กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--กทม.
เมื่อวานนี้ (5 ก.พ.45) เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรม “19 มหัศจรรย์แดนอีสาน” ที่ถนนสีลม โดยมี นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายชาญชัย โรหิตศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว
นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ทางรัฐบาลโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายปิดถนนสีลมอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้สานต่อนโยบายนั้น ในวันที่ 29 ม.ค.45 ทางรัฐบาล ททท.และกทม. จึงได้เชิญผู้ว่า ราชการจังหวัด 19 จังหวัดของภาคอีสานเข้าร่วมประชุม เพื่อปรึกษาหารือในการจัดเตรียมงาน “ปิดถนนนสีลม ตอน 19 มหัศจรรย์แดนอีสาน” ในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.พ.45 โดยให้แต่ละจังหวัดนำของดี ของเด่นของทางจังหวัดมาจัดแสดงบนถนนสีลม ซึ่งของดี ของเด่น ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ การนำเสนอวิถีชีวิตของแต่ละจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ และการแสดงซึ่งเป็น เอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดนั้น ๆ เพื่อเป็นการนำเสนอภาพของดีเมืองอีสานของประเทศไทย สู่สายตาประชาชนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยด้วย ทั้งนี้การนำกิจกรรมของแต่ละภาคมาแสดงนั้นจะจัด 3 เดือนต่อครั้ง โดยเริ่มต้นจากภาคอีสาน ภาคใต้และภาคกลางตามลำดับ
19 จังหวัดจากภาคอีสาน ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น จะนำหัตถกรรมพื้นบ้าน ได้แก่ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ ดอกไม้ประดิษฐ์ สมุนไพร มาจัดแสดง พร้อมด้วยการแสดงฟ้อนออนซอนซึ่งเป็นการสื่อถึงศิลปะ วัฒนธรรมของจังหวัด รวมทั้งยังมีการนำวิถีชีวิตชาวบ้านมานำเสนอ ในเรื่องราวของการผูกเสี่ยว จังหวัดหนองบัวลำภู จะนำหอยโบราณ 150 ล้านปี นิทรรศการเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ซึ่งจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ มีโอกาสลองขุดฟอสซิลไดโนเสาร์จำลอง รวมทั้งจะนำผ้าไหมที่ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เหยือกดื่มเขียวไม้ไผ่ ตะเกียบไม้ บวบมหัศจรรย์ และในส่วนของดนตรี พื้นเมือง อาทิ รำผักแกล้ม จังหวัดร้อยเอ็ด จะนำพลุ และดอกไม้ไฟที่สวยงาม ซึ่งผลิตโดยฝีมือคนไทยมาแสดง รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ข้าวหอมมะลิสุญญากาศ และสาธิตการทำข้าวเม่า โดยใช้ครกกระเดื่อง จังหวัดสุรินทร์ จะนำข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ 20 ลาย เครื่องเงินสุรินทร์ ผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักสาน หัวผักกาดปลอดสารพิษ และผลิตภัณฑ์จากดอกไม้ประดิษฐ์มาจัดแสดง พร้อมทั้งการแสดงพื้นเมืองอัปสราภูษาไหม ซึ่งมีการสอดแทรกพิธีกรรม ต่าง ๆ ของชาวสุรินทร์ที่น่าสนใจมาแสดง จังหวัดชัยภูมิ จะนำผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ผ้าหนองบัวแดง บ้านเว่า ผ้าไหม มาแสดง พร้อมด้วยนิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว อาทิ วนอุทยานป่าหินงาม ทุ่งดอกกระเจียว รวมทั้งการแสดงเป่าแคน และรำตำนาน จังหวัดหนองคาย จะนำผลิตภัณฑ์แหนมเนืองขึ้นชื่อของจังหวัด กรอบรูปไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารจากมะเขือเทศ กล้วย มาจำหน่ายและชมการแสดงที่หายาก จากการแสดงตำนานบั้งไฟพญานาค จังหวัดนครพนม จะมีการแสดง “แคน” ฟ้อนภูไทเรณูนคร ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาแม่น้ำโขง การสาธิตตำส้มตำลีลา และผลิตภัณฑ์เครื่องดนตรีพื้นเมืองทำจากไม้ไผ่ ทั้งขนาดปกติและขนาดจิ๋ว จังหวัดบุรีรัมย์ จะมีนิทรรศการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ปราสาทหินพนมรุ้ง รวมทั้งระบำ ที่ น่าสนใจ ในชื่อ ระบำพนมรุ้ง
จังหวัดยโสธร จะนำพิธีบุญบั้งไฟมาแสดง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์หลักของจังหวัดอีก 21 ชนิด ร่วมด้วยการแสดงลำเพลิน และการแสดงวงโปงลางที่ยิ่งใหญ่ จังหวัดเลย นำกระชายดำ สมุนไพรไทย หัตถกรรมจักสานมาแสดง ในส่วนของศิลปะจะมี ผีตาโขน และจะมีการเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ได้แก่ ภูแปลก เป็นต้น จังหวัดอุบลราชธานี จะนำผ้าไหม ผ้ากาบบัว หัตถกรรมถักทอ หมวก ตุ๊กตาเชือกปอมาแสดง พร้อมด้วยโปงลาง และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ ผาแต้ม แม่น้ำสองสี เป็นต้น จังหวัดศรีสะเกษ จะนำเครื่องจักสาน ไข่เค็มใบเตย ข้าวหอมมะลิ ผ้าไหม มาแสดง ส่วนการแสดง อาทิ กันตึม พร้อมด้วยการสาธิตการทำคุน้อยเกวียนน้อย และรำศรีพุทเธศวร เป็นต้น จังหวัดสกลนคร จะนำผ้าฝ้ายย้อมสีมาแสดง พร้อมด้วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ วัดต่าง ๆ รวมไปถึงประเพณีการแห่ประสาทผึ้ง การแสดงวิถีชีวิตของชาวเผ่า พร้อมการแสดงที่น่าตื่นเต้น เช่น รำหกเผ่า รำมวยโบราณ และสาธิตการปั้นดินทำเซรามิก รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากข้าว กข 6 ข้าวฮาง ข้าวเจ้าหอมมะลิ จังหวัดมหาสารคาม จะนำผ้าไหม เสื่อกก มาแสดง รวมไปถึงการแสดงรำบุญจำปาศรี และมีการสาธิต การทำเครื่องจักสาน กระติบข้าว เป็นต้น จังหวัดมุกดาหาร จะนำผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย และเครื่องจักสานมาแสดง รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์อาหารที่ขึ้นชื่อมาแสดง เช่น กะลาแม มะขามหวาน รวมทั้งการแสดงลำพญา ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ จะนำผ้าไหมแพรวา ไส้กรอกปลาที่เอร็ดอร่อยของภาคอีสาน มาแสดงรวมไปถึงการแสดงดนตรีโปงลางเลื่องชื่อ จังหวัดอำนาจเจริญ จะนำผ้าฝ้ายลายขิด 72 ลายมาแสดง รวมทั้งนำผ้าฝ้ายซึ่งนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป พร้อมทั้งจำหน่ายข้าวกล้องซ้อมมือ เครื่องจักสาน และสาธิตการแสดการสีข้าวซ้อมมือ วิถีชีวิตของชาวอีสานพื้นบ้านที่น่าสนใจ จังหวัดอุดรธานี นำความน่าสนใจในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่แฝงตำนาน เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท บ้านเชียง พร้อมนำข้อคิดธรรมะของหลวงตามหาบัว มาเผยแพร่ภายในงาน รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์ของดีในจังหวัด อย่างเช่นผ้าไหมขิด ผ้าย้อมคราม แจ่วบอง มะม่วงแช่อิ่ม มาร่วมจำหน่ายภายในงาน--จบ--
-นห-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit