เตรียมแผนอพยพคนไทย-แรงงานไทย ภายหลังอเมริกา-อังกฤษ โจมตีอิรัก

กรุงเทพ--18 ธ.ค.--กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดเผยถึงแผนเตรียมอพยพคนไทยและแรงงานไทยไปสู่สถานที่ปลอดภัย ภายหลังประเทศสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ตัดสินใจโจมตีประเทศอิรัก เมื่อคืนวันที่ 16 ธันวาคม 2541 ตามเวลาประเทศไทยประมาณ 04.00 น. ซึ่งเหตุผลเนื่องจากทางองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธชีวเคมีแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ทางรัฐบาลไทยเองได้เคยเตรียมแผนไว้แล้ว และคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2541 อนุมัติแผนเฉพาะกิจ เพื่อให้การช่วยเหลือและอพยพคนไทยในประเทศแถบตะวันออกกลาง และตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจประสานการช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแบกแดก ได้เตรียมแผนอพยพไว้ในกรณีฉุกเฉินหากอิรักถูกโจมตี โดยจะใช้แผนที่ 1 อพยพคนไทยออกจากอิรักโดยทางเครื่องบินของ UN ของแผนที่ 2 กรณีใช้เครื่องบินไม่ได้จะอพยพคนไทยโดยทางรถยนต์ เข้าประเทศจอร์แดนและพักที่โรงแรมดาโรเทล หรือบ้านพักกงศุลใหญ่กิติมศักดิ์ในกรุงอัมมาน ทั้งนี้คนไทยในประเทศอิรัก มีจำนวนประมาณ 51 คน เป็นนักเรียนไทย 28 คน นอกจากนั้นเป็นคนไทยแต่งงานกับคนอิรัก และครอบครัวของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่าแรงงานไทยขออนุญาตเข้าไปทำงานในอิรักแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามประเทศใกล้เคียงอิรักในแถบตะวันออกกลาง มีคนไทยอีกจำนวนประมาณ 75,000 คน ที่อาจจะได้ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ได้ เช่น ประเทศคูเวต มีคนงานไทย 2,982 คน กรณีการสู้รบเต็มพื้นที่อิรัก จะอพยพคนไทยบริเวณชายแดนคูเวตตอนใต้ของอิรักเข้าสู่คูเวตซิตี้ ส่วนประเทศซาอุดิอาระเบีย มีคนไทย 34,000 คน เตรียมแผนอพยพไว้ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 หากมีการสู้รบบริเวณชายแดนซาอุ-อิรัก จะอพยพคนไทยเข้าเมืองโฮฟุฟ (Hofuf) ทางตอนกลางของประเทศใกล้เมืองริยาด ขั้นที่ 2 กรณีมีการสู้รบชายแดนคูเวต-อิรัก จะอพยพคนไทยเข้าเมืองโฮฟุฟเช่นกัน ขั้นที่ 3 กรณีมีการสู้รบในซาอุฯ จะอพยพคนไทยเข้าเมืองหลัก 3 เมือง คือ ริยาด (Riyad) เจดดาห์ (Jeddah) และอาห์ราน (Daharan) ซึ่งจะใช้เป็นจุดที่จะส่งคนไทยกลับประเทศทางเครื่องบิน ส่วนในประเทศอิสราเอล มีคนไทย 24,111 คน มีแผนอพยพคนไทยเข้าสู่เขตปลอดภัยทางตอนใต้ 2 เมือง ได้แก่ อีลัต (EILAT ห่างจากกรุงเทลอาวีฟ 400 ก.ม.) และเมือง RAFIAH (ห่างจากกรุงเทลอาวีฟ 150 ก.ม.) ขณะนี้สำนักข่าวไทย รายงานสถานการณ์อิรักว่า ประธานาธิบดีคลินตันได้สั่งการให้กองกำลังสหรัฐโจมตีอิรักโดยใช้แผนยุทธการจิ้งจอกทะเลทราย เพื่อลงโทษอิรักที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับคณะเจ้าหน้าที่ของ UN ในการตรวจสอบอาวุธ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีแบล์ของอังกฤษ ได้ประกาศทุ่มกำลังเข้าร่วมฏิบัติการของสหรัฐในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าของอิรักได้แสดงความเคลื่อนไหวที่จะยับยั้งการโจมตีของสหรัฐในครั้งนี้ ในขณะที่รัฐมนตรีความมั่นคงแห่ง UN ได้เรียกประชุมฉุกเฉินตามที่รัสเซียเรียกร้อง ส่วนทางประชาชนอิรักร่วมกันต่อสู้การโจมตีครั้งนี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าอิรักจะต้องเป็นฝ่ายชนะในส่วนประเทศคูเวต ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน สั่งการให้กองกำลังทหารหลายหน่วยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว--จบ--

• ข่าวกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
• ข่าวองค์การสหประชาชาติ
• ข่าวสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
• ข่าวการกระทรวงแรงงาน
• ข่าวกระทรวงแรงงาน