กทม.จัดสัมมนา ใช้ IT เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างรัฐกับประชาชน

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--กทม. เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.45 ) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร นายมุดตาฝ้า หมันงะ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว การสัมมนา “โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างกรุงเทพมหานครกับประชาชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ” โดยมี ดร.สิทธิพร ดาดาษ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (ISEP) ผู้แทนสหภาพ ยุโรป (EU) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จากองค์กรต่าง ๆ และสถาบันการศึกษาในประเทศสหภาพยุโรป ร่วมแถลงข่าว รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามร่างแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2545-2549) ได้กำหนดพันธกิจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของกรุงเทพมหานคร โดยให้มีการส่งเสริมการสร้างระบบเครือข่ายหลักด้านสารสนเทศของกทม.การพัฒนามาตรฐานข้อมูลกลางด้านสารสนเทศ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ แผนพัฒนาฉบับดังกล่าวได้เน้นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพื่อให้หน่วยงานของกทม. และหน่วยงานภายนอก รวมถึงประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ ตลอดจนเน้นการจัดทำข้อมูลในรูปดิจิตอล เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากการประมวลผลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้เต็มที่ เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจดังกล่าวกรุงเทพมหานครจึงได้ร่วมกับสถาบันนโยบายเศรษฐกิจและสังคม (ISEP) โดยการสนับสนุนของสหภาพยุโรป และบริษัท ASIA IT & C จำกัด จัดการสัมมนาตามโครงการ “การพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างกทม. กับประชาชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ” ในวันที่ 5-6 มีนาคม 2545 เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรม ปริ้นซ์ พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า เมื่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกทม.ได้รับการพัฒนาตามโครงการ “การพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างกทม. กับประชาชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ” จะทำให้ประชาชนได้รับข้อมูล ข่าวสาร การให้บริการด้านต่างๆ ฯลฯ ของกทม. ที่รวดเร็ว ถูกต้อง ชัดเจน ส่งผลให้การสื่อสารด้วยระบบ IT เป็นไปอย่างกว้างขวางเหมือนในต่างประเทศ และการสื่อสารด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทยได้รับความนิยมแพร่หลาย ตลอดจนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป ดร.สิทธิพร กล่าวว่า สถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (ISEP) เป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความร่วมมือกรุงเทพมหานครจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 จึงได้ทราบปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศของกทม. ทั้งการติดต่อสื่อสารภายในและภายนอกองค์กร ตลอดจนการสื่อสารกับประชาชน รวมถึงอุปสรรคจากโครงสร้างที่ซับซ้อนของหน่วยงาน อุปสรรคด้านบุคลากรและด้านงบประมาณ สถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจได้นำปัญหานี้หารือกับทางสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งทางสหภาพฯ เล็งเห็นความสำคัญและพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยสนับสนุนงบประมาณจัดการสัมมนาฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน อันเป็นแนวทางที่ดำเนินการประสบความสำเร็จมาแล้วในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป สำหรับเนื้อหาการสัมมนาประกอบด้วย “ปัญหาการติดต่อสื่อสารระหว่างกรุงเทพมหานครกับประชาชน” “แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างกรุงเทพมหานครกับประชาชนด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6” กรณีศึกษา เรื่อง “การสื่อสารระหว่างภาครัฐกับประชาชนในยุโรป” รวมทั้งมีการสาธิตการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และแนะนำวิธีใช้อีกด้วย สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาในวันที่ 5 มี.ค. 45 เป็นข้าราชการกทม. ระดับผู้บริหารสำนัก สำนักงานเขต และประชาชน รวม 117 คน ส่วนผู้ร่วมสัมมนาในวันที่ 6 มี.ค. 45 เป็นข้าราชการกทม.ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศจากสำนักและสำนักงานเขต จำนวน 63 คน Mr.Johan Canwenbergh ผู้แทนสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า สหภาพยุโรปให้ความสำคัญกับการบริหารงาน แบบ E- government คือ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้เชื่อมโยง การติดต่อสื่อสารระหว่างรัฐบาลกับหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชน ทำให้การดำเนินงานของรัฐบาลมีความโปร่งใส เป็นการสื่อสาร 2 ทางที่ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการทำงานของรัฐได้ รวมถึงสามารถแสดงความคิดเห็น แจ้งข้อร้องเรียนให้รัฐทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รัฐสามารถให้บริการได้ตรงตามความต้องการของประชาชน ซึ่งจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ ปัจจุบันเว็บไซต์ของสหภาพยุโรป ได้แก่ http://europa.eu.int มีผู้คนจากทั่วโลกเข้าไปเยี่ยมชมถึง 350 ล้านครั้งต่อเดือน รวมทั้งได้มีการนำการสื่อสารผ่านดาวเทียมมาใช้พัฒนาระบบการสื่อสารของรัฐอีกด้วย สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ทางสหภาพยุโรปพร้อมสนับสนุนการริเริ่มการบริหารงานแบบ E- government ในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการของรัฐมากยิ่งขึ้น--จบ-- -นห-

ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร+เทคโนโลยีสารสนเทศวันนี้

เขตวัฒนาเร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำรางสาธารณะใน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 20 ตามคำพิพากษาศาลปกครอง

นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวกรณีศาลปกครองกลางมี คำพิพากษาให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขตวัฒนา รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างของโรงเรียนนานาชาติในซอยปรีดีพนมยงค์ 20 เขตวัฒนา ที่รุกล้ำลำรางสาธารณะภายใน 60 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุดว่า สำนักงานเขตฯ ได้เร่งดำเนินการตามคำพิพากษาดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 68 เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างตามรายการที่ 22 ซึ่งเป็นรั้วคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) จำนวน 3 จุด พบว่า ยังมีรั้วส่วนล่างที่ยังไม่

นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ... กทม. คุมเข้มร้านอาหาร-หาบเร่แผงลอยไม่ปล่อยทิ้งไขมัน-น้ำเสียลงคลองและท่อระบายน้ำ — นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเพิ...

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ... กลุ่มบริษัทบางจาก ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ที่ศูนย์กีฬาเบญจกิติ — นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนแล...

ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตอกย้ำเจต... ผู้บริหารเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมแสดงความยินดีเป็นส่วนหนึ่งของภาพประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียม — ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตอกย้ำเจตนารมย์ในการสนับสน...

กทม. เตรียมสรุปผลสอบวินัยร้ายแรงโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายฯ

นางฐิติชยา อนันต์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเจ้าหน้าที่ (สกจ.) สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญกระทำผิดวินัยในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์...

นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร... เอ็ม บี เค ร่วมมูลนิธิช่วยการศึกษา กทม.สนับสนุนทุนการศึกษา 404 ทุน — นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า (ที่ 7 จากซ้าย) จำกัด เป็น...