กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
(กรุงเทพฯ - 8 สิงหาคม 2543) - ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ สร้างสถิติใหม่ด้วยการเร่งยอดขายในช่วงไตรมาสสี่เพียงไตรมาสเดียวทะลุ 5,000 ล้านเหรียญเป็นครั้งแรก โดยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 42% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5,017 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ รายได้สุทธิเป็นเงิน 659.5 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 67% เทียบกับรายได้สุทธิของปีที่ผ่านมาจำนวน 395.3 ล้านเหรียญ (ไม่รวมรายได้จากการขายหุ้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการในปีบัญชี 2542) ทั้งนี้ กำไรสุทธิต่อหุ้นประจำไตรมาสที่ 4 มีมูลค่า 0.39 เหรียญ เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (ไม่รวมรายได้จากการขายหุ้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการในปีบัญชี 2542)
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ซันมีกำไรสุทธิ 92.7 ล้านเหรียญ จากรายการพิเศษซึ่งประกอบด้วยรายได้จาก การขายหุ้นทุน 95.8 ล้านเหรียญ หักค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการ อินโนซอฟท์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ มูลค่า 3.1 ล้านเหรียญสำหรับการดำเนินการวิจัยและพัฒนา และเมื่อรวมรายการพิเศษ ดังกล่าวแล้ว ทำให้ในไตรมาสที่ 4 ของปีบัญชี 2542 ซันมีรายได้สุทธิมูลค่า 720.4 ล้านเหรียญ และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.42 เหรียญสหรัฐ
สำหรับปีบัญชี 2542 รายรับของซันมูลค่ารวม 15,721 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตขึ้น 33% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้สุทธิก่อนหักภาษี 1,725 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ไม่รวมรายได้จากการขายหุ้นทุนในปีบัญชี 2542 และค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการในปีบัญชี 2542 และ 2541) กำไรสุทธิต่อหุ้นซึ่งยังไม่รวมรายการพิเศษเหล่านี้เท่ากับ1.02 เหรียญ เพิ่มขึ้น 46% จากปีที่แล้ว และ "ซัน" ปลื้มยอดขายไตรมาสสี่ทะลุ 5,000 ล้านเหรียญ เผยรายได้สุทธิเติบโตขึ้น 67%
เมื่อรวมรายการพิเศษดังกล่าว ทำให้บริษัทมีรายได้สุทธิ 1,854 ล้านเหรียญ และกำไรสุทธิต่อหุ้นในปีบัญชี 2543 รวมทั้งสิ้น 1.10 เหรียญ"ตัวเลขทั้งหมดได้บ่งบอกถึงการยอมรับของลูกค้าในผลิตภัณฑ์และบริการของเรา" มร. สก็อต แม็คนีลลีย์ ประธานกรรมการบริหาร ซัน ไมโครซิสเต็มส์ กล่าวพร้อมกับเสริมว่า "ด้วยดัชนีสำคัญๆ ทุกตัวรวมทั้งส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นมหาศาล บ่งชี้ว่าซันมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ และเพียงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของซันได้เพิ่มขึ้นจากการเป็นผู้ค้าคอมพิวเตอร์ ระบบเปิดอันดับ 4 ในตลาดมาเป็นผู้ค้าอันดับหนึ่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น"
"วิสัยทัศน์ การมุ่งเน้นขยายการเติบโตในตลาดต่างๆ และการดำเนินงานของซันถือเป็นแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้" มร. สก็อต แมคนีลลีย์กล่าวและเสริมว่า "ด้วยความสำเร็จอย่างงดงามของแพลทฟอร์มหลักของเรา ไม่ว่าจะเป็น ตัวประมวลผลสปาร์ค (SPARC) ระบบปฏิบัติการโซลาริส (Solaris) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล Sun StorEdge Java Jini Jiro iPlanet และ Forte ได้ตอกย้ำความเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งโลกอนาคตของซันได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น องค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพรส์และเซอร์วิส โพรวายเดอร์ ล้วนแล้วแต่เลือกซันในการช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบเครือข่ายและธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์ คอมเมิร์ซ"
มร. แมคนีลลีย์ กล่าวสรุปว่า "ความเชื่อของเราคือ สักวันหนึ่ง อุปกรณ์เครื่องใช้ดิจิตอลหรือ อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทจะสามารถเชื่อมโยงการทำงานเข้ากับอินเตอร์เน็ตและแน่นอนว่าต้องเชื่อมกับเซิร์ฟเวอร์ของซัน"
มร. ไมเคิล อี. เลห์แมน รองประธานกรรมการฝ่ายทรัพยากรองค์กรและประธานฝ่ายการเงินของ ซันกล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "ผลประกอบการในปีนี้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจและโดดเด่นอย่างมาก เราได้จัดทำบันทึกการเงินของปีบัญชี โดยแบ่งออกเป็น การจองซื้อสินค้า (bookings) รายรับ (revenue) กำไรขั้นต้น (gross margin) รายได้สุทธิ (net income) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ธุรกิจของเรามีการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลก เรามองเห็นการเติบโตที่ดีในหลายตลาด นับตั้งแต่ กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ภาคบริการทางการเงิน ค้าปลีก และอุตสาหกรรมการผลิต เรายังเดินหน้าขยายส่วนแบ่งตลาดอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการตั้งเป้าการจำหน่ายประจำ
"ซัน" ปลื้มยอดขายไตรมาสสี่ทะลุ 5,000 ล้านเหรียญ เผยรายได้สุทธิเติบโตขึ้น 67%
ไตรมาสและประจำปีของผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่ม ตั้งแต่เวิร์คสเตชั่นไปจนถึงเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ 10000 ซึ่งเป็นเครื่องระดับไฮเอนด์"
"ด้วยการเปิดตัวระบบจัดเก็บข้อมูล Sun StorEdge ซอฟต์แวร์ และบริการล่าสุดของซัน ผนวกกับระบบปฏิบัติการอันทรงพลังโซลาริส 8 ซึ่งรันด้วยตัวประมวลผลอัลตร้าสปาร์ค ทรี (UltraSparc III) ทำให้เรายังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดต่อไป นอกจากนี้ ในงานสัมมนานักพัฒนาโปรแกรมภาษาจาวาประจำปี Java One นั้น ยังมีองค์กรธุรกิจและคู่ค้ากว่า 330 แห่งซึ่งใช้เทคโนโลยี จาวาเข้าร่วมงานด้วย ทั้งนี้ แพลทฟอร์มจาวาทู (Java 2 Platform) ยังคงเป็นมาตรฐานชั้นนำสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมในการสร้างและใช้งานแอพพลิเคชั่นสำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายอีกด้วย โดยปัจจุบันมีผู้ขอไลเซ่นส์ Java 2 Enterprise Edition ไปใช้งานเพิ่มเติมหลายราย อาทิ ออราเคิล บีอีเอ ซิสเต็มส์ อิงค์ ไอบีเอ็ม และคอมแพค คอมพิวเตอร์ ในขณะที่มี ผู้ขอไลเซ่นส์ Java 2 Micro Edition ไปใช้คือ โนเกียและซีเมนส์" มร. เลแมน กล่าวสรุป
เกี่ยวกับซัน ไมโครซิสเต็มส์
บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงก์ (สัญลักษณ์ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq คือ SUNW) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2525 และด้วยวิสัยทัศน์อันโดดเด่นที่ว่า "The Network Is The Computer" ทำให้ซันเป็นผู้นำ ด้านการพัฒนาและจัดหาระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของระบบอินเตอร์เน็ตในองค์กรธุรกิจต่างๆ ทั้งยังนำเสนอโซลูชั่นสำหรับองค์กรที่ต้องการเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย ซันมีรายได้ปีละ 15,700 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสำนักงานอยู่ในประเทศต่างๆมากกว่า 170 ประเทศ และมีข้อมูลอยู่ในเวิลด์ไวด์เว็บที่ http.//www.sun.com.sg
ซัน ซัน ไมโครซิสเต็มส์ โลโก้ซัน โซลาริส ซันเรย์ และ "The Network is The Computer" คือเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงก์ ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
รัมภา บุศยอังกูร สิริพร ศุภรัชตการ หรือ สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
ซัน ไมโครซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 636-1555 โทร. 252-9871-7
อีเมล์
[email protected] อีเมล์
[email protected] /
[email protected] จบ--
-อน-