กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินสำหรับงวดไตรมาส 3 ของปี 2543 ก่อนการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระสรุปผลประกอบการที่สำคัญ ธนาคารมีผลกำไรที่ดี และมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการเป็นผู้นำในธุรกิจรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้
ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการเบื้องต้นก่อนการสอบทานสำหรับงวดบัญชีไตรมาส 3 ของปี 2543 ที่คำนวณโดยวิธีส่วนได้เสีย ธนาคารมีกำไรสุทธิ 754 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 2,694 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันและวิธีเดียวกันของปี 2542 และสำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 2,787 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 36,978 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้ ธนาคารมีรายจ่ายค่าหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 971 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการสำรองเผื่อการลดค่าของทรัพย์สินรอการขายจำนวน 570 ล้านบาท
รายการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจากดอกเบี้ยจ่าย (ก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 จำนวน 3,690 ล้านบาท และ 11,018 ล้านบาทตามลำดับ เทียบกับ 2,978 ล้านบาท และ 7,117 ล้านบาทในแต่ละงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยรับและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้นเนื่องจากการแก้ไขหนี้มีปัญหามีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ ตั้งแต่ไตรมาส 1/2543 ธนาคารยกเลิกดอกเบี้ยค้างรับทั้งหมดของลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้เงินต้นหรือดอกเบี้ยครบ 3 เดือน ทำให้ดอกเบี้ยรับของไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ลดลงจำนวน 106 ล้านบาทและ 682 ล้านบาทตามลำดับ
ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (ไม่รวมกำไรจากการขายหลักทรัพย์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยและร่วม)ในไตรมาส 3 ปีนี้ จำนวน 1,369 ล้านบาท ลดลง 275 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแม้ว่าธนาคารจะยังคงมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเป็นผู้นำในธุรกิจรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ แต่กำไรจากการปริวรรตลดลงจำนวน 275 ล้านบาท นอกจากนี้ธนาคารมีกำไรจากการขายหลักทรัพย์จำนวน 128 ล้านบาทซึ่งลดลง 1,694 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้ ธนาคารไม่มีการขายเงินลงทุนรายการใหญ่ๆ
ธนาคารมีค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (ไม่รวมการลดราคาของหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายพิเศษจากการสำรองเผื่อการลดค่าของทรัพย์สินรอการขาย)ในไตรมาสนี้ จำนวน 3,112 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 198 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นความสามารถในการควบคุมต้นทุนของธนาคาร อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีผลขาดทุนจากการลดราคาของหลักทรัพย์จำนวน 110 ล้านบาทตามภาวะตลาด นอกจากนี้ ธนาคารมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการตั้งสำรองเผื่อการลดค่าของสินทรัพย์รอการขายจำนวน 570 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามหลักความระมัดระวัง
ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 3 จำนวน 971 ล้านบาทและในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ จำนวน 5,429 ล้านบาท โดยการจัดชั้นลูกหนี้อย่างเข้มงวดและตั้งสำรองส่วนเกินตามนโยบายของธนาคาร เพื่อสำรองไว้เผื่อการเสื่อมค่าของสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามหลักความระมัดระวังยิ่งขึ้น ในภาวะที่ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ยังไม่หมดไปอย่างสมบูรณ์ สำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 มีจำนวน 20,936 ล้านบาท งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2543
ธนาคารมีสินเชื่อก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 479,713 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2542 จำนวน 8,785 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นจากยอดเมื่อสิ้นไตรมาสที่แล้ว 3,097 ล้านบาท ซึ่งแสดงแนวโน้มการขยายสินเชื่อที่ดีขึ้นบ้าง ดอกเบี้ยค้างรับมีจำนวน 2,772 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2542 จำนวน 1,197 ล้านบาท
ธนาคารมียอดเงินฝาก 585,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2542 จำนวน 22,406 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.0
ธนาคารมีส่วนของผู้ถือหุ้น 53,464 ล้านบาท มีเงินกองทุนตามกฎหมาย (ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2) รวม 74,788 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15.6 ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 9.7
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs)
ธนาคารมียอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ซึ่งรวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน ณ สิ้นกันยายน 2543 จำนวน 91,156 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.7 ของสินเชื่อรวมซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวน 101,301 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.0 ณ สิ้นไตรมาสที่ 2
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)19 ตุลาคม 2543
--จบ--
-สส-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit