ทีเอ แจ้งผลกำไรจากการดำเนินงานปกติ (ก่อนรวมรายการพิเศษอื่นๆ) จำนวน 165 ล้านบาทสำหรับไตรมาสที่ 1/2545

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ทีเอ วันที่ 14 พฤษภาคม 2545, บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ ได้แจ้งผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับงวดไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2545 โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติ 165 ล้านบาท แต่ยังคงมีผลประกอบการขาดทุนในภาพรวมอยู่ 6,253 ล้านบาท โดยเป็นผลขาดทุนจากรายการพิเศษ 2 รายการ จำนวน 7,284 ล้านบาท และจากผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกประมาณ 857 ล้านบาท นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า "เราดีใจที่บริษัทฯ สามารถทำกำไรจากผลการดำเนินงานปกติได้ก่อนระยะเวลาที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าบริษัทฯ ยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าผลประกอบการในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่บริษัทฯ ก็มีความเชื่อมั่นในศักยภาพที่จะทำกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ หากไม่นับรวม TA Orange ผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาสนี้มาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของธุรกิจหลักต่างๆ ของบริษัทฯ รวมทั้งบริษัทย่อยที่ทีเอลงทุน คือ TA Orange ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ UBC ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก หรือ เคเบิลทีวี โดยผลการดำเนินงานในธุรกิจหลักและบริษัทย่อยดังกล่าวในไตรมาสที่ 1/2545 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1/2544 ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ดังนี้ รายได้ เติบโตขึ้น 631 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 10% โดยมีรายได้รวมเป็น 5,480 ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้จาก TA Orange จำนวน 132 ล้านบาท) การเติบโตของรายได้ดังกล่าว มาจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน มีรายได้เพิ่มขึ้น 3.7 % คิดเป็น 140 ล้านบาท ธุรกิจโครงข่ายข้อมูลดิจิตอล (DDN : Digital Data Network) มีรายได้เพิ่มขึ้น 146 % คิดเป็น 142 ล้านบาท โทรศัพท์พกพาพีซีที มีรายได้เพิ่มขึ้น 20.6 % คิดเป็น 129 ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์) นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจรับเหมางานก่อสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น 279 % คิดเป็น 192 ล้านบาท EBITDA margin บริษัทฯ สามารถรักษาอัตราการทำกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) ที่ระดับ 54.9 % เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ทำให้มี EBITDA เพิ่มขึ้นถึง 16 % จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว หรือคิดเป็นจำนวนเงินได้ 2,982 ล้านบาท ดอกเบี้ย จ่ายลดลง 455 ล้านบาท หรือ 33 % ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากอัตราดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ย LIBOR และบางส่วนมาจากการแข็งค่าของเงินบาท รวมทั้ง บริษัทฯ มีจำนวนหนี้ลดลง เนื่องจากมีการจ่ายคืนหนี้ไปบางส่วนด้วย TA Orange ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งทีเอถือหุ้นจำนวน 41% นั้น ในไตรมาสนี้ ทีเอ บันทึกผลกำไรในงบการเงินรวม จำนวน 331 ล้านบาท หลังจากหักค่าความนิยมติดลบ (Negative goodwill) ของ TA Orange จำนวน 719 ล้านบาทแล้ว UBC ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก หรือ เคเบิลทีวี ซึ่งทีเอถือหุ้นจำนวน 41 % นั้น ทีเอรับรู้ผลการขาดทุนรวม 106 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นการรับรู้ในผลขาดทุน 12 ล้านบาท และหักค่าความนิยม (goodwill) ตัดจ่ายไป จำนวน 94 ล้านบาทด้วย นายศุภชัยกล่าวเสริมว่า การที่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ Orange ประสบความสำเร็จในการเปิดตัว ทำให้กลุ่มเทเลคอมเอเซียเป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ครบวงจรอย่างแท้จริง กล่าวคือเป็นผู้ประกอบการทั้งธุรกิจโทรคมนาคมแบบมีสายและไร้สาย รายเดียวในประเทศไทย ปัจจุบัน Orange ให้บริการทั้งระบบ Pre-paid และระบบ Post-paid พร้อมทั้งมีอัตราค่าบริการที่หลากหลายรูปแบบให้แก่ลูกค้า การเปิดให้บริการของ Orange และผลการประกอบการที่ดีขึ้นของ Orange ในไตรมาสที่ 1 นี้ นับเป็นไตรมาสแรกของ Orange ที่ประสบความสำเร็จ ขณะนี้ทีมงานยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อให้มั่นใจว่าอีก 2-3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จะประสบความสำเร็จเหมือนที่ผ่านมา" นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (CFO) กล่าวว่า "การปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมากของทีเอโดยมีผลการดำเนินงานเป็นกำไรหากไม่นับรวมรายการพิเศษอื่นๆ นั้นนับว่าน่ายินดีมาก โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวได้สะท้อนถึงความสำเร็จของบริษัทฯ ในการเพิ่มรายได้ ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินนโยบายลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าทีเอน่าจะมีผลกำไรในไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า หากไม่นับรวม TA Orange" นายวิลเลี่ยม แฮริส กล่าวเสริมว่า "นอกเหนือจากผลประกอบการด้านการเงินที่ดีขึ้นอย่างมาก กระแสเงินสดของบริษัทฯ ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 62.4 % หรือ คิดเป็น 674 ล้านบาท ทำให้มีกระแสเงินสดถึง 1,755 ล้านบาท ไม่รวม TA Orange ซึ่งผลดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและบริการโครงข่ายข้อมูลดิจิตอล นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้จ่ายคืนเงินกู้ล่วงหน้า จำนวน 736 ล้านบาทในไตรมาสแรกนี้ด้วย" สำหรับผลประกอบการรวมที่ขาดทุน เพราะมีผลกระทบจากรายการพิเศษอื่นๆ จำนวน 7,284 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ผลขาดทุนจากบันทึกค่าเผื่อการลดมูลค่าของเงินลงทุนใน FLAG จำนวน 5,722 ล้านบาท และเป็นการด้อยค่าของอุปกรณ์ IN (Intelligent Network) ที่ถูกทดแทนบางส่วน จำนวน 1,562 ล้านบาท ส่วนรายการที่เกี่ยวข้องกับ FLAG ที่ยังไม่ได้สะท้อนในผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 นี้ คือ การบันทึกกำไร จำนวน 944 ล้านบาท จากการยกเลิกสัญญา SAILS ระหว่างบริษัทย่อยและบริษัทภายนอก คาดว่าจะบันทึกรายการดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 นี้ (โปรดดูรายละเอียดในรายงานที่บริษัทส่งไปยังตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 45) สำหรับอุปกรณ์ IN (Intelligent Network) นั้น บริษัทฯ ได้ตัดสินใจที่จะซื้ออุปกรณ์ใหม่บางส่วน เพื่อทดแทนอุปกรณ์เดิม ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับปริมาณลูกค้า PCT ได้มากขึ้นเป็นจำนวนถึงหนึ่งล้านลูกค้า และจะนำมาใช้พัฒนาบริการเสริมต่างๆ--จบ-- -สส-

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่นวันนี้

"เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการ งานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน ร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรม "Happy Money Sharing: Financial Well-Being Journey 2025" จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ส่งเสริมความรู้ทางการเงินในองค์กร แก่ผู้แทนองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งหมด 28 องค์กร ให้สามารถไปปรับใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับพนักงานในองค์กร สมาชิกในชุมชน หรือประชาชนทั่ว

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที... "MEDEZE" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024 — นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื...

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเ... SAFE โชว์กำไรฯปี 67 แตะ 167.09 ลบ. จ่ายปันผล 0.62 บ./หุ้น — นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวชนิดา พัธโนทัย (ขวา) ประธา...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" ฉายภาพธุรกิจ งาน Opp Day โชว์กำไรปี 67 โตแรง 169% — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอชิตเดช อาชาไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่...