โรลส์รอยซ์เผยรายได้กลางปีพุ่งขึ้นตามเป้า หลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เน้นบริการหลังการขาย

30 Aug 2001

กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)

โรลส์รอยซ์ ผู้นำเทคโนโลยีการบิน การเดินเรือและการพลังงานจากประเทศอังกฤษ ประกาศผลประกอบการกลางปี ผ่านภาวะตลาดซบเซาและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวฉลุย โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15% พร้อมมียอดหนี้สุทธิเฉลี่ยลดลง 25 %

มร.สตีฟ มิลเลอร์ ผู้บริหารโรลส์รอยซ์ประจำประเทศไทย พม่า ลาวและกัมพูชากล่าวระหว่างการประกาศผลประกอบการว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศผลประกอบการกลางปีที่ดีเยี่ยมเป็นไปตามความคาดหมายทุกประการ เราได้คาดการณ์ล่วงหน้าถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้ติดตามผลมาโดยตลอดแม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะซบเซาก็ตาม ยอดขายของเราเพิ่มขึ้น 15% โดยมียอดขายทั้งสิ้น 3,042 ล้านปอนด์หรือประมาณ 194,094 ล้านบาท รายได้ก่อนหักภาษีก็เป็นไปตามเป้าหมายคือ 190 ล้านปอนด์หรือประมาณ 12,122 ล้านบาท หนี้สุทธิเฉลี่ยลดลง 25% มาอยู่ที่ 940 ล้านปอนด์หรือประมาณ 59,968 ล้านบาท นอกจากนี้ยอดสั่งสินค้าและรายได้จากการบริการมีอัตราเพิ่มขึ้น โดยมียอดสั่งซื้อมูลค่า 14.9 พันล้านปอนด์หรือประมาณ 949.6 พันล้านบาท นอกจากนี้ รายได้จากการบริการเพิ่มขึ้น 20% คิดเป็น 40% รายได้ทั้งหมด ทั้งนี้ผลประกอบการมีการปรับตัวดีขึ้น โดยมีส่วนต่างในการซื้อขายพื้นฐานเพิ่มขึ้น 15%

ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2544 เป็นไปตามการคาดการณ์ของบริษัทเมื่อปีที่ผ่านมา ใบหุ้นของธุรกิจที่มีดุลภาพของโรลส์รอยซ์นำมาซึ่งผลกำไรพื้นฐานก่อนหักภาษี มูลค่า 190 ล้านปอนด์หรือประมาณ 12,122 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจการบินพาณิชย์ชดเชยกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจพลังงาน ทั้งนี้คาดว่าการผสมผสานเช่นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย และเช่นเดียวกับบัญชีเดือนสิงหาคม 2544 คาดว่ารายได้พื้นฐานต่อหุ้นจะไม่เปลี่ยนแปลงในปี 2001 เซอร์ราล์ฟ โรบินส์ ประธานกรรมการบริษัทโรลส์รอยซ์ พีแอลซี กล่าวว่า "ผลประกอบการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โดยฝ่ายบริหารในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้รับความสำเร็จจากตลาดสำคัญที่มั่นคง ประกอบกับการขยายตัวของประเภทผลิตภัณฑ์รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงบริการตลอดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ธุรกิจของเราทั้งหมดล้วนมีโอกาสที่ดี ตลาดของธุรกิจประเภทนี้เป็นสิ่งที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม เราได้สร้างบริษัทที่แข็งแกร่งด้วยธุรกิจประเภทต่างๆที่มีดุลยภาพ การสั่งซื้อที่แข็งแกร่งอย่างมาก ตลอดจนถึงการปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องผนวกกับบุคลากรที่ทุ่มเทในการทำงาน ผลของการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากในบันทึกการสั่งซื้อมีมูลค่า 14.9 พันล้านปอนด์หรือประมาณ 949.6 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกนอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อมูลค่า 1.9 พันล้านปอนด์หรือประมาณ 12,222 ล้านบาทในส่วนที่มีการประกาศแล้วแต่ยังไม่มีการลงนาม"

บริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนี่งของกลยุทธ์ของโรลส์รอยซ์ สิ่งนี้ทำให้มีการขยายโอกาสของตลาดของธุรกิจแต่ละประเภทและให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีและลิขสิทธิ์ทางปัญญาที่มีต่อผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้รายได้จากบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น 20% โดยคิดเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมดของครึ่งปีแรก นอกจากนี้บริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องกระบวนการที่ดีเกิดขึ้นจากขั้นตอนแรกของโครงการที่สมเหตุสมผลซึ่งประกาศเมื่อปีกลาย เพื่อทำให้โครงสร้างของธุรกิจง่ายขึ้นและสร้างผลกำไรที่มั่นคงมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้มีการตั้งเป้าหมายเชิงรุกเพื่อลดเวลาในการจัดส่งสินค้า โดยได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนที่ประสบความสำเร็จทั้งในส่วนของศักยภาพและความสามารถในการผลิตของเครื่องจักร

โรลส์รอยซ์ได้ทำรายงานประจำปีสำหรับภาคธุรกิจแต่ละประเภทเสร็จสมบูรณ์เมื่อเร็วๆนี้ และเริ่มตั้งเป้าการเติบโตของรายรับพื้นฐานและการลดหนี้สุทธิเฉลี่ยสำหรับปีหน้า เงินปันผลงวดกลางปีนี้มีมูลค่าเท่ากับ 3.18 เพนต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในวันที่7 มกราคม 2545 จะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่ลงทะเบียนในวันที่ 19 ตุลาคม 2544 กำหนดวันจ่ายเงินปันผลโดยไม่รวมเงินปันผลในงวดต่อไปคือวันที่ 17 ตุลาคม 2544

ข้อมูลสำหรับกองบรรณาธิการ

โรลส์-รอยซ์ พีแอลซี เป็นองค์กรระดับโลกที่ตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและอนาคตของอุตสาหกรรมการบินพลเรือน การบินทหาร และการพลังงาน ปัจจุบันมีฐานปฏิบัติการอยู่ใน 20 ประเทศทั่วโลก เทคโนโลยีแก๊สเทอร์บายน์ที่เป็นหัวใจสำคัญของโรลส์รอยซ์ คือเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์กลุ่มเครื่องยนต์อากาศยานที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก

ปัจจุบันเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ 55,000 ลำ ติดตั้งให้บริการอยู่ตามสายการบินชั้นนำ 500 แห่ง องค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการทางด้านการบิน 2,400 แห่ง และกองทัพมากกว่า 160 แห่ง โดยจัดเป็นเครื่องยนต์ประเภทขับเคลื่อนปีกนิ่ง (Fixed Wing Aircraft) และเครื่องบินปีกหมุน (Rotary Wing Aircraft)

นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ ยังเป็นผู้ให้บริการเครื่องยนต์ขับเคลื่อนทางน้ำ แก่กองทัพเรืออีกกว่า 30 แห่ง และทางบริษัทยังได้ลงทุนในตลาดอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมน้ำมัน อุตสาหกรรมก๊าซและการผลิตพลังงาน และบริษัท โรลส์-รอยซ์ พาวเวอร์ เวนเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโรลส์-รอยซ์ ก็ยังเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการหลายๆ โครงการของทางบริษัทอีกด้วย

โรลส์-รอยซ์ คือผู้นำทางด้านเทคโนโลยีแก๊สเทอร์บายน์สำหรับการบิน การผลิตพลังงาน และการผลิตเครื่องยนต์ขับเคลื่อนทางน้ำ ปัจจุบันบริษัทมีส่วนร่วมในโครงการเพื่ออนาคตที่สำคัญๆ หลายโครงการในอุตสาหกรรมประเภทดังกล่าว รวมทั้งโครงการเครื่องยนต์การบินและอุตสาหกรรมในตระกูล เทรนท์ โครงการเครื่องยนต์ยูโรไฟท์เตอร์ ไทฟูน (Eurofighter Typhoon) และ จอยท์ สไตรค์ ไฟท์เตอร์ (Joint Strike Fighter) และโครงการเครื่องยนต์ขับเคลื่อนทางน้ำ ดับเบิ้ลยูอาร์ 21 (WR21) สนใจสามารถค้นหาข้อมูลของ บริษัทโรลส์-รอยซ์ ได้ที่ www.rolls-royce.com-- จบ--

-อน