให้ผู้ประกอบการจ่ายทันที ผู้ประกอบการจะไม่สามารถลงทุนในกิจการได้ จึงควรให้มีการทยอยจ่ายค่าสัมปทานอย่างคงที่ และต่อเนื่องไปตลอดระยะเวลานานๆ แทนที่จะให้มีการจ่ายงวดเดียวทุกวันนี้ กิจการโทรคมนาคมในเยอรมัน มีองค์กรอิสระ คอยกำกับดูแล และกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้หน่วยงานของรัฐที่เคยผูกขาดในการใช้โครงข่ายระหว่างกัน 6 ปีที่ผ่านมากับการเปิดเสรีโทรคมนาคมในประเทศเยอรมัน ทำให้ประชาชนมีโทรศัพท์ใช้มากขึ้น ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่มีพัฒนาการขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพัฒนาการของโทรศัพท์บ้านด้วย เพื่อใช้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังมีพัฒนาการของเทคโนโลยี DSL (อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) ขึ้นอย่างมากด้วยจะเห็นได้ว่า การเปิดเสรีมีส่วนช่วยผลักดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก ทั้งด้านผู้ประกอบการ การให้บริการและเทคโนโลยี สำหรับประเทศไทยที่กำลังจะดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และเปิดเสรีโทรคมนาคม นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งหากดำเนินการได้อย่างเหมาะสม และให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสลงทุน และพัฒนาโครงข่ายรวมทั้ง ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้มีพัฒนาการด้านโทรคมนาคมสูงขึ้นมาก จะส่งผลให้ประเทศไทยมีระบบโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ มีโครงข่ายที่ดีและเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการตัดสินใจของผู้จะมาลงทุนในประเทศไทย นักลงทุนในประเทศเยอรมันมีความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมไทยแน่นอน อย่าง KfW ก็เป็นผู้ลงทุนรายหนึ่งในกิจการโทรคมนาคมไทยอยู่แล้ว ซึ่งมีผู้จำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมจากเยอรมันสนใจที่จะเข้าร่วมถือหุ้น และเป็นพันธมิตรในการพัฒนาเทคโนโลยี และบริการโทรคมนาคมไทยต่อไปด้วย จากการพบปะกับระดับผู้นำประเทศของไทย เขาได้รับทราบว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเปิดเสรีโทรคมนาคมและตระหนักถึงความสำคัญของบริการโทรคมนาคมที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก นายไรค์ คิดว่า ยิ่งดำเนินการเปิดเสรีโทรคมนาคมช้าลงไปเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ประเทศไทยเสียหายมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเขาเข้าใจว่ารัฐบาลตระหนักในปัญหา และผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจระดับมหภาคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ายืดเยื้อนานเกินไป นักลงทุนจะมองประเทศไทยในด้านลบ KfW ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม และมีประสบการณ์ด้านนี้ในเอเชียอีกหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม อินเดีย ซึ่งหากเปรียบเทียบธุรกิจโทรคมนาคมไทยกับประเทศอื่นๆ แล้วเขาคิดว่าประเทศไทยได้เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว ถ้าทำส่วนที่เหลือซึ่งหมายถึง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปรสัญญา และการเปิดเสรีโทรคมนาคม ให้สำเร็จโดยเร็วก็จะได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในเอเซียอย่างมาก สื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ณัฐภรณ์ สถิรกุล ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ บริษัท กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์ จำกัด โทร. 02-905-1231-2, 02-570-6770-1 แฟ็กซ์ 02-905-1231 อีเมล์ [email protected] จบ-- -ศน-

• ข่าวกระทรวงเทคโนโลยี
• ข่าวกิจการโทรคมนาคม
• ข่าวทักษิณ ชินวัตร
• ข่าวรัฐบาลเยอรมัน
• ข่าวประเทศเยอรมัน