CDGM เจาะลึกตลาดสตอเรจ โซลูชั่น ด้วยสโลแกน SYNERGY

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--CDGM ภูพิมาน รีสอร์ท/ปากช่อง - CDGM ประกาศทิศธุรกิจปี 2002 รุกตลาดตลาดสตอเรจ โซลูชั่นในบทบาทของการเป็นผู้วางโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้สโลแกนใหม่ 'SYNERGY' มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดกลางขึ้นไป ชี้ปริมาณข้อมูล (Data) ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปืที่ผ่านมา เป็นตัวแปรสำคัญที่จะต้องเกิดการบริหารจัดการด้วยสตอเรจ อีกทั้งยังเป็นส่วนที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานเปลี่ยนไป นายเชวง ธนาพันธรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์ จำกัด (CDGM) ผู้วางโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2002 ว่า จากการที่ CDGM ได้วางนโยบาย และกำหนดบทบาทของบริษัทฯ ให้เป็นผู้วางโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure Solution Provider) ในช่วงที่ผ่านมานั้น สำหรับปีหน้า CDGM จะยังคงดำเนินแนวนโยบายเดิม แต่จะมุ่งเน้นสตอเรจ โซลูชั่น (Storage Solution) เป็นหลักภายใต้สโลแกน 'SYNERGY' โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักที่องค์กรขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ " เราจะยังคงเป็นผู้วาง Infrastructure เหมือนเดิม แต่จะเจาะลึกลงไปที่ สตอเรจโซลูชั่น ที่มีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และ Professional Service ซึ่ง CDGM ได้เริ่มดำเนินการบ้างแล้วในปีนี้ และเห็นได้ชัดว่ามีแนวโน้มที่ดีมาก ดังนั้น บริษัทอาจจะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนรายได้ จากผู้ที่เคยนำเสนอเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์,โซลูชั่นและบริการ ในสัดส่วน 80:10:10 ตามลำดับ มาเป็น 60:25:15 มาในรูปแบบของการทำงานในเชิงโซลูชั่น และบริการ Professional Service " มากยิ่งขึ้น นายเชวงกล่าว นายเชวงกล่าวให้เหตุผลถึงการที่ CDGM มุ่งเจาะตลาดสตอเรจ โซลูชั่นว่า ประการแรก สตอเรจมีความสามารถในการบริหารจัดการ ข้อมูล โดยสตอเรจสามารถเชื่อมต่อกับระบบได้ทุกแฟลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น RISC 6000, AS/400, IBM Mainframe, HP, SUN , NT และอื่นๆ ซึ่งสตอเรจสามารถนำข้อมูลที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ Server แต่ละตัว แต่ละแฟลตฟอร์ม มารวมไว้ในที่เดียวกันแล้วบริหารจัดการข้อมูล (Data) ให้เกิดประสิทธิภาพในการนำไปใช้ จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาในด้านของ Capacity คอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ ซึ่งแม้จะมีจำนวนคอมพิวเตอร์ในองค์กรมากเท่าใด สตอเรจ โซลูชั่นก็สามารถจัดการได้ทั้งหมด ประการที่สอง คือ ปริมาณข้อมูล (Data) ในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก แอพพลิ-เคชั่นเกือบทุกประเภท อาทิ ERP, CRM, แอพพลิเคชั่นในการเขียนเว็บ ฯลฯ จะขึ้นมาอยู่บนคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งแอพพลิเคชั่นแต่ละประเภทมีปริมาณข้อมูลมหาศาล หรือแม้กระทั่งการส่งอี-เมล์ การส่งอี-เมล์ผ่านโทรศัพท์มือถือ เหล่านี้ล้วนต้องใช้ข้อมูลทั้งสิ้น ดังนั้นทิศทางของสตอเรจจะต้องใหญ่กว่าเซิร์ฟเวอร์แน่นอน เพราะข้อมูลจะต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทางลดลงอย่างเด็ดขาด "นอกจากนั้น สตอเรจยังมีความสามารถลดการ Down Time ซึ่งในเชิงธุรกิจหมายความว่าธุรกิจสามารถที่จะให้บริการได้ตลอดเวลาตราบใดที่ระบบไม่ Down ลองคิดง่ายๆหากลูกค้าต้องการจ่ายค่าบริการแล้วไม่สามารถจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลานานเท่าไหร่ นั่นหมายถึงรายได้ที่องค์กรจะต้องสูญเสียไปในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งสตอเรจจะมีส่วนช่วยทำให้ไม่ต้องสูญเสียเม็ดเงินไปเมื่อเกิดการ Down Time ด้วย ทั้งยังทำ Back Up Site ได้หากระบบที่ให้บริการนั้นเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น เช่น ไฟไหม้ แผ่นดินไหว อาจจะทำให้ระบบไม่สามารถให้บริการได้อีก แต่สตอเรจสามารถทำ Backup Site แล้วให้บริการได้เป็นปกติหากอีก Site ไม่สามารถให้บริการได้ และช่วยให้ธุรกิจประเภท 7*24 อาทิ แบงก์ในอนาคต หรือ บริการโทรศัพท์มือถือ ดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดการ Down Time ข้อมูลไม่หายไปไหน เพราะข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนทรัพย์สินขององค์กรหากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์หายไป เรายังซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าข้อมูลหาย เราไม่สามารถจะไปหาซื้อจากที่ไหนได้เลย นี่เป็นความสามารถของสตอเรจเพียงแค่บางส่วน สตอเรจยังมีลูกเล่นอีกมาก ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ว่าต้องการรองรับอะไรบ้าง " นายเชวงกล่าว ดังนั้น การวางโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกำลังจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่มีเน็ตเวิร์กและ เซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก แต่ปัจจุบัน ต้องเพิ่มสตอเรจเข้าไปด้วย โดย CDGM เลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายสตอเรจของ EMC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในโลก และมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการสตอเรจที่ดีที่สุด และเป็นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์สตอเรจเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ เมื่อบทบาทของ CDGM เจาะลึกมากขึ้น วิธีการทำงานทั้งของฝ่ายขายและวิศวกร (Engineer) ก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย มีการทำงานที่มากขึ้น ต้องเข้ารับการฝึกอบรม สอบให้ได้ใบ Certified วิธีการนำเสนอก็เปลี่ยนไป ต้องเข้าไปให้ความรู้แก่ลูกค้า สำรวจความ Critical ของงาน การทำงานของแอพพลิเคชั่น การทำงานของเซิร์ฟเวอร์รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาระบบให้กับลูกค้าเพื่อทำ Configuration แล้วนำกลับมาดีไซน์ระบบไปนำเสนอระบบที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ซึ่งการดีไซน์ Infrastructure จะต้องดีไซน์ทั้งเน็ตเวิร์ก เซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ และส่วนที่ครอบคลุมให้ทั้งหมดทำงานด้วยกัน ภายใต้ระบบความปลอดภัย ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของลูกค้า "เมื่อก่อนลูกค้าจะเป็นผู้ที่บอกกับเราว่า ต้องการเครื่องสเป็กแบบไหน แต่ปัจจุบันนี้บทบาทจะกลับกันเราจะต้องสำรวจจากองค์กรของลูกค้า แล้วนำเสนอว่า โซลูชั่นแบบไหนถึงจะทำให้การดำเนินธุรกิจรวมทั้งการจัดการองค์กรของลูกค้าดีขึ้น " นายเชวงกล่าว นายเชวงกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ CDGM มีโซลูชั่นที่ดีพร้อม ได้เห็นเทคโนโลยีที่หลากหลายประกอบกับบุคลากรที่มีอยู่เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีความชำนาญและความเชี่ยวชาญสูง ทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่ CDGM คัดเลือกให้ โดยเพิ่มมูลค่าด้วยการทำ Professional Service ให้กับลูกค้าด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้จึงรวมกันกลายเป็นคำว่า SYNERGY ซึ่งหมายความถึง คุณค่าของ CDGM ในการนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมให้กับลูกค้าโดยเอื้อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจที่เป็นต่อเหนือคู่แข่ง นอกจากการทำสตอเรจ โซลูชั่นแล้ว ธุรกิจของ Professional Service โดยเฉพาะการ Outsourcing ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเชื่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่ดีมากสำหรับบริการ Outsourcing ซึ่ง CDGM จะเน้นในการทำ Outsourcing ซึ่ง CGM จะเน้นการ Outsourcing ด้านการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่ลูกค้า บริษัท ซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์ จำกัด (CDGM) ก่อตั้งเมื่อปี 2537 เป็นผู้ให้บริการทางด้าน IT Infrastructure นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นบริษัทคู่ค้าของ EMC2 Compaq HP IBM Veritas Computer Associate MicroSoft Novell … สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี คุณชุติมา สีดา คุณสุชาดา ลอยหา คุณนุสรินทร์ เพ็ชร์หลำ โทร. 678-0200 ต่อ 2997-9 e-mail : [email protected] จบ-- -อน-

• ข่าวซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์
• ข่าวเทคโนโลยีสารสนเทศ
• ข่าวเชวง ธนาพันธรักษ์
• ข่าวการบริหารจัดการ
• ข่าวบริหารจัดการ