กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--สำนักโฆษกฯ
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการออกพันธบัตรธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติอนุมัติ ดังนี้
1. อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินในประเทศ เพื่อโครงการสินเชื่อเคหะรวมใจ วงเงิน 8,000ล้านบาท และเพื่อการดำเนินงานปกติ วงเงิน 4,000 ล้านบาท เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 12,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
2. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินโครงการสินเชื่อเคหะรวมใจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นมาตรการฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และเนื่องจากในมาตรการดังกล่าวกำหนดให้ ธอส. ออกพันธบัตรใหม่เพื่อชดเชยพันธบัตรเดิมที่ครบกำหนดชำระเพื่อสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ให้แก่ลูกค้าในงวดต่อ ๆ ไป ทุก 3 ปี หรือ 5 ปี ตามต้นทุนพันธบัตรที่ออกใหม่ (effective cost) บวกร้อยละ 2.50 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 30 ปี จึงเห็นควรให้ ธอส. ระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรใหม่เพื่อชดเชยพันธบัตรเดิมที่ครบกำหนดชำระตามโครงการสินเชื่อเคหะรวมใจ โดยทยอยออกพันธบัตรภายในวงเงินไม่เกินวงเงินที่ครบกำหนดชำระในแต่ละงวดซึ่งคิดเป็นเงินรวม 8,000 ล้านบาท
ในส่วนของการระดมทุนเพื่อการดำเนินงานปกติของธนาคารฯ ในปี 2546 จำนวน 4,000 ล้านบาท นั้นธอส. จะมีพันธบัตรที่ครบกำหนดชำระคืน จำนวน 9,000 ล้านบาท แต่ ธอส. มีปริมาณสภาพคล่องคงเหลือในขณะนี้ประมาณ 5,900 ล้านบาท จึงขอกู้ในปี 2546 เพียงจำนวน 4,000 ล้านบาท ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ การระดมทุนโดยการออกพันธบัตร จึงน่าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดี ในขณะเดียวกันการระดมทุนโดยการออกพันธบัตรจะมีอายุที่ยาวนานกว่าการระดมทุนจากเงินฝาก ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหา Mismatch Fund จึงเห็นควรให้ ธอส. ระดมทุนโดยการออกพันธบัตรเพื่อการดำเนินงานปกติของธนาคารฯ วงเงินจำนวน 4,000 ล้านบาท--จบ--
-สส-