อย.เผยบัญชียาหลักฯ ครอบคลุมยารักษาเอดส์

กรุงเทพ--30 ส.ค.--อย. อย.เผย บัญชียาหลักแห่งชาติ 2542 มิได้ปิดกั้นผู้ป่วยเอดส์ที่ยากจนหรือด้อยโอกาส มียาต้านเชื้อเอชไอวี รวมทั้งยารักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาส บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักฯ ไม่ว่าจะเป็นยาเอแซดที ดีดีไอ และฟลูโคนาโซล ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อราที่มักจะทำให้เกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง น.พ.เฉลิมชัย ชูเมือง รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำรายการบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการเบิกจ่ายของสถานพยาบาล โดยที่รายการยาจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเอดส์เกือบทั้งหมดไม่ได้รับการบรรจุไว้ในรายการบัญชียาหลักฯ ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายค่ายาได้ ทั้งผู้ป่วยที่ใช้สวัสดิการข้าราชการ บัตรประกันสังคม บัตรประกันสุขภาพ และบัตรสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย นั้น อย.ขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ทั้งนี้ เพราะหลักการในการจัดทำบัญชียาหลักฯ ได้มุ่งเน้นให้เป็นบัญชียาที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนชาวไทย มีความครอบคลุมโรคและการรักษาสุขภาพของคนไทยในระดับที่จำเป็น ขาดไม่ได้ แต่ประหยัดและคุ้มค่า ในส่วนของยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยเอดส์ คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักฯ ได้ตระหนักในความจำเป็นที่จะต้องมียาต้านไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง (anti HIV drugs) และยารักษาโรคแทรกซ้อนฉวยโอกาสไว้ใช้ในการป้องกันบำบัดรักษาผู้ป่วย จึงได้คัดเลือกยาดังกล่าวบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้แก่ ไซโดวูดีน (ZIDOVUDINE (AZT)), ไดดาโนซีน (DIDANOSINE (DDI)) และซัลซิทาบีน (ZALCITABINE) รวมทั้ง ฟลูโคนาโซล (FLUCONAZOLE) ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อราที่มักจะทำให้เกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง น.พ.เฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับยาที่จะได้รับการคัดเลือกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักฯ จะต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ยืนยันประสิทธิภาพความปลอดภัยของยานั้น สำหรับยาต้านไวรัสโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เป็นยาใหม่ (NEW DRUGS) และอยู่ระหว่างการติดตามความปลอดภัยตามโครงการ Safety Monitoring Program (SMP) ของ อย. จึงยังไม่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากผลวิเคราะห์ข้อมูลในโครงการ SMP พบว่ายารายการใดไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงเมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับ บุคลากรหรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเสนอให้คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักฯ พิจารณาเพิ่มเติมไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติได้ ในการแก้ไขปรับปรุง ซึ่งกำหนดจะดำเนินการทุก 3-6 เดือน--จบ--

ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+เฉลิมชัย ชูเมืองวันนี้

สธ. ลงพื้นที่เฝ้าระวังสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม จากสถานการณ์สารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก จังหวัดเชียงใหม่

วานนี้ (20 เมษายน 2568) ดร.นายแพทย์พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย พลโทณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ดร.นายแพทย์นิธิรัตน์ บุญตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ และหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์สารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการเฝ้าระวังประเด็นการปนเปื้อนสารหนูในแหล่งน้ำ

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... 'เดชอิศม์' ระดมทันตแพทย์ มอบฟันเทียม 45,000 รายทั่วประเทศ เป็นของขวัญวันผู้สูงอายุ — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกระ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคั... กรมอนามัย ย้ำ น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดภัย — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคัญของน้ำประปาที่มีคุณภาพต่อสุขภาพของประ...

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... สธ. แนะ 4 วิธี 'ปลอดโรค ปลอดภัย สุขอนามัยดี' เตรียมพร้อมก่อนเที่ยวสงกรานต์ — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์...