กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--แอล.พี.เอ็น.ฯ
ลุมพินี ทาวเวอร์ - แอล.พี.เอ็น.ฯ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2545 ประกาศ ผลกำไรกว่า 65 ล้านบาท เป็นผลจากศักยภาพ
การพัฒนาและบริหารโครงการอาคารชุด รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการลุมพินี เพลส สาทร พร้อมรุก 4 โครงการใหม่ปีนี้ เพื่อการ
รับรู้รายได้ กว่า 1,600 บาทในปี 2546
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงผลประกอบการไตรมาสที่ 2
ประจำปี 2545 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 698.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2544 ที่มีรายได้รวม 107.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
จำนวน 591.02 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 594.17 และมีผลกำไรในไตรมาสที่ 2 ปี 2545 เท่ากับ 65.46 ล้านบาท ดีขึ้นจากการขาดทุน 16.54
ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 495.77 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด
โครงการลุมพินี เพลส สาทร และบางส่วนจากลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์ กับโครงการ พี.เอส.ที. ซิตี้โฮม นอกจากนี้ยังมีกำไรขั้นต้นจากการ
ขายเฉลี่ยร้อยละ 17.86 ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 5.94 ของไตรมาส ที่ 2 ปี 2544
สำหรับแนวโน้มการลงทุนของบริษัทในปี 2545 นั้น กรรมการผู้จัดการกล่าวว่า ณ ปัจจุบันถือว่าภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ
อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาล ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยยัง
อยู่ในทิศทางที่ลดลงทำให้ความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในตลาดมุ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแนวราบ
เท่านั้น ในขณะที่ยังมีความต้องการด้านที่พักอาศัยในรูปแบบของคอนโดมีเนียมอยู่ ดังนั้นจึงถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่สำคัญของบริษัทฯ และเป็นที่
มาของนโยบายการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยใจกลางเมืองบนทำเลที่มีศักยภาพสูง ดังนั้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ บริษัทฯ จึงมีแผน
พัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยเพิ่มเติมอีก 4 โครงการบนทำเลที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการพักอาศัย ได้แก่ โครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์
เฟส 4 และโครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ ลาดพร้าว 111 ที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวัน ศุกร์ที่ 16 สิงหาคม นี้ โดยมีมูลค่ารวมของทั้ง 2
โครงการ เท่ากับ 600 ล้านบาท อีกทั้งในเดือนตุลาคม 2545 คาดว่าจะเปิดอีก 2 โครงการ คือ โครงการลุมพินี เพลส สวนพลู และโครงการ
ลุมพินี เพลส สุขุมวิท 24 ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 1,070 ล้านบาท และจะส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้ ในปี 2546 เป็นมูลค่ากว่า 1,600
ล้านบาท และสำหรับการรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้จะเป็นการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธ์ห้องชุดโครงการลุมพินี เพลส
วอเตอร์คลิฟ โครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์และบางส่วนจากโครงการลุมพินี เพลส สาทร มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินงานของบริษัทตลอดปี 2545 คือ (1) ไม่เพิ่มการถือครองที่ดินในระยะยาว โดยจะพัฒนาโครงการอาคารชุด
พักอาศัยขนาดความสูง 8-9 ชั้นระยะเวลาโครงการไม่เกิน 15 เดือน ซึ่งส่งผลดีทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ภายในระยะเวลาสั้น และช่วย
ลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อันอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต (2)เข้าร่วมทุนในการพัฒนา หรือ รับบริหารทรัพย์สินของสถาบันการเงินโดยเฉพาะโครงการที่
ถูกทิ้งร้าง (3) ขยายฐานธุรกิจด้านเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ การบริหารหลังการขาย การ
วิจัยและพัฒนา ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น กรรมการผู้จัดการกล่าวในที่สุด
ตารางสรุปตัวเลขที่สำคัญ
รายการ 2Q 2545 2Q 2544 %เปลี่ยนแปลง 6 เดือน 2545 6 เดือน 2544 %เปลี่ยนแปลง
1. รายได้รวม (ล้านบาท) 698.64 107.62 549.17% 781.14 338.72 130.62%
2. กำไรขั้นต้นจากการขาย (%) 17.86% 5.94% 11.92% 17.80% 5.27% 12.53%
3. กำไรขั้นต้นจากการเช่าและบริการ(%) 55.73% 48.85% 6.88% 55.31% 48.03% 7.28%
4. กำไรขั้นต้นจากการขาย เช่า 18.66% 12.43% 6.23% 19.21% 10.28% 8.93%
และบริการ (%)
5. กำไรก่อนดอกเบี้ย 92.20 (14.06) 755.76% 95.02 27.92 240.33%
และภาษีเงินได้ (ล้านบาท)
6. กำไรสุทธิ (ล้านบาท) 65.46 (16.54) 495.77% 116.09 23.67 390.45%
7. กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.93 (0.23) 504.35% 1.66 0.33 403.03%
8. มูลค่าหุ้นทางบัญชี (บาท) 16.43 7.48 119.65% 16.43 7.48 119.65%
ขอแสดงความนับถือ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิจิตร อวิรุทธิ์
แผนกประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2285-5011-6 ต่อ 103--จบ--
-ศน-