กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--เอ็มเอ็มซี สิทธิผล
อุตสาหกรรมยานยนต์ส่งออกครบ 5 เดือน ปรับตัวลดลง 4.39% แต่ยังกวาดรายได้กว่า 37,658 ล้านบาท เป็นรถยนต์สำเร็จรูป 62,939 คัน มิตซูบิชิส่งออกอันดับหนึ่ง ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 38.84% ตามด้วยออโต้อัลลายแอนซ์ และเจเนอรัล มอเตอร์ส ตามลำดับ ด้านตลาดส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนประกอบมีมูลค่าทั้งสิ้น 9,092.91 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มอีก 5.62% ด้านยอดผลิตรถยนต์ปรับตัวเพิ่มอีก 22.07%
ดร. วัชระ พรรณเชษฐ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ประเทศไทย เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกรวม 5 เดือน(มกราคม-พฤษภาคม) ของปี 2545 มียอดการส่งออกทั้งสิ้นมูลค่า 37,658.83 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4.39% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2544) แบ่งเป็นรถยนต์สำเร็จรูป 62,939 คัน ปรับตัวลดลง 2.94% ด้านตลาดส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนประกอบมีมูลค่าทั้งสิ้น 9,092.91 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5.62% และสำหรับยอดส่งออกสูงสุดอันดับ 1 ได้แก่ มิตซูบิชิ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 24,447 คัน มีมูลค่า 10,706.22 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.22% พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 38.84% อันดับ 2 ออโต้อัลลายแอนซ์ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 17,475 คัน มูลค่า 6,861.61 ล้านบาท มีการขยายตัว 6.74% มีส่วนแบ่งการตลาด 27.76% อันดับ 3 เจเนอรัล มอเตอร์ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 11,950 คัน มูลค่า 7,056.07 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 23.17% มีส่วนแบ่งตลาด 18.99%
และสำหรับยอดส่งออกเดือนพฤษภาคม มีมูลค่าส่งออก 8,204.37 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.85% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2544) โดยมียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 13,968 คัน มูลค่า 6,294.40 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 7% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2544) ส่วนของตลาดส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนประกอบมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,909.97 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.23% โดยอันดับ 1 มิตซูบิชิส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 5,995 คัน มูลค่า 2,609.64 ล้านบาท มีการขยายตัวเพิ่ม 63.31% มีส่วนแบ่งการตลาด 42.92% ตามมาด้วยออโต้อัลลายแอนซ์ ส่งออก 4,384 คัน มูลค่า 1,721.69 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่ม 50.55% ครองส่วนแบ่ง 31.39% และอันดับ 3 เจเนอรัล มอเตอร์ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,832 คัน มูลค่า 1,038.74 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 56.38% มีส่วนแบ่งตลาด 13.12% ในส่วนของยอดผลิตรถยนต์รวม (มกราคม-พฤษภาคม) มีจำนวนทั้งสิ้น 193,846 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.08% (ปี 2544 มียอดผลิต 177,714 คัน) และสำหรับยอดผลิตในเดือนพฤษภาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 45,500 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.07% (เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2544 จำนวน 37,273 คัน) สำหรับยอดผลิตสูงสุดในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ โตโยต้า 11,363 คัน อันดับ 2 มิตซูบิชิ 9,188 คัน และออโต้อัลลายแอนซ์ 6,158 คัน ตามลำดับ
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :
ปกครอง ทองรักษ์
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (แตน,โจ,นุ้ย,ซิม)
โทรศัพท์ 0-2908-8000 ต่อ 8390-8395--จบ--
-อน-